นายกฯ เป็นคนตลกจริงๆ

            ขนาดร้องเพลงโชว์ลูกคอ ระหว่างกินข้าวเที่ยง พบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล วานนี้ "ลุงตู่" ยังร้องเพลง "เงียบๆ คนเดียว" ของพี่เบิร์ด ให้บรรดาสื่อมวลชนฟัง

            แต่คงยาก คนเป็นนายกรัฐมนตรีจะอยู่เงียบๆ คนเดียวได้ไง

            อีกอย่างประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว เท่ากับทิ้งชีวิตส่วนตัวไปอย่างถาวร ท่านจะเป็นบุคคลสาธารณะ ที่จะต้องเจอทั้งคำติชม วิพากษ์วิจารณ์ จนกว่าจะเลิกเล่นการเมือง

            ฉะนั้น "ลุงตู่" จะอยู่เงียบๆ คนเดียวไม่ได้

            นอกจากเรื่องหมา ๓ ตัว ที่คงจะจบลงแบบไม่มีอะไร เพราะซื้อแล้วไม่แจกใคร แต่จะขายต่อ

            ยังมีอีกเรื่องที่ "ลุงตู่" พยายามอธิบาย นั่นคือ "พรรคทหาร"

          "ผมถูกสร้างภาพว่าเป็นทหาร และก็บานปลายไปสู่การตั้งพรรคทหาร ผมก็ตอบให้ชัดเจนว่า ไม่ใช่พรรคทหาร เพราะทุกคนที่อยู่ในรัฐบาลนี้ ก็ไม่ใช่รัฐบาลทหาร

          ถ้าเป็นรัฐบาลทหารก็ต้องมีทหารหมด แต่เรามีประชาชนและทหารรวมอยู่ด้วยกัน เพราะเป็นสถานการณ์พิเศษ หากเป็นพรรคการเมืองทหารต้องเอาทหารมาลงเลือกตั้งทั้งหมดใช่หรือไม่"

            ก็น่าเห็นใจครับ "ลุงตู่" พยายามแยกระหว่างบทบาทการเป็นทหารกับนักการเมืองออกจากกัน แต่โดยภาพรวมสลัดไม่พ้น

            เพราะเวลามีการพูดถึง "ลุงตู่" มันหมายถึง คสช. ที่มีทั้งทหาร อดีตทหารที่เป็นนักการเมือง และพลเรือนเป็นองค์ประกอบอยู่

            และบางคนก็ร่วมรัฐบาลอยู่

            เฉพาะ "ลุงป้อม" คนเดียว ก็แยกยากแล้วว่าเป็นทหารหรือนักการเมืองกันแน่ หรือเป็นทั้งสองอย่าง เพราะอิทธิพลของ "ลุงป้อม" ในกองทัพ มันเยอะจริงๆ

            ฉะนั้นเวลาคนเขามองว่าพรรคที่จะเกิดมาเพื่อสนับสนุน คสช.คือพรรคทหาร มันก็ไม่ผิดครับ

            คล้ายๆ กับที่พรรคสามัคคีธรรมเคยถูกตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร หรือพรรคเสรีมนังคศิลา ตั้งมาเพื่อค้ำบัลลังก์ จอมพล ป.พิบูลสงคราม

            นั่นคือพรรคทหารตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

            ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลที่มีแต่ทหาร หรือพรรคที่มีแต่ทหาร

            แต่มันคือพรรคที่สนับสนุน คนที่มาจากกองทัพเป็นนายกรัฐมนตรี

            องค์ประกอบของพรรคก็จะมีทั้งพลเรือนและทหาร

            ดูอย่างสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ ของพม่าในอดีต ที่เรียกติดปากว่า สล็อร์ก (SLORC) ซึ่งก็คล้าย คสช.ของไทย เขาก็มีพลเรือนผสมผสานอยู่

            กระนั้นก็ตามชาวโลกก็ยังเรียกว่า รัฐบาลทหารพม่า

            สำหรับประเทศไทยก็เพราะ สถานการณ์พิเศษ นี่แหละทำให้เกิดรัฐบาลทหารขึ้น

            ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้!

            แต่เมื่อล่วงเลยสถานการณ์พิเศษไปแล้ว การคงสภาพของพรรคทหาร จำต้องระมัดระวัง

            เพราะในอดีตมีประวัติไม่ดีนัก.