อาบีย์ อาเหม็ด นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปีย เรียกร้องประชาชนอย่าเลือกปฏิบัติต่อชาติใดชาติหนึ่ง หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในประเทศ ทำให้มีกระแสต่อต้านคนต่างชาติ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเอธิโอเปียวัดอุณหภูมิผู้โดยสารบริเวณจุดควบคุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติโบเล ในกรุงแอดดิสอาบาบา

    ช่วง 6 วันที่ผ่านมามีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเอธิโอเปีย 6 ราย และเมื่อวันพุธสถานทูตสหรัฐในเอธิโอเปียเผยว่า มีรายงานชาวต่างชาติในเอธิโอเปียโดนคุกคามทางวาจาและทางร่างกายเพราะคิดว่าเป็นผู้นำไวรัสนี้เข้ามาในประเทศ

    นายกฯ อาบีย์ อาเหม็ด แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคมว่า ความพยายามสร้างความตระหนักถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องระดับชาติ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือ ไวรัสนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศใดประเทศหนึ่งหรือเชื้อชาติใด ทุกคนมีความเสี่ยงเท่ากันที่จะติดเชื้อไวรัสนี้ ความพยายามที่จะป้องกันตนเองไม่ให้ติดไวรัส จะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อมนุษยธรรมของเรา และอุปนิสัยที่เห็นอกเห็นใจกัน ในฐานะเป็นประชาคมโลก เราต่างเป็นผู้ปกป้องซึ่งกันและกัน อย่าปล่อยให้ความกลัวปล้นความเป็นมนุษย์ไปจากตัวเรา

    อาบีย์เป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2562 จากความพยายามสร้างสันติภาพกับเอริเทรียประเทศเพื่อนบ้านที่ขัดแย้งกับเอธิโอเปียมาหลายสิบปี

    ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเอธิโอเปียที่ได้รับการยืนยันแล้วมี 6 ราย โดย 3 รายเป็นชาวญี่ปุ่นและหนึ่งรายเป็นนักการทูตอังกฤษ ส่วนอีก 2 คนเป็นชาวเอธิโอเปีย

    จากรายงานแจ้งเตือนเรื่องความปลอดภัยของสถานทูตสหรัฐในเอธิโอเปียระบุว่า มีความรู้สึกต่อต้านชาวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้นในเอธิโอเปีย หลังมีการประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ มีชาวต่างชาติในเอธิโอเปียที่โดนขว้างก้อนหินใส่, โดนปฏิเสธให้บริการการขนส่ง, โดนถ่มน้ำลายใส่, ถูกวิ่งไล่และโดนกล่าวหาเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19

    ทวีปแอฟริกามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาต่ำกว่าทวีปอื่น โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้มากกว่า 730 ราย ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสูง ได้แก่ อียิปต์, แอฟริกาใต้และแอลจีเรีย.