28 มี.ค. 61 -  นายวีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สั่งการให้ นายพยนต์  อัศวพิชยนต์ ปลัดจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กำลังฝ่ายทหาร –ตำรวจ –ปกครอง และสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ได้นำกำลังและเจ้าหน้าที่กว่า 50 คน  เดินทางเข้าเคลียร์ปัญหาความวุ่นวายที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หรือ วัดหิริญญาราม ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง หนึ่งในคำขวัญแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรที่มีปัญหาเรื้อรังมายาวนานเกือบ 5 ปีแล้ว

ทั้งนี้เมื่อปี 2557 อดีตข้าราชการครู ซึ่งเป็นอดีตไวยาวัจกร 2 คน ร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ให้มีการสอบสวน พระครูวิสิฐสีลาภรณ์   ซึ่งในขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนยืดเยื้อมานานหลายปี ในที่สุดก็มีคำสั่งจากมติมหาเถรสมคม สั่งปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณ์  ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และหลังจากนั้นพระผู้ใหญ่ก็ได้แต่งตั้ง  พระพิสุทธวรากร  เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 4 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานไม่สามารถเข้าปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ หรือ เข้าไปบริหารงานในวัดได้

ผู้สื่อข่าวพิจิตร  รายงานว่ากลุ่มบุคคล ที่ระบุว่าเป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ของวัด ได้รวมกลุ่มคัดค้านไม่เห็นด้วย ที่จะรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเข้าวัด โดยอ้างว่าไม่ยอมรับคำสั่งแต่งตั้ง ไม่ยอมรับคำสั่งตัดสินของพระผู้ใหญ่และอีกหลายๆเรื่อง 

เรื่องดังกล่าวมีคดีความฟ้องร้องถึงศาลฎีกาพิพากษา ปลดอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานชอบด้วยกฎหมายถูกต้องแล้ว ( คำพิพากษาฎีกาที่ 5437/2560 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2560  อ่านคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนี้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ) รวมถึงการใช้อำนาจของ พระพิสุทธวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ในการปลดและแต่งตั้งไวยาวัจกรคนใหม่เพื่อดูแลวัดวาอารามและทรัพย์สินเงินทองของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็ล้วนชอบด้วยกฎหมาย

วันนี้ นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ปลัดจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกำลัง 3  ฝ่ายได้นำพา พระพิสุทธวรากรรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน พร้อมด้วย  นายกิจชัย  บุญปู่  ทนายความ  เข้าไปในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เพื่อจะตรวจสอบการจำหน่ายวัตถุมงคล รวมถึงเงินในตู้บริจาคที่คาดว่ามีเงินเป็นจำนวนนับล้านบาท เพื่อจะได้ทำบัญชีและนำเข้าธนาคารเพื่อทำให้โปร่งใส  แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลประมาณ 20 คน ขัดขวาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้คัดค้านส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้หญิงและคนแก่ รวมตัวกันมานั่งกีดขวางทางขึ้นลงบันได ซึ่งเป็นที่จำหน่ายวัตถุมงคลแถมยังมีการล็อกกุญแจไม่ให้เจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ของฝ่ายสำนักพุทธเข้าตรวจสอบ.