สธ.เตรียมพร้อม ขยายพื้นที่บริการโควิด เบ็ดเสร็จจุดเดียว( Fever and ARI clinic)ทั่วประเทศ 


เพิ่มเพื่อน    


19 มี.ค. 63-  ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมระบบบริหารจัดการรองรับผู้ป่วยกรณีโรคติดเชื้อ จากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด -19) ว่า เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  สธ .ได้มอบหมายให้กรมการแพท ย์เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดระบบการรักษาพยาบาล เตรียมความพร้อมสำหรับสถานพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในกรณีที่มีการระบาดเกิดขึ้น จึงได้ให้โรงพยาบาลในเครือข่ายขยายพื้นที่และบริการทางการแพทย์ที่เหมาะสม เพื่อการวินิจฉัยและตรวจทางห้องปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมการระบบส่งต่อผู้ป่วยและบริหารทรัพยากรเตียงร่วมกันอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยบูรณาการความร่วมมือของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลเครือข่าย UHOSNET ซึ่งจะมีปริมาณเตียงรองรับ ที่เพียงพอกับผู้ป่วย และหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็ว จะมีการเตรียมแผนสำรอง เช่น ระบบโรงพยาบาลสนาม หรือผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงให้พักฟื้นในหอพักหรือโรงแรมทั้งตึก โดยมีทีมแพทย์พยาบาลคอยติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แนวทางปฏิบัติที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันการแพร่กระจายของโรค จึงขอให้ประชาชนยึดหลัก


"ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล แยกกินอาหารชุดของตัวเอง ไม่ใช่ภาชนะร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าเมื่ออยู่ในที่คนแออัด ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง"หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับการคัดกรองในเบื้องต้น โรงพยาบาล ในสังกัดกรมการแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ได้จัดตั้งคลินิกไข้หวัด (Fever and ARI clinic) โดยใช้ระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว ไม่ให้ผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังไปปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ โดยจะใช้โรงพยาบาลราชวิถีซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในสังกัดกรมการแพทย์ เป็นต้นแบบและหน่วยงานประสานหลัก  ตั้งแต่จัดทำแผนรองรับ ระบบส่งต่อ คัดกรองผู้ป่วยซึ่งจะส่งผลให้เกิดแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะใช้ระบบห้องแยกโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าว 


โดยจะใช้วิธีจัดการสิ่งแวดล้อม สถานที่ รวมทั้งอุปกรณ์ในห้องผู้ป่วยให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ ได้แก่ เป็นห้องแยกเดี่ยวหรือถ้าเป็นห้องรวมระยะห่างระหว่างเตียงไม่น้อยกว่า 3 ฟุต พื้นผิวสัมผัสต่าง ๆสามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีการระบายอากาศได้ดี บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลต้องใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการตรวจวินิจฉัยโรค เครื่องมือกู้ชีพที่จำเป็น เช่น ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดความดันโลหิต ชุดให้สารน้ำอุปกรณ์เจาะเลือดเพื่อการวินิจฉัยเครื่องช่วยหายใจ ชุดกู้ชีพผู้ป่วย เป็นต้น ซึ่งจะเป็นระบบ การรักษาที่ครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยและความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"