จะเอาโมเดลไหน?'หมอธีระวัฒน์'เปิด3มาตรการสู้ภัยไวรัสโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

20 มี.ค. 63 -ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "ครึ่งประเทศ รอให้ติด เพื่อมีภูมิคุ้มกันหมู่จะเอาโมเดลไหน ?"

(ภาคธุรกิจขนาดใหญ่เท่าที่ทราบ พร้อมเข้าช่วยรัฐบาลในช่วงปิด 21 วัน โดยกฎอัยการศึก และคนรายได้น้อยต้องไม่ถูกกระทบ)

ถ้าคนอย่างน้อยครึ่งประเทศติดเชื้อถ้าไม่ตายไปเสียก่อน ก็จะมีภูมิคุ้มกันและเริ่มทำให้ประเทศปลอดภัย
จำได้หรือไม่วิธีการเช่นนี้คือวิธีการเดียวกันกับที่เราต้องฉีดวัคซีนให้หมาทั่วประเทศอย่างน้อย 60% เพื่อควบคุมโรคพิษสุนัขบ้านั่นคือการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่  (herd immunity)
ใน covid 19 เมื่อติดเชื้อ คน 80% อาการน้อยหายเอง  และจะเป็นหนุ่มสาวที่ไม่มีโรคประจำตัวแต่กลายเป็นคนแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ  (แต่เจอจังๆ ตายได้)
20% ที่เหลือมักจะเป็น   คนสูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมีโรคประจำตัว  ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล อัตราตายอาจสูงถึง 20-50% ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง

โมเดล
1- ถ้าปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติตามยถากรรมไม่มีการควบคุม และแน่นอนไม่มีทรัพยากรในการรักษาได้ทั่วถึง จะสงบได้โดยเร็วแต่เสียชีวิตมหาศาล ระบบสาธารณสุขย่อยยับ เจ้าหน้าที่เสียหายมหาศาล
2- ควบคุมเท่าที่จะทำได้ตามระดับ โดยหวังให้ประชาชนมีวินัย งดการชุมนุม  รวมกลุ่ม สถานบริการสถานบันเทิงรวมทั้งควบคุมโรงงานมีการทำงานแออัด งดเทศกาลทุกชนิด  ป้องกัน จำกัดการแพร่ในที่สาธารณะ
2.1 ควบคุมอย่างเข้มงวดโรคจะไหลไปเอื่อยๆ จนประมาณเจ็ดถึงเก้าปีหรือเมื่อมีวัคซีน  แต่หมายความว่าทุกคนจะต้องถือสันโดษ ตลอด
2.2 ควบคุมได้ระดับหนึ่งไม่เท่ากับ 2.1 โรคจะปะทุขึ้นอย่างรุนแรงภายในสองปี  และสงบเพราะในแต่ละเดือนจะต้องยอมให้เกิดคนติดเชื้อ  30 ล้าน คน หารด้วย 24เดือน แต่ละเดือนจะมีคนติดเชื้อ  เป็นแสน และความเสียหายจะเห็นได้แบบเดียวกับข้อหนึ่ง  แม้จะน้อยกว่าบ้าง

3- มาตรการเข้มปิดบ้าน ปิดประเทศ  shelter in place 21 วัน
พันระยะฟักตัว  และระยะแพร่เชื้อ
สำหรับคนที่มีอาการน้อยซึ่งจะหายเองทั้งหมดโดยไม่ต้องมีการรักษาใดๆ แต่ถ้าอาการมากก็รีบรับตัวเค้าไปรักษาที่โรงพยาบาล
มาตรการนี้ทำสำเร็จในประเทศจีนแม้ว่าจะทำหลังจากที่มีการระบาดมหาศาลในประเทศแล้วก็ตาม
มาตรการนี้จะทำให้ประเทศสะอาดและกลับมาดำเนินชีวิตมีเทศกาลได้ “ใกล้เคียงแต่ไม่ถึงกับปกติ” ภายในเวลาอันรวดเร็ว  โดยยังต้องมีระยะห่าง 2 เมตรทั้งการทำงานในสถานที่ทำงาน ในโรงงาน  ในรถโดยสารสาธารณะ  แต่ทำให้มีความเชื่อมั่นจากทั้งในและนานาประเทศและสามารถที่จะเลือกนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ใดก็ได้
มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการที่ทำไม่ได้ทางเพราะภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้คำแนะนำและช่วยรัฐบาลอย่างเต็มที่ในขณะที่ดำเนินการอยู่ และต้องคำนึงถึงคนที่หาเช้ากินค่ำเป็นอันดับแรก

ประการสำคัญก็คือ มาตรการนี้หลังจาก 21 วัน  จะมีกระบวนการตรวจคนที่ติดเชื้อไปแล้ว หรือคนที่ติดเชื้อใหม่ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกกว่าที่ปฏิบัติกันอยู่ ณ ขณะนี้  และก้น ไม่ให้มีระลอกที่สองที่สามเกิดขึ้นมาอีก

สู้ร่วมกัน ไม่งมงาย ศึกษาข้อมูล
รักทุกคน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"