ณ วินาทีนี้ประเทศไทย ไม่ต่างไปจากภาวะสงครามสักเท่าไหร่
แต่ดูเหมือน "คนไทย" จะยังไม่พร้อม
เพราะจำนวนไม่น้อยยังแบ่งข้าง ชี้หน้าด่ากัน
ผู้นำโง่ประชาชนตายหมด
ประชาชนโง่เราจะตายกันหมด
ที่จริงมันจะตายกันหมดเพราะ คนไทยไม่รู้จักเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาก่อนหลังนี่แหละ
ถ้ายังเอาการเมืองมาปนกับ โควิด-๑๙ เราก็จะเห็นแต่คนนั่งด่ากัน สุดท้ายติดไวรัสตายทั้งหมด
ฉะนั้นอยากให้รู้จักแยกแยะ
จะมาไล่รัฐบาลตอนนี้ คิดว่ารัฐบาลใหม่มาจะทำงานได้ทันกับสภาพปัญหา ที่ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงแบบก้าวกระโดดขึ้นเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ?
คิดว่ารัฐบาลใหม่เป็นใคร?
ก็เพื่อไทยนั่นแหละ!
จำได้หรือเปล่าปี ๒๕๕๔ ใครบอกว่า "เอาอยู่" ปกปิดข้อมูลกันจนวาระสุดท้าย
น้ำท่วมใหญ่มีผู้เสียชีวิต ๘๑๓ คน ใน ๔๔ จังหวัด
อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดทั้งในแง่ของปริมาณน้ำและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ
นี่คือพรรคที่บอกว่าจะมาจัดการปัญหาโควิด-๑๙ น่ะซิ! เพราะเห็นเรียกร้องกันจัง
บางคนถึงกับเชียร์นายกฯ สิงคโปร์ว่าเก่งกว่าผู้นำไทย โทษเถอะครับ ส่องกระจกดูตัวบ้างไหม ว่าตัวเองทำคุณประโยชน์ให้ประเทศสมกับฐานานุรูปหรือเปล่า
ฉะนั้นประเด็นนี้จบนะ
ส่วนรัฐบาล "ลุงตู่" มีสิ่งที่ต้องทำเยอะ และอย่าลืมทุกวิกฤติมักมีฮีโร่เสมอ หากแก้ปัญหาได้ถูกจุด
วันนี้ประเทศไทยต้องการความเด็ดขาดจากผู้นำ
ต้องการการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและรวดเร็ว
และสิ่งสำคัญไอ้พวกเคลื่อนไหวทางการเมือง หยุดพล่ามกันเสียที เวลานี้มันไม่ใช่เวลามาหาประโยชน์ทางการเมือง และกรุณาแยก "รัฐ" กับ "รัฐบาล" ให้ออก
รัฐ-ราชการ บุคลากรในระบบสาธารณสุขของไทย หมอ พยาบาล ต่อสู้กับ โควิด-๑๙ มาอย่างแข็งขัน สู้มาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
พวกหาประโยชน์ทางการเมืองพยายามบอกว่า กระทรวงสาธารณสุข หมอไทย ปกปิดข้อมูล ขอโทษเถอะครับถ้าปกปิด และทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ป่านนี้โควิด-๑๙ ระบาดเข้าระยะที่ ๓ ไปนานแล้ว
ใครที่เอาแต่ตะโกนว่ามีการปกปิดข้อมูล ก็ลองนับนิ้วดูว่าตัวเองพูดเอาไว้เมื่อไหร่แล้วบวก ๑๔ วันเข้าไป
ที่บอกว่าปกปิดวันนี้มันเลยระยะฟักเชื้อมากี่รอบแล้ว โควิด-๑๙ มันลามถึงขนาดไม่รู้ว่าใครติดจากใครแล้วหรือยัง
ล่าสุดแม้จะพบผู้ติดเชื้อ ๓๒ ราย และรอยืนยัน ๕๑ ราย ถามว่ามากไหม มันก็น่าตกใจ แต่ยังตามได้ว่าใครติดจากใคร และตามไปดูต่อว่าใครส่งเชื้อผ่านไปยังใคร
มันยังอยู่ในข่ายควบคุมได้อยู่
ในส่วนของรัฐบาล นักการเมือง ปัญหาที่ถูกโจมตีหนักคือเรื่องหน้ากากอนามัย รัฐบาลก็มีหน้าที่แก้ให้ตรงจุด มีเนื้อร้ายตรงไหนก็ตัดออกไป เพื่อจะได้มีเวลาส่วนใหญ่ไปสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์
สำหรับประชาชน สิ่งสำคัญคืออย่าเคยตัว เอาแต่ตะโกนให้รัฐบาลช่วย แต่ตัวเองสร้างปัญหา
ประชาชนมีหน้าที่ต้องดูแลตัวเองด้วย
จากสถิติจะพบว่าผู้ติดเชื้อ และนำเชื้อมาติดผู้อื่น ยังเป็นคนที่กลับจากประเทศเสี่ยง เช่นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นเป็นหลัก
มีคำแนะนำว่า ให้กักตัวเองในประเทศต้นทาง ๑๔ วัน ก่อนเดินทางมาไทย ถามว่าทำกันกี่คน
มาแล้วให้กักตัว ๑๔ วัน จนถึงวันนี้บางคนก็ยังไม่ให้ความร่วมมือ
แบบนี้ต่อให้เทวดามาเป็นรัฐบาลก็แก้ปัญหาไม่ได้
ฉะนั้นทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาด้วยกัน
ไม่ใช่วันๆ เอาแต่นั่งหน้าคีย์บอร์ด นิ้วจิ้มไปเรื่อย ด่ารัฐบาลหน้าโง่ เผด็จการจงพินาศ
อย่าไปมองว่าคนอื่นสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้น
อย่างน้อยๆ ลองพิจารณาดูตัวเองทำคุณประโยชน์ให้ประเทศแค่ไหน เมื่อเทียบกับคนที่คุณตั้งหน้าตั้งตาด่า
แล้วจะพบคำตอบหากซื่อสัตย์กับตัวเอง
และจงจำไว้การนั่งในห้องแอร์ กับการอยู่กลางสมรภูมิรบ มันมีข้อมูลในการตัดสินใจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |