จำคุก "ไอซ์ หีบเหล็ก" ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ปี 10 เดือน ปรับอีกกว่า 1 ล้าน คดีมียาเสพติดและพกปืน ปรานีสารภาพลดโทษเหลือ 10 ปี 5 เดือน
    เมื่อวันที่ 18 มีนาคมนี้ ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนบางบอน-เอกชัย ศาลมีคำพิพากษาคดี "ไอซ์ หีบเหล็ก" ครอบครองยาบ้า-กัญชา หมายเลขดำ ย.199/2563 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ 40 ปี ฉายา "ไอซ์ หีบเหล็ก" ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมหญิงสาวต่อเนื่อง เป็นจำเลยในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ซึ่งในชั้นสอบสวน นายอภิชัยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
    ชั้นพิจารณาคดี จำเลยให้การรับสารภาพ ซึ่งระหว่างพิจารณาคดี นายอภิชัย จำเลยไม่ได้ประกันตัว วันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษธนบุรีมาฟังคำพิพากษา 
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 26/3 วรรคหนึ่ง 66 วรรคสอง, 76 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคสาม ให้เรียงกระทงลงโทษจำเลย ฐานมีเมตแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้จำคุก 13 ปี และปรับ 750,000 บาท, ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 3,000 บาท โดยให้เพิ่มโทษจำเลยกึ่งหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 ด้วย ฐานมีเมตแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงเป็นจำคุก 19 ปี 6 เดือน ปรับ 1,125,000 บาท, ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 4,500 บาท และฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี โดยให้เพิ่มโทษจำเลย 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ในความผิดฐานนี้ด้วย เป็นจำคุก 1 ปี 4 เดือน
    รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 20 ปี 10 เดือน ปรับ 1,129,500 บาท ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 10 ปี 5 เดือน ปรับ 564,750 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการด้วยการกักขังแทนค่าปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 กรณีต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี และให้ริบเมตแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชัยยังมีความผิดเกี่ยวกับการฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยการซ่อนเร้นศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี โดยนายอภิชัยมีพฤติการณ์นำผู้หญิงมาอยู่กินนอนที่บ้านเป็นประจำ กระทั่งเดือน ก.ค.2562 มีพยานเห็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น.ส.กิ๊ก ด้วยเหล็กแป๊บและใส่กุญแจมือ บังคับให้คลานเข้าไปนอนในหีบเหล็ก ปิดฝาสนิทไม่มีรูระบายอากาศ น.ส.กิ๊กได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับเปิดเพลงเสียงดัง หลังจากนั้น น.ส.กิ๊กเสียชีวิต จึงนำศพใส่ในถุงดำและนำไปขุดดินฝังไว้ที่บริเวณหลังบ้าน ต่อมาตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน พบยาเสพติดและปืนอยู่บนเตียงนอนของผู้ต้องหา จึงแจ้งความดำเนินคดี ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานอัยการจึงได้แยกฟ้องคดีนี้ก่อน.