20มี.ค.63-นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน
หลังจากการประชุม ครม.ที่ผ่านมา และได้มีมติ ครม.ประกาศมาตรการต่างๆออกมามากมายเพื่อบริหารจัดการกับการระบาดของโควิด หลายๆเสียงออกมาติติงทำนองว่า ไม่มั่นใจ มาตรการเบาไป จะเอาไม่อยู่ เสนอให้ปิดเมืองเลย พร้อมเติมว่า ( ต้องยอม)เจ็บแต่จบ แต่ดูน้ำเสียง ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับแนวทางแก้ไข เสียงติงคือ อย่าชักช้า ให้เร็วๆหน่อย ประกาศเข้า

สู่วาระ 3 ปิดประเทศเลยมาก​กว่า เท่านั้นจริงๆ ส่วนพวกที่ลอกตำราฝรั่งมาโม้ ให้ดูความจริงว่า คนไทยเสียชีวิตเพียงคนเดียว ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มส่วนใหญ่เพราะสุ่มเสี่ยง
ไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่รัฐบาลประกาศ ประการสำคัญ ลุงตู่พูดชัดเจนนะว่า พร้อมประกาศเข้าสู่เฟส 3 เมื่อจำเป็น

ผมเชื่อว่าลุงตู่มีข้อมูลต่างๆมากพอแล้ว จากการหารือกับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งของเมืองไทย แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงการขยายตัวของไวรัสโควิดได้ ขึ้นอยู่กับมาตรการที่รัฐบาลที่ประกาศใช้​ จะได้รับความร่วมมือจากคนในชาติอย่างจริงจัง​ แข็งขันหรือไม่​ เพียงใด ขรก.ส่วนราชการห้างร้านเอกชนจะสามารถปฏิบัติตามได้เต็มที่หรือไม่​ ทั้งการทำงาน
ที่บ้าน​ ลดการเดินทาง​ ลดการ
ติดต่อสัมพันธ์กันลง

เชื่อว่า​ นายกฯและทีมแพทย์ได้หารือข้อมูลเป็นอย่างดี​ และคงพยายามทุกวิถีทางในการรักษาขีวิตคนในชาติให้สูญเสียน้อยที่สุด​ แต่คนในชาติต้องร่วมมือ​ เชื่อมั่นและปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ

ยามนี้​ พวกเราต้องยอมรับและเข้าใจว่า​ สิ่งที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ​ แต่เป็นสถานการณ์สู้รบ​ การดำรงชีวิต​ การทำงานต้องปรับเปลี่ยน​ จะสบายๆ​ ชิวๆ​ อย่างปกติไม่ได้ ทุกคนต้องอดทน

ลุงตู่เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารขนาดใหญ่มาก่อน การจะเปิดยุทธการใหญ่ จะสั่งปิดประเทศ ห้ามคนออกนอกบ้าน การทำงานที่บ้าน ปิดทุกสำนักงาน ห้ามการเดินทาง จำเป็นต้องตรวจสอบความพร้อมของส่วนราชการ ส่วนงานต่างๆว่า พร้อมแค่ไหน ใครต้องทำอะไร ใครจะเป็นหน่วยหลัก หน่วยรอง หน่วยสนับสนุน ทุกอย่างต้องพร้อมก่อนเปิดศึกใหญ่

ขอให้ลุงตู่ทุบโต๊ะอีกสักที​ เพราะเป็นความจำเป็นของรัฐ เพื่อความ​อยู่รอดของคนไทย มาตรการใดจำเป็น​ ประกาศใช้เลย