ชุมชนเกาะพิทักษ์โวยใช้งบเกือบ 30 ล. สร้างสะพานท่องเที่ยวแต่ได้แค่เสาเข็ม-ตอม่อ


เพิ่มเพื่อน    

17 มี.ค.63 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนเกาะพิทักษ์หมู่ที่ 14 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจสอบกรณีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร้องเรียนการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือ พร้อมอาคารบริการนักท่องเที่ยวที่ก่อสร้างจากงบประมาณพัฒนาจังหวัดชุมพร มูลค่าเกือบ 30 ล้านบาท การก่อสร้างสิ้นสุดสัญญาไปแล้วกว่า 1 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ได้ส่งผลกระทบกับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวอย่างมาก

โดยเกาะพิทักษ์อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 14 อยู่ห่างจากฝั่งบนแผ่นดินใหญ่หมู่ที่ 13 ตำบลบางน้ำจืด เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น การก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือท่องเที่ยว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวสร้างทั้งบนฝั่งและบนเกาะ

จากการตรวจสอบพบว่า จุดก่อสร้างบนฝั่งอยู่ที่บริเวณชายหาดหมู่ 13 ตำบลบางน้ำจืด มีป้ายโครงการระบุหน่วยงานเจ้าของโครงการว่า “จังหวัดชุมพร ศาลากลางจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร งานก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือขนาดเล็กบนฝั่ง ท่าเทียบเรือขนาดเล็กบนเกาะพิทักษ์ พร้อมระบบประปาและอาคารบริการนักท่องเที่ยว ผู้รับจ้างบริษัท ฟอร์ คอน จำกัด เลขที่  45/6 หมู่ที่ 3 ตำบลบางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ระยะเวลาเริ่มต้นสัญญา 28 มีนาคม 2561 สิ้นสุดสัญญา 21 มกราคม 2562 ค่าก่อสร้าง 28,298,000 บาท ก่อสร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน”

ทั้งนี้ การก่อสร้างได้สิ้นสุดสัญญาไปแล้วกว่า 1 ปี แต่ปรากฏว่าการก่อสร้างทั้งบนฝั่งและบนเกาะพิทักษ์ มูลค่าเกือบ 30 ล้านบาท มีเพียงตอม่อ เสาเข็ม และคานปูน ที่เพิ่งจะก่อสร้างไปได้เพียง 20-25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยผู้รับเหมาได้หยุดก่อสร้างปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 1 ปี ขณะที่นักท่องเที่ยวและชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา ยังต้องเดินลุยน้ำทะเลไปขึ้นเรือรับจ้างข้ามไปมาระหว่างเกาะและบนฝั่ง ยังไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องลงไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า โครงการของหน่วยงานรัฐดังกล่าวไม่ได้เข้ามาส่งเสริมแต่กลับทำลายส่งผลกระทบต่อภาพพจน์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง

สำหรับ “เกาะพิทักษ์” เป็นชุมชนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น เป็นเกาะธรรมชาติที่สวยงาม มีชื่อเสียงระดับประเทศและต่างประเทศ ช่วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปี น้ำทะเลลดลงเหลือเพียงฝ่าเท้าสามารถเดินไปมาระหว่างเกาะกับฝั่งได้ จึงมีการจัดกิจกรรมประจำปี “วิ่งแหวกทะเล” จากฝั่งไปยังเกาะพิทักษ์ ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันเกือบ 20 ปีแล้ว จนกลายเป็นกิจกรรมโด่งดังที่รู้จักไปทั่วโลก

ด้าน นายอำพล ธานีครุฑ หรือ “ผู้ใหญ่หรั่ง” ผู้ใหญ่บ้านเกาะพิทักษ์ กล่าวว่าการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือพร้อมอาคารดังกล่าวนั้น ผู้รับเหมาได้ทิ้งงานมานานกว่า 1 ปีแล้วได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนในการประกอบอาชีพและการท่องเที่ยวอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่เคยมาบนเกาะแห่งนี้ปีละ 6-7 หมื่นคน แต่หลังจากมีการก่อสร้างสะพานปล่อยทิ้งร้าง กลับมีนักท่องเที่ยวมาไม่ถึง 2 พันคน เนื่องจากการเดินทางขึ้นลงบนเกาะจะต้องเดินลุยน้ำทะเลไปขึ้นเรือโดยสารทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายทั้งการขนย้ายสัมภาระ การอุบัติเหตุระหว่างขึ้นลงเรือ ขณะที่วิถีชีวิตชาวบ้าน เด็กๆนักเรียน นักศึกษาก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน

"จากเดิมนั้นบนฝั่งมีสะพานท่าเทียบเรือไม้เคี่ยม ส่วนบนเกาะเป็นสะพานคอนกรีต ต่อมาเมื่อทางจังหวัดมีโครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือและอาคารบริการนักท่องเที่ยว ก็ได้รื้อสะพานเก่าทั้ง 2 แห่งทิ้งไป รวมทั้งอาคารสินค้าโอทอปและห้องประชุมบนเกาะที่ตั้งอยู่บริเวณหัวสะพานเดิมถูกรื้อทิ้งไปทั้งหมดทำให้ปัจจุบันชุมชนต้องขาดรายได้ นอกจากนั้นยังได้ส่งผลกระทบต่อโครงการปรับปรุงเกาะพิทักษ์ โครงการพัฒนาต่อเนื่องอีกมายหลายโครงการที่ต้องหยุดชะงักไปด้วย เนื่องจากไม่มีสะพานท่าเทียบเรือทำการขนย้ายสิ่งของ วัสดุภัณฑ์ต่างๆ ตนจึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อลงมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่ปล่อยให้ทิ้งร้างไว้อย่างนี้ “ผู้ใหญ่หรั่งกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"