“สรรพสามิต”ยันแอลกอฮอล์มีพอรองรับความต้องการด้านการแพทย์


เพิ่มเพื่อน    

 

18 มี.ค. 2563 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยหลังหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข ว่า กรมฯ ได้รับทราบความต้องการใช้ปริมาณแอลกอฮอลด้านการแพทย์และสาธารณสุขของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าประเทศไทยยังมีปริมาณแอลกอฮอล์เพียงพอต่อความต้องแน่นอน โดยปัจจุบันประเทศไทยทั้งองค์การสุรา ผู้ผลิตสุรา3ทับ7 แห่ง และโรงงานผลิตเอทานอล 26 แห่ง สามารถผลิตแอลกอฮอล์สำหรับใช้งานได้ 7.39 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งมากกว่าความต้องการของหน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นองค์การเภสัช กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลศิริราช และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความต้องการใช้แอลกอฮอล์ประมาณ 7-8 แสนลิตรต่อเดือน

“หน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุข ระบุความต้องการใช้แอลกอฮอล์เพิ่มจากปกติ 3-5 เท่าตัว แต่ก็ยังถือว่ารับไหว เพราะปัจจุบัน วันหนึ่งทั้งประเทศผลิตแอลกอฮอล์ได้ 7.39 ล้านลิตร และยังมีสต็อกเหลือ 133 ล้านลิตร สามารถนำไปผลิตแอลกอฮอล์ได้อีกมาก ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาล หน่วยงานทางการแพทย์ที่มีไม่พอ กรมจะประสานไปรับที่องค์การสุราได้” นายพชร กล่าว

นายพชร กล่าวว่า ขอเตือนให้บรรดานายทุน ร้านค้าอย่ามีการกักตุน หรือเก็บเจลล้างมือ หรือผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดไว้จำนวนมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นวัตถุไวไฟ และมีอายุการใช้งานจำกัด ไม่เหมือนกับหน้ากากอนามัย หากเก็บในอุณหภูมิ และสถานที่ไม่เหมาะสมอาจเกิดประกายไฟ และเกิดไฟไหม้ระเบิดขึ้นได้

ส่วนสาเหตุที่เจลล้างมือราคาแพงขึ้นในตอนนี้ เนื่องจากมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งกรมก็ช่วยประสานโรงงานผลิตเจลล้างมือที่ต้องการแอลกอฮอลไปรับวัตถุดิบจากโรงงานเอทานอลให้ จึงขึ้นอยู่กับว่าบรรดาโรงงานผลิตเจล และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด จะหาบรรจุภัณฑ์ ผลิตนำไปจำหน่ายได้มากแค่ไหน แต่เท่าที่ทราบตอนนี้หลายโรงงานกำลังเพิ่มกำลังการผลิตอยู่ ซึ่งในช่วงไม่กี่วันจะมีเจล และแอลกอฮอลออกมาอีกมาก ดังนั้นคนกักตุนก็ไม่ได้ประโยชน์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"