18 มี.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพียง 1 ราย แต่คนไทยทั้งชาติกลับวิตกกังวลในการระบาดของไวรัส และเมื่อวาน (17 มี.ค.) รัฐบาลออกมาตรการปิดโรงหนัง ผับ บาร์ อาบอบนวด และสถานที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบเช่นคนไทยทุกภาคส่วน สถานีโทรทัศน์ พีซทีวี ซึ่งอยู่บนห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว แม้ไม่มีคำสั่งให้ปิดก็ตาม แต่เราต้องแสดงความรับผิดชอบ ได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไว้ก่อนนอกจากนี้ รายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ซึ่งมีพี่น้องมาร่วมสังสรรค์เป็นจำนวนมากต่อสัปดาห์ เราขอแจ้งให้ทราบว่า ต่อไปเราจะบึนทึกรายการในห้องส่ง แล้วเผยแพร่ออกรายการตามเวลาปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องมาร่วมรายการ แต่สามารถดูผ่านทางโทรทัศน์พีซทีวี ยูทูป หรือโชเชียลมีเดียอื่นๆได้เหมือนเดิม
วิกฤตการณ์โควิด-19 สร้างความวิตกให้พี่น้องอย่างยิ่ง และได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวติดต่อกัน 2 วันที่ผ่านมา ต้องยอมรับกันว่า ร่างกายไม่เหลือสภาพเดิมคือ ซูบผอม จึงทำให้ตนต่อว่าไม่ลง แต่นายกฯได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลต้องเผชิญคือ ความเชื่อ และเมื่อถูกทำลายด้วยความไม่เชื่อแล้ว แม้จะพูดอย่างไรก็ตาม แต่ก็ไม่มีผล ผมเห็นนายกฯใส่หน้ากากอนามัย ปิดปาก จมูก แทบพูดไม่ออก อีกทั้ง เรายังเห็นถึงความพยายามในการนำแก้ไขปัญหา วันนี้ผมจึงพยายามลดการพูดทางการเมืองทั้งหลาย
นายจตุพร กล่าวว่า เหตุการณ์ไวรัสระบาดลุกลามไปทั่วโลกกว่า 140 ประเทศ ส่วนไทยต้องเก็บรับเอาบทเรียนของแต่ละประเทศมาให้สอดคล้องกับภูมิรัฐศาสตร์บ้านเมืองเรา ซึ่งจะทำให้ผ่านพ้นกันได้ ตนอยากส่งเสียงถึงรัฐบาลคือ การให้ข่าวไม่จำเป็นต้องมีศูนย์แถลงข่าวถึง 2 ศูนย์ แต่ควรให้เหลือเพียงศูนย์เดียวไว้รายงานความคืบหน้าแต่ละวัน โดยไม่ปกปิดความจริงกับประชาชน เพื่อให้ได้เท่าทันในข้อเท็จจริง
"ส่วนนายกฯ ควรคิดหาคนเขียนร่างการพูดของท่าน เพื่อให้ผู้นำออกมาพูดในลักษณะให้ประชาชนมีอารมณ์ร่วม เกิดความรักสมานสามัคคี พร้อมจับมือร่วมกันเพื่อให้ชนะโรคร้ายนี้ได้ เมื่อนายกฯประกาศว่า ประเทศไทยชนะ แต่ด้วยสภาพร่างกาย สีหน้า ท่าทางอาการเหนื่อยล้านั้น ยังเชื่อในความเป็นจริงว่า ประชาชนเดือดร้อน แต่การต่อสู้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของประเทศ วันนี้ แม้ไม่มีการปิดประเทศ แต่สภาพสาธารณะต่างๆ ทั้งสนามบิน ไม่แตกต่างจากการปิดประเทศ ตนจึงอยากให้นายกฯฟังทุกฝ่าย แล้วประกาศมาตรการให้ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่า ไม่มีเรื่องการเมือง การแบ่งแยกฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เพราะคนไทยรู้จักการแยกแยะสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างดี"
ดังนั้น ความไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่ากรณีกักตุนหน้ากากอนามัยก็ต้องปราบ จัดการให้เห็น สิ่งสำคัญการแถลงแต่ละอย่างต้องเป็นมาตรการชัดเจน และทำให้ประชาชนมีความหวัง สถานการณ์ขณะนี้ เกิดจากประชาชนไม่เชื่อรัฐบาล ถึงขั้นต้องกักตุนอาหาร แต่วันนี้คนไทยต้องให้กำลังใจกันและกัน แม้เห็นต่างทางการเมืองก็ตาม ในวันนี้ต้องไม่มีเขาไม่มีเรา มีแต่ความเป็นคนไทยร่วมฟันฝ่าวิกฤตไวรัสโควิดแพร่ระบาดไปให้ได้
หากประเทศไทยจับมือสมานสามัคคี ปฎิบัติในมาตรฐานเดียวกัน ต่างมีความรับผิดชอบต่อคนในชาติ และใช้ชีวิตด้วยความไม่หวาดวิตก แต่ระวัง ไม่ถึงขั้นระแวง อีกทั้งอยากเห็นรัฐบาล แถลงเป็นมาตรการเพียงจุดเดียว และต้องกล้าฟังความคิดเห็นคนคิดต่างทางการเมือง เนื่องจากเรื่องโควิดระบาดไม่ใช่เรื่องการเมืองอีกต่อไป แต่เป็นความเดือดร้อนของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งเชื่อว่าคนไทยแยกแยะได้เป็นอย่างดี
"ผมเชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายนี้ ถ้าเราให้ความร่วมมือ ขณะเดียวกันรัฐบาลมีความชัดเจน ประชาชนในชาติตัดสินใจร่วมฟันฝ่าอุปสรรคนี้ร่วมกัน ผมเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นไปด้วยกัน"นายจตุพรกล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |