ภาคเหนือยังถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน PM 2.5 พบพื้นที่สีแดงถึง 15 แห่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย สูงสุดอยู่ที่ 337 มคก./ลบ.ม. ขณะที่เชียงใหม่ฝุ่นกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ขึ้นอันดับ 1 เมืองที่คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ใจกลางเมืองช่วงเช้าฝุ่นทะลุ 400 สาเหตุสำคัญคือการเกิดไฟป่า
กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศภาคเหนือ เวลา 15.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2563 ดังนี้ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก.ลบ.ม.) ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 337 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 163 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 189 มคก./ลบ.ม., ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 120 มคก./ลบ.ม., ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 105 มคก./ลบ.ม., ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 168 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 168 มคก./ลบ.ม., ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 100 มคก./ลบ.ม., ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 85 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 86 มคก./ลบ.ม., ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 76 มคก./ลบ.ม.
ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน 95 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 240 มคก./ลบ.ม., ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 112 มคก./ลบ.ม., ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 113 มคก./ลบ.ม., ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ 85 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 251 มคก./ลบ.ม., ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 119 มคก./ลบ.ม., ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ 58 มคก./ลบ.ม., ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย 54 มคก./ลบ.ม., ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 55 มคก./ลบ.ม., ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร 53 มคก./ลบ.ม.
จากข้อมูลดังกล่าว พบว่าคุณภาพอากาศในภาคเหนือมีพื้นที่สีแดง-เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สูงถึง 15 พื้นที่ ได้แก่ เชียงราย 2 พื้นที่ เชียงใหม่ 6 พื้นที่ ลำปาง 1 พื้นที่ ลำพูน 1 พื้นที่ แม่ฮ่องสอน 1 พื้นที่ น่าน 2 พื้นที่ พะเยา 1 พื้นที่ ตาก 1 พื้นที่
เมื่อเช้าวันอาทิตย์ สภาพหมอกควันหนาทึบปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่จนทัศนวิสัยลดลงอย่างมาก เห็นแต่สีขาวขมุกขมัวเป็นบริเวณกว้าง ขณะเดียวกันควันไฟและฝุ่นละอองยังส่งกลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง และทำให้ผู้ที่อยู่ภายนอกอาคารรู้สึกได้จากอาการแสบตา แสบจมูก และแสบคอ แม้จะอยู่ในที่โล่งแจ้งไม่กี่นาทีเท่านั้น
ขณะที่ค่ามลพิษของเว็บไซต์ CMU CCDC หรือศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Climate Change Data Center Chiang Mai University) รายงานสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่เช้านี้เมื่อเวลา 08.00 น. พบว่าที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สวนสาธารณะหนองบวกหาด ใจกลางเมืองเชียงใหม่ วัดค่า PM 2.5 ได้สูงถึง 402 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในอีกหลายจุดอยู่ระหว่าง 300-400 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ตามอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่ก็วิกฤติหนักทุกพื้นที่เช่นเดียวกัน สูงสุดวัดได้ 578 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ รพ.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ รองลงมาที่ รพ.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 518 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ รพ.ฝาง อ.ฝาง วัดได้ 416 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ข้อมูลจากเว็บไซต์ air visua ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ยังครองแชมป์เมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยเช้านี้เมื่อเวลา 8 น. พบค่า PM 2.5 ของตัวเมืองเชียงใหม่พุ่งสูงถึง 274.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 325 US AQI สูงขึ้นจากเมื่อวันเสาร์
จังหวัดเชียงใหม่ได้ปรับมาตรการคุมเข้มเชิงพื้นที่ลงลึกถึงหมู่บ้าน ขอความร่วมมือจัดชุดลาดตระเวน ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ พร้อมหาข่าว ดำเนินมาตรการด้านกฎหมาย โดยนำประชาชนชุดหาของป่าล่าสัตว์ ชรบ.จิตอาสา ทหาร ตำรวจร่วมเอกซเรย์ทุกหมู่บ้านเสี่ยง ตลอดจนจัดชุดดับไฟป่าจากกรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง อปท.จิตอาสา พร้อมขอสนับสนุนอากาศยานดับเพลิงจาก ปภ., ทอ., กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ทบ.สนับสนุนภารกิจ
ลำปาง สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น โดยบนเทือกเขาดอยพระบาท ต.พระบาท อ.เมือง ยังคงมีไฟไหม้ป่าเป็นวันที่ 3 ทำให้ควันไฟลุกลามเข้ามาใกล้แนวสวนป่ารุกขชาติพระบาท หรือบริเวณกิ่วพระเจ้า และปกคลุมหลายเส้นทาง การสัญจรต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นถนนวชิราวุธดำเนิน หรือถนนสายลำปาง-แพร่ โดยเฉพาะช่วงขาขึ้นเขาดอยพระบาท และสามแยกผาลาด-แม่เมาะ รถยนต์ต้องเปิดไฟหน้ารถเพิ่มความสะดวกในการขับขี่และชะลอความเร็ว เนื่องจากแสงแดดไม่สามารถส่องถึงพื้นดิน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |