19 มี.ค.63 - นางสาวจุฬารัตน์ โมมะเกือ อายุ 32 ปี พร้อมด้วยนางสาวณัชชา สงค์โข อายุ 32 ปี และกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกโกงแชร์จำนวน 30 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.สอบสวน สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางสาวอนงนุช แสงวิสุทธิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/4 ม.1 ต.กะลาแส อ.สิเกา จ.ตรัง ในข้อหากู้ยืมเงินอันเป็นการหลอกลวงประชาชน และความผิด ตามพ.ร.บ.แชร์

นางสาวณัชชา สงค์โข อายุ 32 ปี กล่าวว่า ในการรวมตัวสมาชิกจำนวน 30 ราย เข้าแจ้งความวันนี้เนื่องจาก พวกตนทั้งหมด ได้รับการชักชวนจากนางสาวอนงนุช แสงวิสุทธิ์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเท้าแชร์ ชักชวนจูงใจผ่านทางเฟซบุ๊ค ทางไลน์ รวมทั้งทางโทรศัพท์ให้มาลงเล่นแชร์ในวงต่างๆ โดยเห็นว่านางสาวอนงนุช เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือมีโปรไฟล์และการทำงานที่ดีมีความมั่นคง ประกอบกับมีความสนิทรู้จักส่วนตัว จึงตัดสินใจตกลงเล่นแชร์ดังกล่าว โดยได้เล่นแชร์รายเดือนแบบเปีย วงละ 50,000 บาท โดยมีผู้เล่นทั้งหมด 20 คน จ่ายรายเดือน เดือนละ 2,500 บาท มือแรกจะได้เท้าแชร์ คือนางสาวอนงนุช มือถัดไปใครจะอยากใช้เงินต้องมีการยิงเพื่อสู้ดอกกัน (เปียแชร์) โดยแต่ละเดือนแต่ละคนต้องเปียดอกไม่เกิน 2,500 บาท เมื่อรวมต้นรวมดอกแล้วผู้เปียได้ต้องจ่ายสูงถึงเดือนละ 5,000 บาท

นางสาวณัชชา กล่าวอีกว่า ในส่วนวงของตนนั้นมีคนเปียไปแล้ว 9 คน จนกระทั่งวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ความก็มาแตก เมื่อมีเพื่อนคนหนึ่งได้เปียแชร์ได้ (อีกวงหนึ่ง) แล้วเท้าแชร์คือน.ส.อนงนุช ไม่ได้โอนเงินที่เพื่อนเปียเงินได้ให้ แล้วมีการนำเรื่องมาพูดคุยในไลน์แชร์ และพบว่ามีเพื่อนหลายคนที่ถูกกระทำแบบนี้

จนกระทั่งวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางเท้าแชร์ได้ท้าทายว่าอยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องร้องเอา ประกอบกับติดต่อเท้าแชร์ไม่ได้ ไม่ยอมออกมาชี้แจง ไม่รับสาย จึงมีการรวมตัวกันฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่ต้องการให้เท้าแชร์รายนี้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริสุทธิ์รายอื่นอีก

สำหรับแชร์ที่นางสาวอนงนุช ตั้งขึ้นมาชักชวนพวกตนทั้งหมดเล่นมีหลายวงทั้งแชร์ขั้นบันได-แชร์เปีย-แชร์รายวัน-แชร์ราย 5 วัน-แชร์รายอาทิตย์-แชร์ราย 15 วัน-แชร์ราย20 วัน-แชร์รายเดือน-แชร์ทอง ทั้งหมดมีวงเงินหมุนเวียนนับล้านบาทต่อเดือน โดยผู้เสียหายกับคดีนี้มีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดทั้งจังหวัดตรัง จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดพังงา

ด้าน พ.ต.ท.อำพลวัฒน์ แสงเรือง รองผกก.ป.สภ.กะทู้ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นได้ร่วมสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว พบว่าเท้าแชร์หรือผู้เป็นหัวหน้าวงแชร์มีความผิด ตาม พ.ร.บ.แชร์ และความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินอันเป็นการหลอกลวงประชาชน หลังจากนี้จะทยอยสอบปากคำทั้งหมด และให้ผู้เสียหายได้นำเอกสารการโอนเงินให้เท้าแชร์  เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคดี มาให้พนักงานสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนติดตามเท้าแชร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป