ถึงเวลาที่คนไทยต้องเปลี่ยนพฤติกรรม
ทำอะไรได้ตามใจคือไทยแท้ จากนี้ไปต้องเลิกแบบถาวรนะครับ
ไม่งั้น "เอาไม่อยู่" แน่
ชักหวั่นใจกับช่วงสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ แม้รัฐบาลจะประกาศเลิกเป็นวันหยุดไปแล้ว แต่ไม่น่าจะเพียงพอต่อการป้องกันไม่ให้ โควิด-๑๙ ระบาด อย่างกว้างขวางได้
มาตรการขอความร่วมมือไม่ให้ผู้คนเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่น่าจะหยุดยั้งการเดินทางของประชาชนจากเมืองหลวงไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างแน่นอน
สถิติเมื่อปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๖ เมษายน มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะรวมทั้งสิ้น ๑๑,๗๑๗,๒๕๓ คน
แบ่งเป็นการเดินทางระหว่างประเทศ ๑,๔๘๒,๕๔๙ คน
เดินทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปภูมิภาคต่างๆ จำนวน ๓,๘๙๕,๘๔๓ คน
เดินทางภายในกรุงเทพฯ ๖,๓๓๘,๘๖๑ คน
ปีนี้ตัวเลขต่างประเทศตัดออกไปได้เลย เหลือที่เดินทางในประเทศจากปีที่แล้วตัวเลขกลมๆ ๑๐ ล้านคน
ถามว่าสงกรานต์ปีนี้ยังมีประชาชนต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา มากน้อยแค่ไหน
เอาแค่ ๑ ใน ๑๐ ของปีที่แล้ว
เท่ากับ ๑ ล้านคน!
ก็ยังนับว่าเป็นการเดินทางของประชาชนจำนวนมหาศาล
หากไม่หยุดยั้งเสียก่อน เกรงว่าเราอาจประสบชะตากรรมเดียวกับ อิตาลี ในวันนี้
การบังคับห้ามเดินทางจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด และคิดว่ารัฐบาลเตรียมการเอาไว้แล้ว
ก็เหลือแต่ประชาชนต้องรับมือกับมาตรการคุมเข้มที่จะออกมาหลังจากนี้
ประเภทว่ามายุ่งทำไมเรื่องส่วนตัว เรื่องวิถีชีวิต เรื่องประเพณีดั้งเดิม ก็ขอให้ละไว้ก่อน เพราะหากสามารถมีชีวิตรอดไปได้ ก็ยังมีอีกหลายสงกรานต์รออยู่ข้างหน้า
ปัญหาใหญ่หลังจากนี้จึงอยู่ที่ "วินัย" ของประชาชน
อย่าไปคิดว่า รัฐบาลลุงตู่ เป็นรัฐบาลเผด็จการ แล้วไม่อยากให้ความร่วมมือ คิดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด
เพราะมันเป็นเรื่องของประเทศ ไม่ใช่เรื่องของลุง
โชคดีที่แฟลชม็อบเลิกไปชั่วคราว แม้ก่อนนี้คนจัดตั้งม็อบบอกว่าสามารถดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วง การเรียกร้องประชาธิปไตยสำคัญกว่า สุดท้ายเราเห็นแล้วว่า ไม่ควรไปท้าทาย โควิด-๑๙
และโควิด-๑๙ ไม่เคยปรานีใคร
ดูสนามมวยเป็นตัวอย่าง การไปรวมตัวกันของคนหมู่มากมีความเสี่ยงแค่ไหน
อ้อ....มีการชื่นชมกันมากเรื่องไอเดียต่อสู้กับ โควิด-๑๙ ของ "ธนาธร" หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็นับเป็นเรื่องแปลก เพราะทุกข้อเขาก็ทำกันอยู่
แต่ข้อเสนอข้อสุดท้ายนี่ซิ... "ธนาธร" บอกว่า
"ผมไม่สามารถพูดได้ว่า 'ตระหนัก แต่ไม่ตระหนก' เพราะคนเราจะตระหนกหรือไม่นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร แต่สำหรับผม การที่เราจะใช้มาตรการเข้มงวดจริงจังตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น น่าจะเป็นผลดีมากกว่าในการควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปจนเราควบคุมไม่อยู่...ดังนั้นมาตรการเหล่านี้ หากเราใช้อย่างจริงจังล่วงหน้าไปเลย น่าจะดีกว่าที่เราจะมาเสียใจในภายหลัง"
ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ผู้คนหูตาแหกกับโควิด-๑๙ แต่ "ธนาธร" ยังยุให้นักศึกษาชุมนุมอยู่เลยไม่ใช่หรือ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |