ถึงจะช็อกกับตัวเลข แต่ยังวางใจได้ว่า การรับมือกับโควิด-19 ยังอยู่ในข่ายที่สามารถรับมือได้ และยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 "นพ.สุขุม กาญจนพิมาย" ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะ แถลงสถานการณ์ล่าสุด (15 มีนาคม) พบผู้ป่วยเพิ่ม 32 ราย และยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 51 ราย แต่อย่างเพิ่งตื่นตระหนก ตั้งใจอ่านคำแถลงให้ดีๆ
กลุ่มที่ 1 เชื่อมโยงกับสนามมวย จำนวน 9 ราย กลุ่มที่ 2 เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง จำนวน 8 ราย กลุ่มที่ 3 ทำงานสัมผัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยว จำนวน 3 ราย กลุ่มที่ 4 ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ จำนวน 7 ราย กลุ่มที่ 5 เป็นผู้สัมผัสเจ้าของร้านอาหารที่ติดเชื้อ จำนวน 2 ราย กลุ่มที่ 6 อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนโรค จำนวน 3 ราย นั่นเท่ากับว่ายังรู้ต้นตอ และยังสามารถขยายผลไปยังบุคคลที่สัมผัสใกล้ชิดรายอื่นๆ ได้ต่อไป
นัยสำคัญของเรื่องนี้คือ การระบาดยังคงอยู่ในระยะที่ 2 ยังรู้ว่าใครติดจากใคร และมีแนวโน้มว่าจะติดใครต่อ ส่วนบางคนที่หาว่ารัฐปกปิดข้อมูล การติดเชื้อน่าจะเข้าสู่ระยะที่ 3 แล้ว ก็ต้องถามก่อนว่า เข้าใจระยะของการติดเชื้อแค่ไหน ต่อให้พบผู้ป่วยเพิ่มมาอีก 100 คนในวันเดียว แต่หากสืบสาวราวเรื่องได้ว่าติดจากใคร มีใครในกลุ่มบ้าง มันก็ยังตามไปตรวจสอบต่อได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการติดจากระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ มาเพียงคนเดียว ไม่สามารถไปตามหาว่าติดมาจากใคร นี่แหละ เข้าสู่ระยะที่ 3 ทันที เตรียมกันตุนอาหารกันได้เลย ...0
วันนี้ผู้คนเริ่มแตกตื่น กักตุนอาหาร ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น คนไทยรู้จักป้องกันตัวเอง ฝ่าเหตุการณ์โควิด-19 มาได้ร่วม 3 เดือน ผิดกับการระบาดชนิดควบคุมไม่ได้อย่างในอิตาลีและหลายประเทศในยุโรป ซึ่งเรายื้อระยะที่ 2 ได้นานกว่า นั่นแสดงว่าเราตื่นตัวและเตรียมตัวดีกว่าชาวยุโรป ฉะนั้นยังไม่มีความจำเป็นต้องตื่นตระหนกไปกักตุนอาหาร อีกทั้งระบบโลจิสติกส์ของประเทศก็มิได้ถูกทำลาย การผลิตอาหารก็ยังคงเป็นไปตามปกติ โอกาสที่ขาดแคลนอาหารจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย ...0
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ขอให้ประชาชนอย่ากลัว หรือตื่นตระหนกกักตุนอาหาร "ขณะนี้มีมาตรการออกมาตามลำดับ มีการติดตามและหารือการเตรียมความพร้อมหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยกระดับเข้าสู่ระยะที่ 3 ว่าจะต้องวางแผนรองรับกับสถานการณ์ด้านใดบ้าง ขณะนี้พบว่ามีเที่ยวบินลดจำนวนลง รวมถึงมีคนเดินทางเข้าประเทศลดลงเช่นกัน และหลังจากนี้ตนจะพูดน้อยลง หากพูดเยอะจะกลายเป็นหมอตู่"... ก็นับเป็นเรื่องดี เพียงแต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเข้าใจผิด การพูดมากหรือน้อยไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า พูดในสิ่งที่ต้องพูดหรือไม่มากกว่า บางเรื่องผู้นำประเทศต้องพูดให้ละเอียดเพื่อสื่อสารกับประชาชน และหลายๆ เรื่องก็ไม่ควรพูดเพราะไม่ใช่สาระของปัญหา ...0
ข้อแนะนำของ "ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ" หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำคัญยิ่ง และทุกคนไม่อาจเพิกเฉยได้ นั่นคือ เลิกการซ้อมรับมือโควิด-19 แต่ต้องจริงจังเต็ม 100% เพราะมีการระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก มีผู้ป่วยกว่าหมื่นรายต่อวัน และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ประเทศไทยมีการพบเป็นกลุ่มก้อน ดังจะเห็นได้จากการแพร่กระจายเกิดขึ้นทีเดียว 13 คนในกลุ่มเดียวกัน และกำลังจะมีในกลุ่มสนามมวยที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มาตรการทางสังคม งดทำกิจกรรมในคนหมู่มาก มีความจำเป็นในช่วงที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประชาชนทุกคน ต้องเคร่งครัด ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่จะออกมาในแต่ละวัน เพราะถ้าประชาชนไม่ยอมดูแลตัวเอง ก็ยากที่รัฐบาลจะดูแลได้ ...0
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |