สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 50 รายจากกลุ่มสนามมวย-สถานบันเทิง รอลุ้นผลตรวจอีก 118 ราย ผงะ!เด็กวัย 6 เดือนติดเชื้อ "อธิบดีกรมควบคุมโรค" ห่วง "ผู้สูงอายุ-เด็กเล็ก" ไม่ควรออกจากบ้าน "บิ๊กตู่" เชิญภาคธุรกิจถกผลกระทบไวรัส 26 มี.ค.นี้ ขอ ปชช.ล็อกดาวน์อยู่บ้านป้องกันการแพร่ระบาด "โฆษกรัฐบาล" ยันแค่ทดลองไม่ได้บังคับ ก่อนประเมินยกระดับมาตรการ "มท." เอาจริงทุก จว.ต้องปิดผับบาร์ 14 วัน "กพท." เข้มเข้า ปท.ต้องมีใบรับรองแพทย์การันตี "เด็กไทยในอังกฤษ" โวยกลับบ้านลำบากขึ้น
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วันที่ 20 มี.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 ประจำวันว่า ในวันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 ราย ยอดสะสม 322 ราย จำแนกเป็น 2 กลุ่ม 41 ราย หรือ 80% สนามมวยเพิ่ม 18 ราย เป็นผู้ชมที่เข้ามาดูเดินทางจากต่างจังหวัด เซียนมวย กรรมการสนามมวย และพบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง 5 ราย เป็นทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการ ซึ่งกระจุกตัวในสถานบันเทิงย่านทองหล่อและรามคำแหง และเริ่มค้นพบผู้ป่วยเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ในส่วนของผู้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย พบติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย อยู่ในปัตตานีและสงขลา
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่กลุ่มที่ 2 จำนวน 9 ราย หลักๆ ยังเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่ง 2 ราย กลับจากประเทศอังกฤษ เป็นนักศึกษาและพนักงานราชการที่ทำงานในอังกฤษ ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา 2 ราย และผู้ประกอบอาชีพใกล้ชิดคนต่างชาติ อาชีพไกด์ และพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งอยู่ในข่ายเฝ้าระวังและติดตาม นอกจากนี้อีก 3 รายรอผลสอบสวนเพิ่มเติม ขอย้ำว่ายังคงมีกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับสนามมวยและพิธีกรรมศาสนา ที่ต้องค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ยังมีผู้ที่รอผลตรวจอีก 118 ราย จึงขอให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามมวย สถานบันเทิง และการประกอบกิจกรรมทางศาสนา ช่วยแสดงตัวโดยด่วน ในช่วงนี้ผู้สูงอายุและเด็กเล็กไม่ควรออกจากบ้าน เพราะหากป่วยติดเชื้ออาจป่วยหนัก" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
ถามถึงกระแสเรียกร้องให้ปิดประเทศ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีชัดเจน คือปิดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในทันที ปิดพื้นที่ในเชิงป้องกัน และลดการเคลื่อนย้าย คำว่า ปิด หลายประเทศปิดเกาะ มีทางเข้าทางเดียวปิดได้ แต่ในหลายประเทศ ยกตัวอย่างอิตาลีปิดประเทศได้ปิดหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ยังมีสายการบินจากอิตาลีมาหาเรา คำสั่งของรัฐบาลคือการจำกัดพื้นที่ ปิดดีที่สุดคือปิดตัวเอง อย่าถามหาความรับผิดชอบจากคนอื่น ควรถามหาความรับผิดชอบจากตนเอง
"สภาพปัญหาโดยรวม 76.7% พบผู้ติดเชื้อใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก โดยผู้ป่วยเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในสนามมวย ดังนั้นผู้ที่เขาไปในสนามมวยจึงเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อ ควรจะกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ป้องกันตัวเองจากบุคคลครอบครัว หากมีไข้ให้ติดต่อประสานเจ้าพนักงาน ซึ่งยืนยันการตรวจวินิจฉัยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะนี้เชื่อว่ายังมีผู้สัมผัสอีกมากซึ่งกำลังเร่งสอบสวนติดตาม ขอให้ควบคุมตัวและประเมินความเสี่ยง แม้ภาพรวมจะมีอาการไม่มาก แต่ต้องระวังกักตัวเองอย่างเคร่งครัด งดเดินทางและงดกิจกรรมทุกอย่าง คนในสนามมวยนอกจากเฝ้าระวังจัดการที่บ้าน ครอบครัว และทุกคนที่ไปเกี่ยวข้อง ถ้าไม่เป็นก็ดี แต่ถ้าเป็นจะต้องตัดวงจรตัวเอง นอกจากแยกตัวเองแล้วต้องให้สมาชิกในครอบครัวแยกตัวเองออกจากสังคมด้วย" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
นพ.สุวรรณชัยสรุปว่า ในภาพรวมแม้จำนวนผู้ป่วยสะสมจะเพิ่มมากขึ้น แต่มีผู้ป่วยหายดีกลับบ้านแล้ว 43 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 273 ราย
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในลำดับที่ 40 ของโลก โดยผู้ป่วยติดเชื้อแบ่งเป็นเพศชาย 66% เพศหญิง 34% ช่วงอายุระหว่าง 30-39 ปี เป็นคนวัยทำงาน แสดงอาการป่วยไม่มากจึงเป็นพาหะของโรคที่เดินทางไปทั่วประเทศ
รบ.เชิญภาคธุรกิจถกโควิด
"กระทรวงสาธารณสุขทำแผนที่แสดงจังหวัดที่ผู้ป่วยกระจุกตัว พบใน กทม. 213 ราย, สมุทรปราการ 13 ราย, เชียงใหม่ 7 ราย, ปัตตานี 6 ราย, ชลบุรี 5 ราย, ภูเก็ต 5 ราย, ยะลา 3 ราย, นครราชสีมา นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนเพชรบูรณ์ กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครปฐม นครศรีธรรมราช นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันว่า ยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาอาวิแกน เป็นยาชนิดเดียวกันเพียงแต่มีชื่อเรียกที่เป็นเครื่องหมายทางการค้าแตกต่างกัน ที่ผ่านมาไทยนำเข้า 40,000 เม็ด สำรองไว้ใน กทม. 20,000 เม็ด ที่เหลือกระจายไปโรงพยาบาลทั่วประเทศ แต่การรักษาผู้ป่วยในไทย 80% ไม่ต้องใช้ยา 10% ใช้ยาพื้นฐาน มีเพียงผู้ป่วยอาการปานกลางและอาการหนักเท่านั้นที่จำเป็นต้องให้ยาดังกล่าว
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการรับมอบเครื่องเทอร์โมสแกนจากประธานอุตสาหกรรมเพื่อใช้วัดอุณหภูมิผู้เข้า-ออกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า จากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับจีน มีความชัดเจนที่รัฐบาลจีนจะส่งยาฟาวิพิราเวียร์และยาอาวิแกนที่มีผลการรักษาชัดเจนว่าสามารถใช้บรรเทาอาการปอดอักเสบติดเชื้อผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้ แม้จะไม่ใช้ยารักษาโดยตรง แต่ออกฤทธิ์รักษาปอด หยุดยั้งการเพิ่มขึ้นของเชื้อไวรัส เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อสู้กับโรค โดยจะมีการจัดส่งยาจำนวน 1 แสนเม็ดให้กับรัฐบาลไทย แบ่งการจัดส่งล็อตละ 5 หมื่น เมื่อรวมกับสต๊อกเดิม ทำให้ไทยมียาสำรอง 1.8 แสนเม็ด
"ได้หารือกับ นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนอนามัยโลกประจำประเทศไทย ซึ่งผู้แทน WHO ชื่นชมประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม ไทยเป็นประเทศที่มีการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เป็นประเทศแรก และยังมีความเข้มแข็งในการติดตามผู้ติดเชื้อมารักษา ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อได้อย่างทันท่วงที การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้คำแนะนำประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าการใช้วัคซีน" นายอนุทินกล่าว
ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) กล่าวว่า ในกรุงเทพฯ ได้จัดเตรียมสถานที่พิเศษหรือโรงแรมไว้รองรับกรณีพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น 450-500 เตียง โดยในสัปดาห์หน้าจะออกตรวจสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการย้ายผู้ติดเชื้ออาการไม่มากไปพักรักษา โดยวันนี้ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียนพร้อมรับผู้ป่วยทันที 43 เตียง และจะสามารถรองรับได้เต็มที่ 103 เตียง
"ตอนนี้มีผู้ป่วยยืนยันที่พักรักษาในโรงพยาบาลในสังกัด กทม. 11 แห่ง เป็นผู้สงสัยติดเชื้อ 29 ราย และผู้ป่วยยืนยัน 28 ราย ขอให้ประชาชนตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นกลัว ร่วมมือกันยุติการระบาดของโรค ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม" รมช.สธ.กล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าวันศุกร์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้อยู่ที่บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) จนกระทั่งเวลา 11.00 น. นายกฯ เข้าทำเนียบรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีประชุมใดๆ
มีรายงานว่า ในสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเชิญภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า มาพูดคุยที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับฟังผลกระทบในมิติต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง ซึ่งพบว่ามีตัวเลขค่อนข้างสูงที่จะได้ความเดือดร้อนจากมาตรการรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาด รวมถึงฟังข้อเสนอแนะ ข้อเรียกร้องในการช่วยเหลือเยียวยาที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นผลกระทบในกรณีหากรัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจประกาศการแพร่ระบาดในระยะ 3 หรือต้องปิดประเทศ และสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุขในการรับมือของรัฐบาล ทั้งการป้องกันการแพร่ระบาด การกักกัน การรักษาผู้ติดเชื้อ
ขอ ปชช.ล็อกดาวน์อยู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเชิญภาคธุรกิจพูดคุยที่ทำเนียบฯ ถึงผลกระทบโควิด-19 ในบ่ายวันที่ 26 มี.ค. เป็นข้อเสนอของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้เชิญภาคธุรกิจมาพูดคุยเพื่อประเมินผลกระทบและรับมือ เพราะหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายตัวได้เร็วภายใน 3-4 เดือน จะทำให้เศรษฐกิจประคองไปได้
"นายกฯ ยังขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะใน กทม.และปริมณฑล พำนักอยู่ในบ้าน ขอให้งดเดินทางออกไปต่างจังหวัดหรือเลื่อนการเดินทางในช่วงเวลานี้ออกไปก่อน เพื่อช่วยสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์ประชาชนอยู่บ้าน เป็นข้อเสนอหนึ่งจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายกฯ กับคณบดีคณะแพทยศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 มี.ค. เพื่อวางแผนติดตามควบคุมไวรัสโควิด-19" แหล่งข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวรัฐบาลจะประกาศล็อกดาวน์ประเทศไทยเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ว่าไม่ทราบ
ถามว่าสถานการณ์ตอนนี้สมควรที่จะประกาศได้หรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ ต้องแล้วแต่การพิจารณาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามทุกวันนี้แม้ว่าจะไม่ได้ประกาศ แต่เขาก็เตรียมการมา 2 สัปดาห์แล้ว เพราะเขาก็ต้องเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล งดเดินทาง โดยให้อยู่บ้านเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นหนึ่งข้อเสนอในการประชุมร่วมระหว่างนายกฯ กับกลุ่มคณะแพทย์เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนและมีการวางแผน ไม่ใช่อยู่ๆ ประกาศล็อกดาวน์ทันที โดยที่ประชาชนไม่ได้เตรียมตัว และไม่ได้มีระบบต่างๆ รองรับ เช่น การลำเลียงส่งของให้กับประชาชน
"สิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงที่สุดคือการหาเช้ากินค่ำ ยังต้องออกไปทำมาหากิน ต้องช่วยเหลือคนเหล่านี้ ซึ่งหลังมีการพูดคุยวันที่ 19 มี.ค. ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นระหว่างรัฐบาลและคณะแพทย์ ในการดำเนินมาตรการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ก่อนที่เราจะบังคับต้องขอความร่วมมือ และหลังจากนี้ก็ต้องมีการประเมินว่าจะต้องทำอย่างไร หากไม่ได้รับความร่วมมือจะต้องมีการยกระดับหรือไม่ ซึ่งอาจมีหลายทางเลือก เช่น สมมุติหากบอกห้ามออกจากบ้านเลย 24 ชั่วโมง กี่วัน มันก็แรงเหมือนกัน แล้วหลังจากผ่านไปจะคุมเชื้อได้จริงหรือเปล่า ต้องมีการประเมิน หรือจะเป็นทางเลือกว่าไม่ให้ออกจากบ้านเกินกี่โมงแล้วห้ามออก หรือออกไปได้แค่ไปซื้อของ ซึ่งทุกอย่างต้องไปประเมินตรงไหนกระทบมากที่สุด" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ต่อมาในช่วงค่ำ นางนฤมลกล่าวว่า ขอใช้เวลาช่วงนี้พิจารณาวางแผนทบทวนแนวทางรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากได้รับฟังความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์อย่างรอบด้าน และได้ออกมาตรการควบคุมการระบาดในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวมทั้งจะรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายจนเห็นชอบร่วมกัน และพร้อมประกาศใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุด หากถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเด็ดขาด และดูแลทุกชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยให้ปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
"นายกฯ ย้ำว่าทุกอย่างจะดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด และทำให้ทุกคนรู้สึกคุ้นเคยและสามารถปรับตัวได้ ขอเพียงมีความอดทนต่อความยากลำบาก พอเพียง เสียสละ คำนึงถึงส่วนรวม และแบ่งปันความสุขความทุกข์ไปด้วยกัน เพราะภัยโรคระบาดครั้งนี้เป็นภัยของชาติ ไม่ใช่ภัยของคนใดคนหนึ่ง และเวลานี้ไม่ใช่เวลาของการเอาชนะทางการเมือง แต่เป็นเวลาเอาชนะภัยของชาติ จึงขอเรียกร้องให้ทุกคนเข้าใจและจับมือกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานจะต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งเต็มกำลังตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้นายกฯ และรัฐบาล เราจะสู้ไปด้วยกัน"
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความจำเป็นของการล็อกดาวน์ประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านพักว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เขาต้องเตรียมไว้เผื่อ แต่ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง และไม่ได้จดบันทึกไว้ ขอให้สอบถามกระทรวงสาธารณสุขดีกว่า
ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการบัญชาการสถานการณ์เกี่ยวกับการป้องกันถ้าระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้สั่งการไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมใกล้ชิด รวมถึงสั่งการให้สถานบันเทิง สถานบริการ สนามมวย ใน กทม.ปิดเวลา 14 วัน สำหรับต่างจังหวัดให้คณะกรรมการจังหวัดที่มี ผวจ.เป็นประธาน เป็นผู้พิจารณาปิดหรือไม่ปิดสถานที่ ยกตัวอย่าง จ.พิษณุโลก คณะกรรมการแจ้งว่ายังไม่พบการแพร่ระบาด
"กระทรวงมหาดไทยสั่งการไปถึงทุกจังหวัดตามข้อพิจารณาเรื่องการปิดผับและสถานบันเทิงไปพิจารณาให้ถี่ถ้วน และคาดว่านับตั้งแต่วันนี้ทุกจังหวัดจะปิดสถานบริการผับบาร์ทั้งหมดทั่วประเทศ 14 วัน" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
นร.ในอังกฤษวุ่นกลับไทย
รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนให้ทำตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่กำหนด เช่น หากใครไปในพื้นที่เสี่ยงมาต้องกักตัวเองในที่พัก หากทุกคนช่วยกันจะลดการระบาดของโรคได้ เราเน้นย้ำทุกพื้นที่ทั่วประเทศติดตามผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ถ้ากำหนดพื้นที่ได้จะดูแลในพื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ได้ หากพบการแพร่ระบาดมาก อาจจะมีมาตรการพิเศษในพื้นที่นั้นๆ
วันเดียวกัน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการกำหนดให้ผู้โดยสารจากทุกประเทศที่ต้องเดินทางเข้ามายังประเทศไทยปลอดจากการติดเชื้อโควิด-19 ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จึงออกประกาศสำนักการบินพลเรือนฉบับใหม่เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านการตรวจจากแพทย์ และมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 วัน รวมทั้งมีประกันสุขภาพจำนวน 100,000 เหรียญดอลลาร์ จึงจะสามารถออก Bording Pass และขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังประเทศไทยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง กพท.ออกประกาศฉบับใหม่กำหนดผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกประเทศต้องมีใบรับรองแพทย์ ปรากฏว่าเพจเฟซบุ๊ก Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) ได้โพสต์ภาพบรรยากาศหน้าสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ที่มีคนไทยจำนวนมากแห่ต่อคิวแน่น เนื่องจากมีบริการแพทย์ไทยตรวจร่างกายและออกใบรับรองให้
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sirada K Ning ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า ผู้บริหารระดับประเทศไม่ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จัดการปัญหาอย่างบูรณาการ ผลกรรมตกอยู่กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนเอง
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนและทีมงานได้ทำแอปฯ ชื่อว่า GoCovid ขึ้นมาให้ใช้ฟรี https://gocovid.issara.in.th/#/ สำหรับไว้อำนวยความสะดวกประชาชนทั่วไป ในการค้นหาจุดตรวจ กรณีรู้สึกว่าตนเองมีความเสี่ยง เพียงแค่เข้าไป กดปุ่มสีฟ้า “ค้นหาจุดตรวจใกล้ท่าน” จุดตรวจที่ใกล้ที่สุดจะปรากฏทันที นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาและดูรายละเอียดของจุดตรวจต่างๆ ทั่วประเทศ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. สรุปจำนวนตำรวจที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า มีจำนวน 16 นาย แบ่งเป็น บช.น. 10 นาย, สตม. 1 นาย, ตชด. 1 นาย ,นิติเวช รพ.ตำรวจ 1 นาย, สันติบาล 1 นาย, ภูธรภาค 1 1 นาย และ บช.ปส. 1 นาย จำนวนข้าราชการตำรวจที่ต้องกักตัวเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วัน จำนวน 220 นาย
กองทัพบก (ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า ตามที่มีกำหนดการจัดสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารของเหล่าทัพประจำปี 2563 โดยในวันที่ 21 มี.ค.นี้เป็นการสอบในส่วนของกองทัพอากาศ และในวันที่ 22 มี.ค.2563 เป็นการสอบในส่วนของกองทัพบกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและสอดคล้องกับสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้กองทัพบกจึงขอประกาศเลื่อนการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบกในวันที่ 22 มี.ค. 2563 ออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด
"สำหรับการสอบนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ประกาศเลื่อนการสอบเช่นเดียวกัน" พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว
รองโฆษก ทบ.กล่าวถึงปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ว่า เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค.ใน 16 พื้นที่ทำความสะอาดได้รวมระยะทาง 65.5 กิโลเมตร และยังคงเป็นการปฏิบัติต่อจากพื้นที่เดิมในวันก่อน ในรูปแบบการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนถนน ทางเท้าและพื้นที่ใกล้เคียง
"จากที่พ่นล้างสิ่งปนเปื้อนและพื้นที่มีความสะอาดในระดับหนึ่งแล้ว ขอให้ประชาชน ชุมชน ช่วยกันดำรงสภาพพื้นที่ ลดการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งช่วงนี้ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ หากทุกคนร่วมกัน ดูแลอาคารบ้านเรือน สถานที่ของตนเอง ให้สะอาดและถูกสุขลักษณะ จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยและลดการแพร่กระจายของโควิด-19 ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นวิธีการง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้" รองโฆษก ทบ.กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าวว่า ในคืนวันที่ 21 มี.ค. มีปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ใน 21 พื้นที่ บนถนนและทางเท้า ด้านหน้าสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ขนส่งสายใต้ใหม่, MRT ห้วยขวาง, โลตัสปิ่นเกล้า, แยกอโศก, บ้านพักคนชราบางแค, ตลาดปัฐวิกรณ์, โลตัสมีนบุรี, โลตัสหนองจอก,มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ตลาดมโนรมย์, ถนนสายไหม, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์, ตลาดหัวมุม, ค่ายมวยคงสิทธา, โฮมโปรลาดพร้าว, โลตัสรามอินทรา เป็นต้น
นอกจากนี้ ในพื้นที่ต่างจังหวัด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้กองทัพภาคและหน่วยทหารในแต่ละจังหวัด ได้พิจารณาดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดสถานที่ชุมชนในลักษณะเดียวกับพื้นที่ กทม. ตามศักยภาพของหน่วยที่มีอยู่ โดยการประสานงานกับหน่วยราชการในพื้นที่ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |