เมื่อท่องเที่ยวติดเชื้อไวรัส


เพิ่มเพื่อน    

    นับแต่ปีศักราชใหม่ 2563 ได้เริ่มต้นขึ้น ก็ถูกคาดการณ์กันว่าจะยังคงมีปัจจัยลบและโจทย์หินหลายอย่าง ที่ภาคธุรกิจต้องเตรียมตัวรับมือกันให้ดี เพราะหากคิดว่าปีที่ผ่านมาหืดจับแล้ว ปีนี้น่าจะต้องพยายามกันให้มากกว่าเดิม แต่ตอนนั้นยังไม่มีสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มต้นจากประเทศจีน แน่นอนว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะตลาดจีนยังเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ควรเดินทางไปไหน และหลายประเทศก็เลือกจะปิดประเทศ ปิดพรมแดน ไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไป ไม่ว่าจะด้วยวีซ่าเยี่ยมเยือน หรือวีซ่านักท่องเที่ยวก็ตาม ทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงัก
    กลับมาที่การท่องเที่ยวในเมืองไทย ผู้เขียนได้มีโอกาสมาเยือนเมืองพัทยา ซึ่งนับว่าเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติ พบว่ายามค่ำคืนค่อนข้างเงียบ มีท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา แม้ว่าสถานบันเทิงต่างๆ จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ บางร้านมีเจลล้างมือคอยบริการลูกค้า โดยจากการสอบถามไปยังร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม ร้านนวด และร้านค้าบางแห่งก็ได้คำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้เข้าใช้บริการหรือลูกค้าลดลงค่อนข้างมาก บางรายบอกว่าตั้งแต่ทำงานที่พัทยามาไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แม้ว่าก่อนหน้าเมืองพัทยาจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก่อนบ้างแล้วก็ตาม  แต่หลังจากเริ่มมีโควิด-19 นักท่องเที่ยวก็ค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่านอกเหนือจากสุขภาพของคนเราที่ต้องคอยระวังแล้ว ไวรัสก็กำลังเกาะกินเศรษฐกิจหลายๆ ประเทศให้อ่อนแอลงเช่นเดียวกัน
    นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวถึงผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า นับเป็นวิกฤติอีกครั้งของผู้ประกอบการโรงแรมไทย แม้ว่าจะเคยผ่านสถานการณ์เช่นนี้มาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของซาร์ส เมอร์ส หรืออีโบลา ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมก็สามารถผ่านมาได้ทุกครั้ง แต่โควิด-19 ถือเป็นความท้าทายใหม่ เพราะไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวไทยเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายไปในหลายประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีเป้าหมายมายังประเทศไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต้นปีน้อยลง
    สมาคมฯ เร่งดำเนินการคือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ โดยมีการพูดคุยกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการฟื้นความเชื่อมั่นกับกลุ่มนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวเหมือนภาวะปกติอีกครั้ง โดยทุกฝ่ายเห็นว่าควรมีการผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศก่อน เพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่หายไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้หล่อเลี้ยงผู้ประกอบการและประชาชนในท้องถิ่น
    ขณะนี้ได้เริ่มมีมาตรการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานทยอยออกมาบ้างแล้ว อาทิ มาตรการช่วยเหลือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในส่วนของการขยายเวลาชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว การหักค่าใช้จ่ายจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศได้ 2 เท่า การหักค่าใช้จ่ายปรับปรุงอาคารถาวร เครื่องตกแต่ง/เฟอร์นิเจอร์ สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมได้ 1.5 เท่า
    พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออก ที่เป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจไทย คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของไทยปีนี้จะหายไปราว 2.78 แสนล้านบาท  จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในกรุงเทพฯ จะลดลงประมาณ 3 ล้านคน ภูเก็ตและเชียงใหม่จะลดลงกว่า 1 ล้านคน โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ จะได้รับผลกระทบเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนด้านการส่งออก คาดว่าจะหดตัว 1.9% โดยผลกระทบต่อการส่งออกคาดว่าจะสั้นกว่าผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
    การแพร่ระบาดไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศจีนแล้ว  แต่ได้ลามไปประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อื่นๆ ด้วย  ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด  ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ซึ่งหากใช้เวลา 6 เดือนเต็ม มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตเพียง 1.5% ภาพการลงทุนของเอกชนในปีนี้จึงไม่สดใสนัก และมีแนวโน้มจะชะลอเพิ่มเติม.

รุ่งนภา สารพิน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"