17 มี.ค.63-นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงนามในคำสั่ง เรื่อง แนวปฏิบัติของโรงเรียนเอกชนในระหว่างประกาศให้ปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ช่วงระยะเวลา การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ถึง ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนทุกประเภท ว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อโควิด-19 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงกำหนดแนวปฏิบัติให้โรงเรียนเอกชน ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 1.โรงเรียนเอกชนในระบบ ประเภทสามัญศึกษา 1.1 ให้โรงเรียนวางแผนการสอนซ่อมเสริม ให้กับนักเรียนโดยใช้ระบบออนไลน์ ระบบ Social Network หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และรายงานให้ สช.ทราบ ทาง E-mail :[email protected]
1.2 ให้โรงเรียนประสานงานระหว่างโรงเรียน พื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบออนไลน์ 1.3 ให้โรงเรียนแนะนำให้นักเรียนและครู เรียนรู้ผ่านศูนย์การเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล สช. (OPEC Digital Learning Center : ODLC ผ่านเว็บไซต์ สช. URL: odlc.opec.go.th ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป 1.4 โรงเรียนใดที่มีการเรียนผ่านระบบออนไลน์อยู่แล้ว และพร้อมที่จะให้เผยแพร่ เพื่อให้โรงเรียนอื่นร่วมใช้ได้ ขอให้รายงาน สช.ทราบโดยเร่งด่วน ทาง E-mail : [email protected] เพื่อดำเนินการนำมาเผยแพร่ต่อไป 1.5 หากโรงเรียนใดที่ผลิตสื่อในระบบดิจิทัล สช. ขอความร่วมมือนำมาผยแพร่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางวิชาการให้แก่โรงเรียนอื่นด้วย 1.6 โรงเรียนใดที่อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครสอบคัดเลือก หรือการรายงานตัวนักเรียนและไม่ได้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินการ ให้เลื่อนกำหนดการไปก่อน จนกว่า สช.จะแจ้งให้ทราบ
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า 2.โรงเรียนเอกชนในระบบ ประเภทนานาชาติ 2.1 ให้โรงเรียนนานาชาติวางแผนการดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ระบบออนไลน์ ระบบ Social Network หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และรายงานให้ สช.ทราบ ทาง E-mail : [email protected] 2.2 ให้โรงเรียนนานาชาติทุกแห่งมีการประสานงานระหว่างโรงเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบออนไลน์ 2.3 ให้โรงเรียนสร้างความเข้าใจถึงความจำเป็นในการปรับวิธีการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว ให้กับนักเรียนและผู้ปกครองทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึง 2.4 ให้โรงเรียนนานาชาติทุกแห่งตรวจสอบข้อมูลระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตของนักเรียนและครูชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่ออายุวีซ่าและรายงานให้ สช.ทราบ 2.5 ในกรณีที่โรงเรียนนานาชาติมีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรมในลักษณะการประชุมปรึกษาหารือ เพื่อเตรียมการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ให้จัดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 ตลอดทั้งลดความเสี่ยงการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด 2.6 โรงเรียนใดที่อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครสอบคัดเลือก หรือการรายงานตัวนักเรียนและไม่ได้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินการ ให้เลื่อนกำหนดการไปก่อน จนกว่า สช.จะแจ้งให้ทราบ
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า 3.โรงเรียนเอกชนนอกระบบ 3.1 ให้โรงเรียนนอกระบบแต่ละแห่งพิจารณาหลักสูตรที่ได้รับอนุญาตให้เปิดสอน เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนจากที่ต้องให้ผู้เรียนเข้าชั้นเรียน เป็นใช้ระบบออนไลน์ ระบบ Social Network หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แทน หากไม่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบดังกล่าวได้ ให้เลื่อนกำหนดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ต้องให้ผู้เรียนเข้าชั้นเรียนออกไปก่อน จนกว่า สช. จะได้แจ้งเปลี่ยนแปลง 3.2 ให้โรงเรียนสร้างความเข้าใจถึงความจำเป็นในการปรับวิธีการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว ให้กับผู้เรียนทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึง 3.3 ให้โรงเรียนนอกระบบทุกแห่งตรวจสอบข้อมูลระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตของผู้เรียนและผู้สอนชาวต่าชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และรายงานผู้อนุญาต เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวช้องดำเนินการต่ออายุวีซ่าต่อไป 3.4 โรงเรียนใดที่อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครสอบคัดเลือก หรือการรายงานตัวผู้เรียนและไม่ได้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินการ ให้เลื่อนกำหนดการไปก่อน จนกว่า สช.จะแจ้งให้ทราบจึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |