เจ้าของร้านขายมือถือแจ้งความจับช่างซ่อมขโมยโทรศัพท์กว่า 20 เครื่อง พบก่อคดีฉ้อโกงเพียบ


เพิ่มเพื่อน    

15 มี.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์ในจังหวัดขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Jane Thamrongwarachai” ที่ได้มีการโพสต์ภาพโจรพ่อแม่ลูกขโมยโทรศัพท์มือถือของร้านจำหน่ายโทรศัพท์บนห้างสรรพสินค้าในเมืองขอนแก่นไปหลายเครื่อง พร้อมระบุข้อความว่า "พบเห็นบุคคลในภาพหรือวีดีโอ ช่วยแจ้งเบาะแสกับตำรวจด่วนบุคคลอันตราย ชายคนนี้ฉ้อโกง ลักทรัพย์ หนีคดี ผู้เสียหายรวม 7 ราย แจ้งความคดีไว้ที่ สภ.จังหวัดขอนแก่น เป็นที่เรียบร้อยแล้วมีลูก 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 คน ผู้หญิงคนโตอายุ 12 ขวบ คนเล็ก 11 เดือนลูกชายอายุ 8-9 ขวบ ภรรยา 1 คน และแม่ยาย ตอนนี้ก่อคดีไว้ที่จังหวัดขอนแก่น หลังจากที่หนีคดีมาจากพัทยา เป็นครอบครัวคนใต้ แจ้งเบาะแส โทร.084-479-6979 ช่วยแชร์ ช่วยโพสต์ บอกต่อ เผื่อช่วยเหลือเพื่อนๆคนอื่นอาจตกเป็นเหยื่อ"

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อต่อมาคือ นางจินตนา ธำรงวราชัย อายุ 42 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายและรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นผู้โพสต์กรณีดังกล่าว โดยร้านตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

นางจินตนา กล่าวว่าเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ร้านได้เปิดรับสมัครช่างซ่อมโทรศัพท์ โดยมีราชิต อุนทริจันทร์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มาขอสมัครงานและโชว์ทักษะการซ่อมโทรศัพท์ซึ่งก็สามารถซ่อมได้เป็นอย่างดี จึงรับเข้าทำงาน ซึ่งตลอดในช่วงที่นายราชิตทำงานนั้น มีความผิดปกติหลายอย่าง เริ่มต้นจากกล้องวงจรปิดของร้านที่จะเปิดเอาไว้ 24 ชม. พบว่าบางวันกล้องหันหน้าไปทางอื่น บางวันปลั๊กถูกถอด บางวันเลาท์เตอร์อินเตอร์เน็ตถูกปิดสวิชต์ ซึ่งสอบถามก็เข้าใจว่าเน็ตอาจจะหลุด หรือพนักงานเตะปลั๊กแล้วลืมเสียบ

"ต่อมาก็พบว่ามีลูกค้ามาสอบถามที่ร้านว่าซ่อมโทรศัพท์ซ่อมเสร็จหรือยัง จึงสอบถามลูกค้าไปก็ทราบว่านายราชิตทำตัวเป็นเจ้าของร้านหลอกลูกค้าว่าจะนำโทรศัพท์ส่งศูนย์ฯซ่อม เมื่อสอบถามไปที่ศูนย์ฯก็พบว่าไม่มีการนำโทรศัพท์ของลูกค้าไปซ่อม จึงสอบถามไปยังนายราชิตก็โกหกว่าเอาออกมาแล้วอยู่กับตัวเองกำลังนำกลับไปที่ร้าน แต่ก็จะพูดบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยว่าต้องซ่อมตรงนั้นตรงนี้บ้างโดยได้นำกลับไปซ่อมต่อที่บ้านบ้าง และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นายราชิตได้หนีไปพร้อมกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของร้านที่มีราคาสูง พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือของลูกค้าที่นำมาซ่อมที่ร้านรวมกว่า 20 เครื่อง"

นางจินตนา กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาตนเองมาจับได้ว่านายราชิตนำโทรศัพท์ลูกค้าไปขายให้กับร้านที่ตนเองรู้จัก โดยนายราชิตลงมือก่อเหตุเป็นทีมร่วมกับภรรยาและลูก โดยทั้งพ่อ แม่ ลูกได้เอาโทรศัพท์ไปตระเวนขายตามร้านต่างๆ นอกจากนี้ยังหลอกพนักงานที่ร้าน 3 คนขอใช้ชื่อเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน ทั้งยังคงขอยืมเงินพนักงานที่ร้านอีก 5,000 บาท แล้วหลบหนีไป จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี

"หลังจากแจ้งความเสร็จก็ได้โพสต์เรื่องราวแจ้งเตือนร้านอื่นๆ และตามหาเบาะแสของคนร้าย โดยมีผู้เสียหายจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูอยู่ใน จ.นราธิวาส โดยภรรยาของนายราชิต เป็นข้าราชการครูระดับ 8 ซึ่งได้ฉ้อโกงเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจ.นราธิวาสไปรวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เพื่อนครูด้วยกันต้องตามชดใช้หนี้แทน และมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกว่า 50 รายที่ สภ.เมืองนราธิวาส อีกทั้งภรรยานายราชิตยังคงได้หลบหนีและมาก่อเหตุต่อที่ จ.ขอนแก่นในครั้งนี้ ซึ่งอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดตามดำเนินการจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ก่อนที่จะไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆอีก โดยความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตนเองไปสอบปากคำเพิ่มเติมในวันอังคารที่จะถึงนี้ที่ สภ.เมืองขอนแก่นแล้ว"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"