22 มี.ค.63- ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเปิดเป็นศูนย์บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโควิด-19  นายสมพงษ์ มากมณี รอง ผวจ.นครศรีธรรมราชพร้อมด้วย นพ.จรัสพงษ์  สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช,นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา และผู้บริหาร ผอ.รพ.ต่างๆในจ.นครศรีธรรมราช ได้มีการประชุมสรุปสถานการณ์ล่าสุดของการระบาดโรคโควิด-19ในจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อในจ.นครศรีธรรมราชแล้วจำนวน 2รายคือ นักศึกษาหนุ่มวัย21ปีที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอิหร่าน มาที่บ้านพักใน อ.ท่าศาลา  และรายที่ 2 เป็นเซียนมวยที่เดินทางกลับมาจากสนามมวยลุมพินี กทม.มาที่บ้านใน ต.โพธิ์สเด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ล่าสุดนายสมพงษ์ กล่าวว่า ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ล่าสุดพบผู้ติดเชื้ออีก2 รายในพื้นที่ อ.ชะอวด โดยคนแรกเป็นลูกของเซียนมวย และอีกคนเป็นคนขับรถของเซียนมวย ที่เดินทางกลับมาจากสนามมวยลุมพินี กทม. ซึ่งขณะนี้ทาง จนท.สาธารณสุขได้นำตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19ทั้งสองคนส่งไปรักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งแล้ว  ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสองรายติดเชื้อโควิด-19มจากเซียนมวย2คน ที่อยู่ในสนามมวย ซึ่งทั้งสองคนได้เข้ารักษาตัวอยู่ใน รพ.รามาธิบดีและรพ.หาดใหญ่ก่อนหน้านี้แล้ว

นายสมพงษ์ กล่าวว่า สรุปล่าสุดขณะนี้ ทำให้ จ.นครศรีธรรมราชมียอดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19แล้ว4 ราย โดยรายแรกเป็น นศ.หนุ่มวัย21ปีที่เดินทางกลับจากประเทศอิหร่านมาที่บ้านพักใน อ.ท่าศาลา แล้วเข้ารักษาตัวใน รพ.ท่าศาลา ล่าสุดได้รับการยืนยันจาก นพ.กิตติ  รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา ว่าได้รักษาตัวนศ.หนุ่มคนดังกล่าวจนหายขาดไม่มีเชื้อแล้วหลังจากนอนรักษาตัวที่ รพ.ท่าศาลา ตั้งแต่2-22 มี.ค.2563 ซึ่งในวันพรุ่งนี้(23มี.ค.)เวลา09.00 น.ทาง รพ.ท่าศาลา จะอนุญาตให้ นศ.หนุ่มคนดังกล่าวกลับบ้านพักไปอยู่บ้านกับญาติได้ตามปกติได้ แต่ห้ามเดินทางไปไหนเป็นเวลา1เดือน ส่วนผลตรวจญาติและคนใกล้ชิดทุกคนไม่มีใครติดเชื้อ เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง

ส่วนรายที่ 2 เป็นหนุ่มวัย34ปีซึ่งเป็นเซียนมวยเดินทางกลับจากสนามมวยลุมพินี กทม.ติดเชื้อยังพักรักษาตัวใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จนกระทั่งล่าสุดมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2รายใน อ.ชะอวด ซึ่งได้นำตัวรักษาตัวใน รพ.แห่งหนึ่งแล้ว และจะได้ตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดของผู้ป่วยทั้งสองคนต่อไปและได้รายงานไปยังกระทรวงสาธารณสุข แถลงเป็นทางการพรุ่งนี้ต่อไป

นายสมพงษ์ ระบุว่า ส่วนมาตรการคุ้มเข้มทางจังหวัดได้เพิ่มความเข้มด้วยการคุมคนที่เดินทางกลับจากทม.และปริมณฑล ทุกคนตั้งแต่22มี.ค.จะต้องรายงานตัวต่อจนท.ฝ่ายปกครองและอสม.ในพื้นที่ของตน เพื่อกักตัวเองในบ้านพักเป็นเวลา14วัน ไม่ให้ออกไปไหนจนกว่าจะปลอดภัย .