"เหริน จื้อเชียง" อดีตผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของทางการจีนหายตัวปริศนาเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากเรียกประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าเป็นตัวตลก ในบทความที่วิจารณ์สุนทรพจน์ของสีเกี่ยวกับการต่อสู้ไวรัสโคโรนาเมื่อเดือนที่แล้ว

เหริน จื้อเชียง ขณะร่วมการประชุมธุรกิจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558

    ข่าวของรอยเตอร์อ้างคำกล่าวของเพื่อนของเหริน 3 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม ว่าพวกเขาติดต่อสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนฝีปากกล้าซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของหัวหยวน เอสเตท กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของทางการจีน รายนี้ไม่ได้มาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม

    หวัง อิง นักธุรกิจหญิงที่เป็นเพื่อนสนิทของเหริน กล่าวว่า เพื่อนหลายคนกำลังตามหาเขาด้วยความกังวลอย่างมาก เหรินเป็นบุคคลสาธารณะ การหายตัวของเขาเป็นเรื่องที่รู้กันในวงกว้าง สถาบันใดที่รับผิดชอบกับเรื่องนี้ต้องมีคำอธิบายที่ชอบด้วยกฎหมายและเหตุผลโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

    ความเรียงที่เหรินแชร์กับคนที่เขารู้จักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งเป้าวิจารณ์สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งสื่อของทางการจีนกล่าวว่าเป็นการกล่าวผ่านประชุมทางไกลกับสมาชิกพรรคทั่วประเทศ 170,000 คน สำเนาของความเรียงของเหรินถูกคนอื่นๆ นำมาโพสต์ต่อทางออนไลน์

    เนื้อหาในความเรียงฉบับที่เว็บไซต์ไชน่าดิจิทัลไทมส์ ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐ นำมาเผยแพร่นั้น เหรินกล่าวถึงสุนทรพจน์นี้โดยไม่ได้อ้างอิงชื่อของสี ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่จักรพรรดิกำลังยืนอวดฉลองพระองค์ชุดใหม่ แต่เป็นตัวตลกเนื้อตัวล่อนจ้อนที่ยืนกรานเป็นจักรพรรดิต่อไป

    เหรินยังวิจารณ์ว่า สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาเปิดเผยให้เห็นวิกฤติของการบริหารภายในพรรค และการขาดเสรีภาพของสื่อและการแสดงความเห็นที่ทำให้จีนไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดได้เร็วกว่านี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น

    การหายตัวอย่างปริศนาของเหรินเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ระบบเซ็นเซอร์ของทางการจีนเกี่ยวกับการถกเถียงของสื่อท้องถิ่นและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเรื่องการระบาดของไวรัส เข้มงวดยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

    นับแต่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ในภาคกลางของจีนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถึงวันอาทิตย์ จีนแผ่นดินใหญ่ ไม่รวมฮ่องกงและมาเก๊า มีผู้ติดเชื้อแล้ว 80,844 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 3,199 ราย รักษาหาย 66,911 ราย

    รัฐบาลจีนกล่าวถึงการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาว่าเป็น "สงครามของประชาชน" ที่มีประธานาธิบดีสีเป็นผู้นำ

    ถึงแม้ว่าการใช้มาตรการเข้มงวดของทางการจีนในการต่อสู้กับไวรัส ซึ่งรวมถึงการปิดเมืองอู่ฮั่นทั้งหมด ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดในจีนทั้งที่ในประเทศอื่นๆ นั้นเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว กระนั้นทางการจีนก็โดนวิจารณ์ว่าปราบปรามการเผยแพร่ข่าวสารในช่วงแรกๆ ที่พบการแพร่เชื้อ

    เหรินซึ่งเคยได้รับฉายาว่า "เหรินปืนใหญ่" จากถ้อยคำวิจารณ์ที่เขาโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เคยถูกพรรคคอมมิวนิสต์ทำทัณฑ์บนเป็นเวลา 1 ปี เมื่อปี 2559 เพื่อลงโทษที่เขาวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลต่อสาธารณะ

    ปีเดียวกันนั้น รัฐบาลจีนสั่งให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายราย เช่นเว่ยป๋อ ซึ่งคล้ายกับทวิตเตอร์ในเวอร์ชั่นจีน ปิดบัญชีของเหริน ซึ่งตอนนั้นมีผู้ติดตามมากกว่า 30 ล้านคน โดยอ้างเหตุผลว่าเหรินแพร่กระจายข้อมูลที่ผิดกฎหมาย.