นายกฯยันรัฐบาลทุ่มสรรพกำลังสู้โควิด-19 พร้อมเปิดรพ.ศูนย์เฉพาะหากเข้าระดับ3 วอนไม่ต้องกักตุนอะไรมาก


เพิ่มเพื่อน    

15 มี.ค.63 -พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า การมาประชุมในวันนี้เพราะนายกฯมีความกังวล ว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร จึงมานั่งไล่ตรวจสอบกันในทุกหน่วยงานตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไปแล้วว่าทำไปได้แค่ไหนอย่างไร และปัญหาอยู่ตรงไหน รวมทั้งได้ทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่ทำลงไปรวมถึงหน้ากากอนามัย​ วันนี้ตนเองสั่งให้ไปรวบรวมเกี่ยวกับเรื่องของหน้ากากอนามัยว่าในส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นมีประเทศใดบ้าง​ กำลังตรวจสอบยอดที่เข้ามาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อดูว่ายอดที่นำเข้ามากับยอดที่ผลิตในประเทศรวมแล้วมีจำนวนเท่าไหร่ มีพอเพียงหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้มีการไปเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการผลิตตามสายผลิตของโรงงานต่างๆให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการที่รัฐสนับสนุนและส่งเสริม​ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง  อีกทั้งได้มีการหารือกับประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบโดยเฉพาะการประสานกับทางจีน เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน นอกจากนี้ เรากำลังเร่งพัฒนาหน้ากากอนามัยทางเลือก ซึ่งสามารถใช้กับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ไปใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยง เรื่องเหล่านี้ประชาชนจะต้องเกิดความเข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่าในที่ประชุมได้มีการพูดคุย ถึงการเตรียมมาตรการรองรับหากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำอะไร เตรียมการในส่วนใดบ้าง  ฝ่ายความมั่นคงต้องไปพิจารณาว่าจะต้องใช้กฎหมายใดเพื่อเพิ่มเติมเป็นพิเศษ การประกาศนั้นง่ายอยู่แล้ว​ แต่สิ่งสำคัญเราต้องมาดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะต้องทำอย่างไร ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ และเรื่องสุขภาพล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญทั้งสิ้น ยอมรับว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อนเยอะ จึงอยากขอร้องว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องไปกักตุนอะไรนักหนา ผมคิดว่าอย่าไปกลัวถึงขนาดนั้นเลย วันนี้เรามีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมา ทั้งในเรื่องการติดตามตัว การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆกำลังพิจารณาดูว่าจะบังคับใช้กับทุกคนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็ติดในเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล จะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า วันนี้เราต้องแยกการปฏิบัติในส่วนของคนไทย และในส่วนของชาวต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นมาตรการที่เสนอมาโดยคณะแพทย์ อย่าลืมว่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่หมอ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหาร เราก็ต้องฟังหมอเป็นหลัก ซึ่งวันนี้หมอที่มาร่วมประชุมไม่ใช่หมอเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข แต่มีหมอจากภายนอกเข้ามา​ ซึ่งมีหมออาวุโส ผู้เชี่ยวชาญ เพราะประเทศไทยมีโรคระบาดเกิดขึ้นหลายโรคแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยกันทั้งหมด เว้นแต่บางคนที่ยังเข้ามาไม่ได้​ เพราะบางครั้งยังพูดไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะต้องพูดตรงกับรัฐบาลแล้วถึงจะให้เข้ามาร่วมทำงาน เพียงแต่เราต้องฟังเหตุและผลด้วยกัน ช่วงนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน ตนเองให้ความสำคัญกับทุกคน วันนี้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศเราก็มีมาตรการดูแลทั้งนักศึกษาทุนเอเอฟเอส และแรงงาน เพราะทุกคนก็ต้องการกลับบ้าน เราต้องมาดูถึงมาตรการการคัดกรอง ทั้งเรื่องของสถานที่ อย่างที่ศูนย์สัตหีบเราก็ยังมีการใช้อยู่ ไม่ได้สั่งปิดหรือเปิด เมื่อมีคนเข้ามาและจำเป็นต้องเข้าไปใช้ก็ต้องใช้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า   สำหรับเรื่องโรงพยาบาลในอนาคตตนเองได้ให้แนวทางไปว่าควรจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลที่เปิดเป็นศูนย์เฉพาะกิจในการรักษาพยาบาลโรคไวรัสโคโรนา ถ้าสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งขณะนี้มีสถานที่แล้วเป็นโรงพยาบาลที่สร้างใหม่​ แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน มีจำนวนเตียงประมาณ 100 เตียง จะใช้เป็นโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะกิจสำหรับโรคโควิด-19โดยเฉพาะ ถือเป็นมาตรการรองรับในอนาคตในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆก็ให้มีการเสนอขึ้นมาซึ่งรัฐบาลพร้อมทุ่มสรรพกำลังกำลังในตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลสนับสนุนทุกเรื่องที่เป็นความต้องการของหน่วยงานภาครัฐจากมติของคณะกรรมการโรคระบาดแห่งชาติ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"