20มี.ค.63-ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากได้ทำหนังสือยื่นถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะกรรมการบริหารพรรค ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน สมาชิกพรรคที่ถูกข้อกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย และขอให้สมาชิกพรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกนั้น ตนมีเหตุผลที่จะชี้แจงดังนี้ 1.เป็นไปตามหลักการ และจุดยืนของพรรค ที่เคยปฏิบัติกันมา เมื่อมีสมาชิกพรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถูกข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต เช่น นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกข้อกล่าวหา ได้ใช้เวลาไม่เกิน7วัน ได้ลาออกจากตำแหน่ง นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกข้อกล่าวหาไม่เกิน5วัน ก็พิจารณาตัวเองลาออก นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดได้เพียง2วัน ก็ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งๆที่ได้รับเลือกจากประชาชนเกิน1ล้านคะแนน ทำงานได้แค่6เดือนเท่านั้น
"แต่กรณีของนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ถูกข้อกล่าวหามาเป็นเวลาเกิน7วันแล้ว ยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการใดๆจากพรรค ดังนั้น จึงทำหนังสือเพื่อเร่งรัดให้มีการสอบสวน เพื่อไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป"
นายเทพไท กล่าวต่อว่า 2.การลาออกจากตำแหน่งระหว่างการสอบข้อเท็จจริงเป็นสง่างาม เมื่อสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่พบความผิด สามารถเข้ากลับมารับตำแหน่งเดิมได้อีก เพราะตำแหน่งที่ ปรึกษารัฐมนตรี เป็นเพียงตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยมติ ครม.ซึ่งต่างกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่ต้องได้รับโปรดเกล้า และถวายสัตย์ปฎิญานก่อนเข้ารับตำแหน่ง และถ้าถามว่าไวไปหรือไม่ในการออกมาเรียกร้องให้ลาออก ขอเรียนว่าไม่ได้เร็วเกินไป ได้ให้เวลากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอสมควรแล้ว
3.ตนกับนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ไม่ได้มีความขัดแย้งเป็นการส่วนตัว ไม่มีความอิจฉาริษยา หรือทำไปเพื่อหวังผลทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะถ้าหากนางมัลลิกา ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี ตนเองก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปรับตำแหน่งดังกล่าวแทน จะกล่าวหาว่าไปขับไสไล่ส่งเพื่อนร่วมพรรคก็ไม่เป็นความจริง เราต้องยึดหลักการของพรรคมากกว่าตัวบุคคล
4.การดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ใช่การเมืองภายในพรรค ไม่ใช่ความขัดแย้ง ที่ต้องการเปลี่ยนขั้วการเมืองในพรรค เพราะตนเองเลือกนายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค แต่เป็นเรื่องของหน้ากากอนามัยขาดแคลน ประชาชนเดือดร้อน หาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้ แต่ได้ถูกกล่าวหาว่ามีนักการเมืองหญิง เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงต้องการจะพิสูจน์ความจริง ทำความจริงให้ปรากฎว่ามีสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ และที่ลงชื่อในหนังสือเพียงคนเดียว เพราะไม่ต้องการให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มไม่อยากร่วมรัฐบาลบ้าง กลุ่มโหวตสวนญัตติ ม.44บ้าง หรือกลุ่ม17ส.ส.ไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัสบ้าง
5.เรื่องนี้ไม่ใช่ขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้รัฐมนตรีคนใด เพราะข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีเท่านั้น และบรรยากาศในขณะนี้ยังไม่มีวี่แววการปรับ ครม.เลย สำหรับผมก็ได้ประกาศมาโดยตลอดว่าจะไม่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อย่างเด็ดขาด
6.ข้อกล่าวหาว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นการรับงานทางการเมืองของบางกลุ่มมา และเป็นพวกเดียวกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะผมกับนายอัจฉริยะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และได้สัมภาษณ์เรียกร้องให้นายอัจฉริยะเปิดเผยชื่อจริงของคนที่เกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยกลับยังโดนนายอัจฉริยะ ดูถูก เหยียดหยาม ไม่ให้ราคาข้อเรียกร้องของผม จึงไม่ใช่คนพวกเดียวกัน หรือรับงานกันมาเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างแน่นอน" นายเทพไท กล่าว
7.การกล่าวหาว่าตนมีคดีความ ตกเป็นจำเลยในศาล ทำไมไม่แสดงสปิริตโดยการลาออกจาก ส.ส.นั้น ขอชี้แจงว่า ตนเองมีหลายคดีตั้งแต่เป็นโฆษกส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จัดรายการสายล่อฟ้า เป็นคดีหมิ่นประมาท และคดีเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชเป็นคดีอาญา ไม่ได้เป็นคดีทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถ้าหากตนได้ใช้หน้าที่ ส.ส.ไปตบทรัพย์ เรียกรับผลประโยชน์ หรือทุจริตต่อหน้าที่โดยมิชอบ ตนก็พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งในทันที
8.ขอทำหน้าที่พิทักษ์อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ 10 ข้อ และเงื่อนไข3ข้อในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ3เรื่องการทุจริต จะต้องบังคับใช้กับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นให้กับพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด
และ9.ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ตั้งคณะกรรมการจำนวน5คน เพื่อสอบข้อเท็จจริงว่า สมาชิกพรรค เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตกักตุนหน้ากากอนามัยหรือไม่ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริต ที่เป็นอุดมการณ์ในการทำงานการเมืองของพรรคต่อไป และคณะกรรมการชุดนี้ต้องสอบคู่ขนานกับการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ ปปช.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย