ก่อนหมดช่วงทดเวลาบาดเจ็บ


เพิ่มเพื่อน    

      ขนาดฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ “ลา ลีกา” สเปน กัลโชเซเรีย อา อิตาลี...ยังต้องหยุดเตะ  หยุดโอกาสการสุมหัวรวมตัวของบรรดากองเชียร์ในสนามเอาดื้อๆ ไล่ไปถึงกีฬาอีกหลายต่อหลายประเภท หรือแม้แต่การมะรุมมะตุ้มในขอบเขตเล็กๆ อย่างสนามมวยเวทีลุมพินี ราชดำเนิน บ้านเรา ยังถึงกับต้องชะงัก งดต่อย งดเตะ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ฤทธิ์เดชของ Covid-19 คราวนี้ ต้องเรียกว่า...ออกจะ เอาเรื่อง เอาเลยทีเดียวเจียว...

                                                              ---------------------------------------------------   

      แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับบรรดาหนูเล็กเด็กๆ ทั้งหลาย เขายังจะมีกะจิตกะใจคิด แฟลชแดนซ์ หรือ แฟลชม็อบ กันอีกหรือไม่ อย่างไร??? ก็มิอาจสรุปได้ เพราะการไปมะรุมมะตุ้ม ไปแออัด ยัดเยียด ไม่ว่าจะตามสะพานลอย หน้าศูนย์การค้า สถานีขนส่งรถไฟฟ้า ฯลฯ หรือภายในขอบเขต ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ฯลฯ ณ จุดไหนต่อจุดไหนก็ตามที โอกาสที่จะโดน Covid-19 ในฐานะมือที่สาม มือที่สี่  หรือที่ห้า ก็แล้วแต่ แทรกซึม แทรกแซง พ่นละอองลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศได้เป็นชั่วโมงๆ ก่อนซึมซ่านเข้าไปสู่เด็กๆ รายหนึ่ง รายใด จนแทนที่จะได้ ประชาธิปไตย ติดไม้ ติดมือ กลับบ้าน อาจได้ อาจารย์โกวิท หรือ Covid-19 ไปส่งมอบเป็นอภินันทนาการ ให้แก่บิดา-มารดาบังเกิดเกล้า ตลอดจนญาติโกโหติกาตัวเอง เอาง่ายๆ...

                                                              ---------------------------------------------------

      ด้วยบรรยากาศทำนองนี้นี่เอง...มันเลยกลายเป็นตัว ทดเวลาบาดเจ็บ ให้กับรัฐบาล ได้เป็นจำนวนไม่น้อย กว่าจะผ่านพ้นการแพร่ระบาดใน ระยะที่สอง หรือ ระยะที่สาม ก็แล้วแต่ กว่าจะมีการประดิษฐ์ คิดค้น วัคซีน เพื่อเอาชนะไวรัส Covid-19 กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ก็ยังมิอาจสรุปได้ถนัดชัดเจน ว่ามันจะอีกกี่เดือน หรือกี่ปี การแยกย้ายกระจัดกระจายไปตามทางใครก็ทางมัน  การสร้าง ระยะห่าง ในการปฏิสัมพันธ์ชนิดเป็นเมตรๆ ขึ้นไป หรือการหันไปอุดอู้อยู่แต่ในบ้านกันเป็นหลัก ฯลฯ จึงน่าจะทำให้รัฐบาลพอมีโอกาสหายใจ หายคอ จากแรงกดดันในบางรูป บางแบบ ขึ้นมาได้บ้าง โดยเฉพาะจากการอาศัย กลไกที่ไม่ปกติ เป็นตัวกด ตัวบีบ จนกว่าจะหักโค่น หรือหักกลาง ลงไปเอง...

                                                                 -------------------------------------------------

      อันนี้...จะถือเป็นโชคดี หรือเป็นเพราะ พระสยามเทวาธิราช ท่านออกแรงช่วย ก็แล้วแต่จะไปคิดกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือภายใต้ช่วง ทดเวลาบาดเจ็บ ที่ทอดยาวออกไป การหาทางปรับเกม ปรับแผนการเล่น หรือแม้กระทั่งปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น ย่อมถือเป็นสิ่งซึ่งมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ ส่วนจะถอดกองหน้า กองกลาง หรือกองหลัง จะเติมตัวรุกเพื่อเพิ่มจังหวะในการทำประตู หรือจะส่งตัวจ่าย ตัวตัดเกม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมประสานระหว่างกองหน้ากับกองหลัง คงต้องถือเป็นการบ้าน หรือเป็นโจทย์สำคัญ ของบรรดา มูริญโญ หรือ มูรอโง่ ทั้งหลาย ว่าจะอ่านเกม แก้เกม ได้อย่างทะลุปรุโปร่งมาก-น้อยเพียงใด...

                                                                    -----------------------------------------------

      แต่ถ้าเอาแต่อยู่เฉยๆ...ไม่คิดจะปรับ ไม่คิดจะแก้ นั่งเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือเคี้ยวฟันยางต่อไปเรื่อยๆ  โอกาสที่จะ พ.ป.ท. หรือ พังกันไปทั้งทีม ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ เพราะแม้ว่า กลไกที่ไม่ปกติ มันยังไม่มีโอกาสขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว แต่ กลไกที่ปกติ ในโลกเสมือนจริง หรือโลกโซเชียล มีเดียทั้งหลาย ที่พร้อมจะด่าใครต่อใครไปตามปกติ มันชักจะเดินเครื่อง เดินหน้า แบบเต็มสูบ เต็มลำ หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดไม่ใช่แค่ ด่ากันวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เท่านั้น ยังเพิ่มรอบสาย รอบดึก รอบเที่ยงคืน ฯลฯ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึง ระยะห่าง ว่าจะกี่เมตรต่อกี่เมตร แม้แต่ระดับข้ามฟ้า ข้ามโลก ข้ามประเทศ ก็ยังสามารถ ปากชักยนต์ ไปได้เรื่อยๆ...

                                                                         --------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่ออกจะน่าหนักใจมิใช่น้อย เพราะมันเท่ากับเป็นการ อุ่นเครื่อง หรือการ เติมหัวเชื้อ ให้กับการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวของ กลไกที่ไม่ปกติ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ชนิดถ้าเจอ วัคซีน แก้เชื้อไวรัสขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ไม่ใช่แค่ Covid-19 เท่านั้นที่ต้องเหี่ยวปลาย หมดฤทธิ์ หมดเดช แต่กระทั่ง บิ๊กตู่-20 (ยุทธศาสตร์ 20 ปี) อาจต้องไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี เอาง่ายๆ โดยจะลุกลาม ลามปาม ไปถึงใครต่อใคร ที่เคยสัมผัสเชื้อละออง เคยแตะต้องสารคัดหลั่งของ บิ๊กตู่ ด้วยหรือไม่ ประการใด ก็ยากซ์ซ์ซ์ที่จะคาดคะเนได้ เพราะพวกเด็กยุคดิจิตอล หรือเด็กยุค 4.0 มันออกจะเดาใจลำบากเอามากๆ...

                                                                         ----------------------------------------------

      คือถ้าหาก ไป กันแค่เฉพาะ บิ๊กตู่...ก็ยังไม่ถึงกับน่าหนักใจมากมายซักเท่าไหร่ เพราะอย่างที่เคยว่าๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า โดยธรรมชาติของรัฐบาล ย่อมไม่ต่างไปจากสิ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไปนั่นแล แต่ถ้าหากมันลุกลาม ลามปาม ไปถึงใครก็ตาม ที่เพียงแค่เคยสัมผัสมือ สัมผัสไม้ เคยพ่นละอองในอากาศห่างไปจาก บิ๊กตู่ เพียงแค่ไม่กี่เมตร หรือเคยเผลอไปแตะสารคัดหลั่งของ บิ๊กตู่ โดยมิได้ตั้งใจเอาเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากต้องพลอย ซวย ไปด้วย หรือ ติดเชื้อ ไปด้วย อันนี้นี่แหละ...ทั้งน่าห่วงและน่าหนักใจ เอามากๆ เพราะมันอาจนำมาซึ่งฉากสถานการณ์ที่ร้ายแรงซะยิ่งกว่าการแพร่ระบาด ระยะที่สาม ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าหรือแทบไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไผเป็นไผ เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                          --------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ในช่วงระยะเวลาแห่งการ ทดเวลาบาดเจ็บ จึงถือเป็นช่วงที่ออกจะมีความสำคัญเอามากๆ ที่บรรดาผู้ห่วงชาติบ้านเมืองทั้งหลาย พึงอาศัย สติ และ ปัญญา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณธรรม เข้าไปช่วยขบคิด ช่วยตอบโจทย์ หรือช่วยทำการบ้านเอาไว้ล่วงหน้า ว่าภายใต้ฉากสถานการณ์ตั้งแต่ดีสุด ไปจนถึงเลวร้ายสุดๆ ควรจะตั้งรับ หรือจะกำหนดแผนการเอาไว้ในลักษณะไหน อย่างไร???

                                                                        ------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Peter Muller...“What’s lasting is not what resists time, but what  wisely changes with it. - สิ่งที่ยืนยง คงทน หรือยืนยาวเป็นสิ่งสุดท้าย หาใช่เป็นสิ่งซึ่งสามารถต้านทานกาลเวลาไม่ แต่เป็นสิ่งซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาได้อย่างชาญฉลาด...".

                                                                           ----------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"