29 มี.ค.2561 - หลังศาลแขวงดอนเมืองได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.812/2559 ที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นโจทก์ฟ้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในข้อหาแจ้งความเท็จให้พนักงานจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาท โดยพิพากษาให้จำคุกนายเรืองไกร 8 เดือน และยกฟ้องนายธาริตนั้น
น่าสนใจที่ท่าทีในภายหลังของนายธาริต ที่รีบส่งทนายมาบอกกับนายวัชระตามที่เจ้าตัวบอกว่า “คนอื่นชั่วกว่าตั้งเยอะแยะ คุณวัชระยังปล่อยไป เอาผมไว้เป็นเพื่อนสักคน และขอว่าอย่าอุทธรณ์ได้ไหม" ทำไมท่าทีของนายธาริตถึงดูอ่อนน้อมถ่อมตนต่างจากก่อนหน้านี้เสียจริง แต่หากพินิจจากคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขดำที่ อม.177/2560 และคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2561 ในเรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2561 ซึ่งเผยแพร่อย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 135 ตอนที่ 20 ก ลงวันที่ 28 มีนาคม 2561ก็จะถึงบางอ้อทันที
คำพิพากษาดังกล่าวระบุไว้ว่า “...ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 10,0000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี (นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2560) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30”
ซึ่งหากนับตามปฏิทินนายธาริตจะรอดคุกในคดีนี้ได้ต้องพ้นจากวันที่ 3 เม.ย.2562 ไปแล้ว แต่ดันกลับมามีคำพิพากษาในคดีนายวัชระขึ้นมาเสียก่อน และหากนายวัชระอุทธรณ์ภายใน 30 วัน และศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ได้ยกฟ้องเหมือนศาลชั้นต้นขึ้นมา โดยยังอยู่ภายในกำหนดการรอลงโทษอยู่ก็อาจทำให้นายธาริตต้องนอนคุกยาวทีเดียว เพราะนอกจากคดีนายวัชระแล้ว ยังต้องผนวกรวมคุกอีก 3 เดือนในคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จจริงด้วย งานนี้จึงเป็นที่มาขอการยื่นไมตรีขอความเป็นเพื่อนจากนายวัชระนั่นเอง
เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 ระบุไว้ว่า “เมื่อความปรากฏแก่ศาลเอง หรือความปรากฏตามคำแถลงของโจทก์หรือเจ้าพนักงานว่า ภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง หรือบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณี
แต่ถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรก ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกกำหนดโทษ หรือถูกลงโทษในคดีนั้น แล้วแต่กรณี”
งานนี้จึงน่าติดตามว่า “แจ๊ค วัชระ” จะยอมรับไมตรีของ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” หรือไม่ หรือธาริตจะต้องลุ้นด้วยใจระทึกพลัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |