ชาวมุสลิมบังกลาเทศนับหมื่นรวมตัวสวดขับไล่โรคร้ายโดยไม่กลัวการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะทางการมาเลเซียกำลังพยายามตามหาชายชาวมุสลิมโรฮีนจาประมาณ 2,000 คนที่เข้าร่วมพิธีที่มัสยิดปลายเดือนก่อน ส่วนพิธีขององค์กรเดียวกันที่อินโดนีเซียยกเลิกแล้ว

ชาวมุสลิมนับหมื่นคนร่วมพิธีสวดในบังกลาเทศเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563

    เอเอฟพีรายงานว่า การจัดกิจกรรมสวดบทเยียวยาในคัมภีร์อัลกุรอานเพื่อขับไล่โรคโควิด-19 ให้หมดไปจากบังกลาเทศ จัดขึ้นกลางแจ้งในเมืองไรปุระภาคใต้ของบังกลาเทศเมื่อเช้าตรู่วันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สังคมออนไลน์ในบังกลาเทศวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิ โททา ไมอาห์ นายตำรวจท้องถิ่นเผยว่า พิธีดังกล่าวมีชาวมุสลิมเข้าร่วมประมาณ 10,000 คน แต่ผู้จัดคุยว่ามีชาวมุสลิมเข้าร่วม 25,000 คน นายตำรวจผู้นี้กล่าวด้วยว่า ผู้จัดงานไม่ได้ขออนุญาตจากทางการก่อน

    ภาพถ่ายงานดังกล่าวแพร่สะพัดทางโซเชียลมีเดีย และหลายคนกล่าวตำหนิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่ออับดูร์ เราะห์มาน กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อที่พวกเขาจัดงานได้โดยไม่ได้แจ้งตำรวจ คนพวกนี้ต้องรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้นกับประชาชนในภูมิภาคนั้น

    บังกลาเทศมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 17 ราย และมีคนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศแล้ว และร้องขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่ชุมนุม กระนั้นยังมีคนจำนวนมากที่ไม่ใส่ใจและพากันไปพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยว เช่นริมทะเล ที่ทำให้ตำรวจต้องสั่งปิดหาด 2 หาด รวมถึงที่อำเภอคอกซ์บาซาร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายผู้ลี้ภัยโรฮีนจา

    โอไบดุล กวาเดอร์ แกนนำพรรครัฐบาลสันนิบาตอาวามี กล่าวว่า หากจำเป็น บังกลาเทศต้องปิดประเทศเพื่อควบคุมการระบาด

    ที่มาเลเซีย ซึ่งมัสยิดแห่งหนึ่งชานกรุงกัวลาลัมเปอร์จัดพิธีทางศาสนานาน 4 วันเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม และได้กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 600 ราย เจ้าหน้าที่มาเลเซียกำลังติดตามตัวชาวมุสลิมที่เข้าร่วมพิธีนี้ ซึ่งมีจำนวนราว 16,000 คน ซึ่งรวมถึงชาวโรฮีนจาจากเมียนมาราว 2,000 คน

    นอกจากชาวโรฮีนจาแล้ว พิธีนี้ยังมีชาวมุสลิมราว 1,500 คนจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียเข้าร่วมด้วย โดยข้อมูลของรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี มีชาวมาเลเซียติดเชื้อไวรัสโดยโยงถึงการชุมนุมครั้งนั้น 513 คน จากผู้ติดเชื้อในประเทศราว 790 คน, ในบรูไน 61 คน, กัมพูชา 22 คน, สิงคโปร์อย่างน้อย 5 คน และไทย 2 คน

    เจ้าหน้าที่มาเลเซียกล่าวว่า พวกเขากำลังติดตามผู้เข้าร่วมพิธีนี้ แต่ยังตามตัวไม่พบราว 4,000 คน ส่วนการติดตามตัวชาวโรฮีนจา ซึ่งมีมากกว่า 100,000 คนที่อพยพจากเมียนมาเข้ามาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย เป็นงานท้าทายมาก แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยโรฮีนจากล่าวกันว่า สถานะของคนเหล่านี้อาจทำให้พวกเขาไม่กล้ามาตรวจไวรัสแม้จะมีอาการติดเชื้อแล้วก็ตาม

    การสอบถามผู้เข้าร่วมงานและข้อมูลที่โพสต์ทางโซเชียลมีเดียชี้ว่า ผู้ร่วมพิธีนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในมัสยิดแห่งนั้น แต่บางคนออกไปภัตตาคาร, ศูนย์การค้า และเที่ยวชมอาคารหอคอยคู่เปโตรนาส

    องค์กรอิจติมะอ์เอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการตับลีฆญะมาอะฮ์ ที่อยู่เบื้องหลังการจัดงานที่มัสยิดในมาเลเซียเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคม ได้ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานในจังหวัดสุลาเวสีใต้ของอินโดนีเซียแล้ว หลังจากมุสตารี บาห์รานุดดิน ผู้จัดงานเคยยืนกรานไว้เมื่อวันพุธว่าจะจัดงานต่อไป โดยบอกว่า พวกเขากลัวพระอัลลอฮ์มากกว่าไวรัสโคโรนา

    ผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงอำเภอโควาใกล้เมืองมาคัสซาร์เรียบร้อยแล้ว และผู้จัดงานได้กันคนเหล่านี้แยกไว้ต่างหาก ระหว่างรอการส่งกลับ โดยมีชาวมุสลิมมากกว่า 8,500 คนจากทั่วอินโดนีเซียและจากประเทศอื่นในเอเชียและตะวันออกกลางมารวมตัวกันอยู่ที่นั่น

    แต่ในขณะที่งานนี้ถูกยกเลิก กลับยังมีการงานฉลองแต่งตั้งบิชอปของชาวคริสต์คาทอลิกในอินโดนีเซียอีกงานที่ยังดึงดันจัดต่อไปบนเกาะฟลอเรสทางภาคตะวันออก โดยมีผู้ร่วมงานราว 1,000 คน

    โฆษกของรัฐบาลท้องถิ่นกล่าวว่า มีการรณรงค์ให้คนงดเข้าร่วม ซึ่งได้ผล โดยเดิมคาดว่าจะมีคนร่วมพิธีนี้ 8,000 คน.