นายกรัฐมนตรีมาเลเซียสั่งปิดพรมแดน ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศและห้ามชาวมาเลเซียเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันพุธถึงสิ้นเดือนนี้ ปิดสถานศึกษาและธุรกิจเกือบทั้งหมด ชาวสิงคโปร์วิตกแห่ซื้ออาหาร-ของใช้จำเป็นกักตุน

การจราจรบนเส้นทางจากมาเลเซียเข้าสิงคโปร์ติดขัดอย่างหนักเมื่อวันอังคาร หนึ่งวันก่อนหน้าที่มาเลเซียจะปิดจุดผ่านแดน

    รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารว่า นายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม แถลงทางโทรทัศน์เมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ ว่ามาตรการเหล่านี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคม จนถึงวันอังคารที่ 31 มีนาคม โดยเขายอมรับว่าประชาชนอาจรู้สึกว่ามาตรการของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเหล่านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจคร่าชีวิตผู้คนในประเทศ

    "เราไม่อาจรอให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่านี้" ผู้นำมาเลเซียกล่าว "เราได้เห็นแล้วว่าบางประเทศใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด เช่นในจีน ซึ่งสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีนัยสำคัญ"

    มาตรการรุนแรงที่ว่านี้รวมถึงการสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ปิดสถานที่ราชการและธุรกิจของเอกชน ยกเว้นบริการที่มีความจำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เกตและธนาคาร นอกจากนี้ยังจะห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ และห้ามพลเมืองมาเลเซียเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนพลเมืองมาเลเซียที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน

    ข่าวคำสั่งปิดพรมแดนของมาเลเซียส่งผลถึงสิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารมากกว่า 90% ประชาชนในสิงคโปร์พากันตื่นตระหนกซื้ออาหารและสินค้าจำเป็นกักตุน แม้รัฐบาลสิงคโปร์จะยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลนในประเทศ สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ 243 ราย ยังไม่มีคนเสียชีวิต

    รอยเตอร์กล่าวว่า ช่วงเช้าวันอังคาร มีประชาชนมาต่อแถวยาวเหยียดที่่ร้านค้าหลายแห่ง คล้ายคลึงกับภาพเมื่อ 1 เดือนก่อนที่สิงคโปร์ยกระดับการเฝ้าระวังไวรัสโคโรนา แต่ครั้งนี้ร้านค้าต่างๆ เตรียมสินค้าไว้ในสต็อกเพียงพอ ซูเปอร์มาร์เก็ตแฟร์ไพรซ์ที่มีหลายสาขา เริ่มจำกัดจำนวนการซื้อสินค้าจำเป็นบางประเภท เช่น กระดาษชำระ, บะหมี่, ข้าว และไข่ ขณะที่ผู้ซื้อสินค้ารายหนึ่งในตลาดสดบอกกับรอยเตอร์ว่า เนื้อไก่และเนื้อหมูขาดตลาดแล้ว และราคาผักก็แพงขึ้น

    ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม พยายามบรรเทาความหวาดวิตกของประชาชนเรื่องสินค้าขาดแคลน โดยบอกว่ารัฐบาลได้วางแผนรองรับและเก็บสำรองสินค้าไว้ในคลัง โดยสินค้าประเภทโปรตีนและผักมีเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศนานกว่า 2 เดือน ส่วนบะหมี่และข้าวเพียงพอต่อการบริโภคนาน 3 เดือน

    การตัดสินใจใช้มาตรการที่ดุดันของมาเลเซียมีขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมาเลเซียเพิ่มขึ้นในวันเดียวถึง 125 คน รวมเป็น 553 คนในวันอังคาร ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาคนี้ แม้จะยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ผู้ติดเชื้อเกือบ 2 ใน 3 สืบโยงไปถึงการร่วมพิธีทางศาสนาที่มัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมพิธีถึง 16,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 1,500 คน

    กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียกล่าวว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 553 ราย มีถึง 338 รายที่ติดเชื้อจากการเข้าร่วมพิธีที่มัสยิดหลังนั้น โดยชาวมาเลเซีย 14,500 คนที่่เข้าร่วมงาน มีเพียง 7,000 คนที่เข้ามาตรวจเชื้อไวรัสตามที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่การศาสนาร้องขอ ขณะที่ทางการสิงคโปร์, บรูไนและกัมพูชาก็พบผู้ติดเชื้อในประเทศที่กลับจากร่วมพิธีดังกล่าว.