17 มี.ค.62- ที่ศูนย์ข้อมูลโควิด –19 ภายใต้ ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สิ่งที่ประชาชนสอบถามมายังศูนย์ข้อมูลโควิด-19 จำนวนมากคือ เรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่เริ่มมีการกักตุนกัน ยืนยันว่าเราได้เชิญบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่มาสอบถามและพูดคุยกันแล้ว ทุกบริษัทยืนยันว่ามีการผลิตเพียงพอ เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ผลิตได้ 10-15 ล้านซอง/วัน ปลากระป๋อง 665 ล้านกระป๋อง/วัน ปลาทูน่า 2 พันกว่าล้านกระป๋อง/วัน ถ้าชั้นวางไหนสินค้าหมดสามารถเติมสินค้าได้ทันที ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกเกินไป เรายังไม่ถึงขนาดนั้น อยากให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เรามีความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษา การคัดกรองผู้ป่วย เวชภัณฑ์ ผ่านมา 2 เดือนครึ่งเราสามารถที่จะหาผู้ที่ติดเชื้อได้พบเกือบทุกราย มีการแถลงทำความเข้าใจและแนะนำประชาชนถึงวิธีปฏิบัติที่จะหลีกเลี่ยงจากการเสี่ยงติดเชื้อ หรือหากมีอาการต้องปฏิบัติตัวอย่างไร โดยมีการปรับตัวของสถานการณ์ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามเหตุการณ์ที่มันจะต้องเป็น เพราะเรายังมีการเดินทางไปมาของคนในประเทศและต่างประเทศ โดยยังป้องกันอย่างเต็มที่ เราต้องคิดถึงหลายๆ ปัจจัยประกอบกัน ยืนยันด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรายังหาต้นตอได้ และจำนวนผู้ป่วยที่หายป่วยก็มีไม่น้อย
ส่วนที่ไม่รายงานประชาชนว่าแต่ละช่วงมีผู้ป่วยอยู่เท่าไรนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้ประชาชนตกใจ และเราต้องการที่จะให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากที่สุด ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะปิดข่าวหรือดัดแปลง ข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)มีเป็นข้อมูลเดียวกับประชาชน ซึ่งการที่ประกาศยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรายวันนั้น ก็เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า ส่วนที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้นนั้นมาจากการที่พวกเขามีความประมาท อยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรจะไป เช่น สนามมวย ซึ่งการติดเชื้อไม่ได้เกิดจากการนักมวยอย่างเดียว แต่กรรมการ คนเชียร์ รวมถึงสภาพอากาศก็เอื้ออย่างมากต่อการติดเชื้อ และการติดเชื้อจำนวนมากตนไม่ใช้คำว่าวงกว้าง เพราหากเข้าระยะสามได้ต้องแพร่เชื้อเป็นวงกว้างและหาสาเหตุไม่ได้ แต่ตอนนี้เรายังหาได้ว่าคนไปสถานที่แห่งใด มีปัจจัยแพร่เชื้อชัดเจน ช่วง 2-3 วัน ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 60-70 คนนั้น มาจากที่เดียวกัน สธ.ได้ชี้แจงให้ระวัดระวังว่าที่ใดควรไปและไม่ควรไป เช่น ตรงไหนที่มีการชุมนุม อยู่แบบแออัดใกล้ชิด มีเหงื่อเยอะ สารคัดคลั่งเยอะ ละอองฝอยเยอะ คือที่แพร่เชื้อไวรัสโควิด-19
“ขอขอบคุณบุคลากรทางแพทย์และประชาชนที่ให้ความร่วมมือและเข้าใจความตั้งใจของรัฐบาล และสธ.ในการต่อสู้กับโรคนี้ พลังของความร่วมมือประชาชนจะทำให้เราสามารถเอาชนะโรคนี้ได้ ขอให้ความมั่นใจ บุคลากรทางแพทย์ของ สธ. เคยสู้กับโรคร้ายแรงมาแล้วหลายครั้งในช่วง 15 ปี ทุกคนมีประสบการณ์ เรายังมีความพร้อม และพวกเรายังมีความเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีแตกแยก ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ตามที่มีข่าวออกมา”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากวันนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคมีอำนาจในฐานะเจ้าพนักงานในการออกคำสั่งให้ฝ่ายปกครองพิจารณาแล้วดำเนินการตามเหตุการณ์ที่สมควรของแต่ละจังหวัด หากตนหรืออธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่พบเห็นสถานที่ใดไม่ปลอดภัย อธิบดีกรมควบคุมโรคในฐานะเจ้าพนักงานสามารถสั่งการและสั่งปิดสถานที่นั้นได้เลย และขอยืนยันว่าไม่ได้มีการปิด กทม. แต่ปิดสถานที่ เช่น ผับ บาร์ ใน กทม.และปริมณฑล ส่วนสาเหตุที่ต้องปิดสถานที่ต่างๆ ใน กทม. และปริมณฑล 14 วันนั้น เราขอให้เจ้าของสถานที่ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวทำบิ๊กคลีนนิ่ง โดย สธ.จะเข้าไปให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย ภายในระยะเวลา 14 วันดังกล่าวเราจะพิจารณาว่ามีการทำให้สถานที่สะอาดเพียงพอหรือไม่ และจะเปิดในเวลาที่เหมาะสมต่อไป เราเข้าใจถึงความเดือดร้อนของผู้เกี่ยวข้อง แต่เราพิจารณาเรื่องความปลอดภัยก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า มีศพนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง แม้หน่วยงานต่างๆ จะมากันแล้ว แต่ไม่สามารถเก็บศพไปได้ เพราะกรมควบคุมโรคไม่ได้เดินทางไปด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีการตั้งข้อรังเกียจรังงอนคนที่เสียชีวิต ถ้าทราบว่ามีปัจจัยความสุ่มเสี่ยงเราก็มีวิธีป้องกันตัวเองในการชันสูตร ในทางปฏิบัติไม่เชื่อว่าเกิดขึ้นได้ อันนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริง มั่นใจว่าถ้าเป็นเรื่องชันสูตรเราก็ดูสภาพหน้างานว่าคนที่เกี่ยวข้องจะต้องป้องกันอย่างไร
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษก สธ. กล่าวเสริมว่า ในกรณีดังกล่าวต้องขออภัย ปกติแพทย์จะต้องประเมินว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงจะต้องมีการประสานงานไปทางหน่วยงานที่เราอบรมไว้แล้ว เช่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ว่าบางช่วงอาจจะขาดอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ชุด PPE โดยตั้งแต่นี้ไปเราได้นำเรื่องมาหารือถึงการทำงาน คือ หากพบว่ารายไหนมีความเสี่ยงจะนำมาตรฐานการเก็บศพมาใช้ ส่วนกรณีศพที่ไม่มีความเสี่ยงจะดำเนินการตามปกติ
เมื่อถามว่า ฟิตเนสจะปิดด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า แล้วเป็นสถานบริการหรือไม่ ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติการออกกำลังกายจะมีละอองฝอยและสารคัดหลั่งทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ จึงบอกว่าต้องทำความสะอาดตลอดเวลาในสถานที่ที่มีการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |