นับแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์โควิด-19 ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก หลายๆ ประเทศ มียอดผู้ติดเชื้อ เสียชีวิต ตัวเลขไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้ายลงทุกนาที ประเทศไทยได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกัน แม้ตัวเลขที่ทางการออกมายืนยัน ผู้ป่วยทะลุ 80 ราย เสียชีวิต 1 ราย ตัวเลขขยับเข้าใกล้ 100 ราย และขอภาวนาให้ตัวเลข หยุดลงเพียงเท่านี้ ไม่มีคนติดเชื้อ คนต้องมาเสียชีวิตเพิ่มไปมากกว่านี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ นักกีฬา นักแสดงชื่อดัง เซเลบ บุคคลมีชื่อเสียงในสังคม ตลอดจนประชาชนทั่วไป ชาวต่างประเทศ ติดเชื้อโควิด-19 โรคนี้พร้อมที่จะเข้ามาเยือนทุกคนโดยไม่ได้ทันตั้งตัว
ผลกระทบเศรษฐกิจ การส่งออก นำเข้า การท่องเที่ยว การคมนาคมขนส่ง ธุรกิจอาหาร บันเทิง กีฬา หยุดชะงักงัน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะซึมยาว มาเจอ ไวรัสโควิด-19 ซ้ำเติมลงไปอีก ไทยได้รับผลกระทบอันหนักหนาสาหัส เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เป็นมหาวิกฤตการณ์อย่างแท้จริง และยังไม่รู้ว่ ไวรัสร้ายจะคลี่คลายไป การฟื้นฟู สร้างความเชื่อมั่นต้องใช้ระยะเวลาอีกนานเท่าใด เศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาดีดังเดิม
ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อในไทยที่มีการเปิดเผยออกมาขยับขึ้นสูงทุกวัน แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ส่งแถลงการณ์ ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา แต่คงไม่อาจสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ออกมารายวัน สถานการณ์เลวร้ายเข้าสู่ระดับ 3 บางพื้นที่ ประชาชนเริ่มกว้านซื้อเวชภัณฑ์ ยาสามัญประจำบ้าน น้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง ตัดเย็บหน้ากากอนามัยใช้เอง คนไทยตื่นตัว เฝ้าระวัง ป้องกัน และคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด สนใจไวรัสโควิด-19 ที่เป็นเหมือนภัยร้าย พร้อมคืบคลานเข้ามาถึงตัวเองและคนใกล้ชิดได้ทั้งนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ ในแง่ความมุ่งมั่นหวังดี ช่วยเหลือให้ประเทศชาติ ประชาชนพ้นภัย เพียงแต่ในขั้นตอนการปฏิบัติ การสั่งการบางครั้งที่ขยับปรับตัวช้า สถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนทุกชั่วโมง ทุกวัน ทำให้ประชาชนคนที่เฝ้ารอ ติดตาม อึดอัดบ่นออกมาดังๆ และโทษไปถึงรัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่ได้ดั่งใจ
ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน มีคนฉวยจังหวะความทุกข์ร้อนผู้อื่น กักตุน ค้าขาย ปัญหาระหว่างหน่วยงานที่ไม่ลงตัว นำมาสู่ปัญหาตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรมการค้าภายในกับสมาคมร้านขายยา ที่กำลังเป็นประเด็นเรื่องการติดต่อ ประสานงานหน้ากากอนามัย ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐเริ่มไม่เชื่อมั่นในกระบวนการจัดการ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) โดยเหตุผลที่ขอลาออก คือขอแสดงความรับผิดชอบที่บริหารจัดการศูนย์ EOC ไม่ดี จนมีกรณีผีน้อยหลุดออกไปจากการคัดกรอง
สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังวางใจไม่ได้ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กำลังสร้างผลกระทบในวงกว้าง ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ปัญหาการชุมนุมเคลื่อนไหว นักศึกษาแฟลชม็อบ ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ ปัญหาการเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเองแบ่งก๊กแบ่งเหล่า แย่งชิงอำนาจ ล่าสุดปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โควิด-19 เพิ่มเข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่รัฐบาลต้องรับมือแก้ไขเพิ่มเข้ามาอีก
ท่ามกลางกระแสความนิยมรัฐบาลประยุทธ์ตกต่ำลงเรื่อยๆ ปัญหาเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไขในทิศทางที่ดีขึ้น ยังมาเจอปัญหาไวรัสโควิด-19 ซ้ำเติมอีก เป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ
พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ได้ขยับปรับตัวรับมือกับโรคร้ายแรงของมนุษยชาติ เต็มไปด้วยความล่าช้า มึนงง สับสน เสียงติติงในทางลบออกมาอย่างต่อเนื่อง การรับมือโควิด-19 ครั้งนี้ ร้อยทั้งร้อยอยากให้จบและผ่านพ้นไปโดยเร็ว ข้อเสนอต่างๆ ที่ออกมา ไม่มีพรรค ไม่มีสีเสื้อ ไม่มีการเมือง ทุกข้อเสนอ แนะนำ ล้วนเต็มไปด้วยความประสงค์ดี สิ่งไหนหากเป็นประโยชน์ หากนำไปปรับใช้ได้ คนที่ส่งข้อเสนอแนะไม่ได้ต้องการสิ่งใดตอบแทน
-ศูนย์ปฏิบัติการที่รับมือโควิด-19 ควรมีเพียงศูนย์เดียว นายกฯ ใช้อำนาจสั่งการตั้งผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการที่มีอำนาจเต็มเบ็ดเสร็จ ระดมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในศูนย์ มหาดไทย สาธารณสุข พาณิชย์ คมนาคม ต่างประเทศ กฤษฎีกา ฯลฯ เอาปลัดหรือราชการหัวหน้าส่วนเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ ตรงไหนมีปัญหา ติดขัดข้อกฎหมาย ระเบียบอะไร แก้ทันที ภายใต้การตัดสินใจแบบ one single one command การให้ข่าวให้มีผู้บัญชาการเพียงคนเดียว ป้องกันการพูดคนละที สร้างความสับสนกับประชาชน
-นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีอำนาจ ช่องทางที่สามารถทำได้ในการ ออกพระราชกำหนด ซึ่งสามารถออกมาควบคุม จัดการสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาโควิดได้ทันที เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์
-ปัญหาหน้ากากอนามัย ที่มีกระแสข่าวมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีบางคน อาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมกักตุนหน้ากากอนามัย โดยทำกันเป็นขบวนการ ในทางสืบสวน สอบสวน ทำอย่างตรงไปตรงมา ใครเกี่ยวข้อง มีเอี่ยว จัดการอย่างเด็ดขาด ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อสังคม กระทบกระเทือนความรู้สึกผู้คน หากินบนความทุกข์ร้อนประชาชน ไม่ต่างอะไรจากอาชญากร
-หน้ากากอนามัยขาดแคลน ไม่เพียงพอ ยอดผลิต ยอดที่ต้องส่งไปตามหน่วยงานต่างๆ ต้องจัดลำดับให้ชัด กลุ่มแรก แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วย รองลงมา ญาติผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย จัดอันดับกลุ่มที่สมควรได้รับ
-หน้ากากขาดแคลน ยังมีวัสดุอื่นทดแทนได้หรือไม่ มีบุคลากรทางการแพทย์เสนอว่า ผ้าเทฟลอน หากนำมาตัดเย็บทำเป็นหน้ากาก คุณสมบัติแทบไม่ต่างอะไรจากหน้ากาก N95
-โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในวันนี้ที่มีข้อจำกัด รัฐบาลหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรประสานไปยังโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ให้เปลี่ยนไลน์การผลิต ช่วยจัดหาวัตถุดิบ อุปกรณ์ เปลี่ยนมาผลิตหน้ากากอนามัยแทน นอกจากนี้ ในพื้นที่ห่างไกลก็สอนให้ประชาชนที่ไม่เจ็บป่วย ยังไม่ใช่พื้นที่เสียง รวมกลุ่มเรียนรู้การทำหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าที่มีคุณภาพ คุณสมบัติทัดเทียมกับหน้ากากอนามัย เพื่อให้สามารถป้องกันตน จากการผลิตของตัวเอง รวมไปถึงการให้ความรู้ผ่านสื่อทุกช่องทาง ป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่ม
-ในส่วนของการควบคุม คนไทย ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็ควรให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ประสานไปยังโรงแรมที่มีความพร้อม เป็นสถานที่เฝ้าระวัง พักพิง ควบคุม ดูแล น่าจะดีกว่าปล่อยให้คนเหล่านั้นกลับไปกักตัวกันเอง
ท่ามกลางวิกฤติ ปัญหาอันหนักหน่วง ไม่เพียงรัฐบาลประยุทธ์ต้องเผชิญเพียงลำพัง คนไทยก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ในวิกฤติย่อมมีโอกาส พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล หากบริหารจัดการไม่ดี คงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย จากวิกฤติศรัทธาที่รัฐบาลและนายกฯ ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก ผลกระทบสุดท้ายส่งผลไปถึงเสถียรภาพรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยามสถานการณ์ที่ยากลำบาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นอีกครั้งที่จะพิสูจน์ทั้งฝีมือ ปัญหา และภาวะผู้นำ ในการแก้ปัญหา หากพลิกจากร้ายให้กลายเป็นดี ไม่เพียงวิกฤติไวรัสโควิด-19 จะได้รับการคลี่คลาย เรื่องอื่นๆ ก็จะส่งสัญญาณดีขึ้นตามไปด้วย
คนที่ถือธงนำพาประเทศ ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์จะใช้สติ ปัญญา และความกล้าหาญ นำพาประเทศและประชาชนไปทิศทางใด ครั้งหนึ่งเข้ามาหยุดสถานการณ์ความสูญเสียของคนในชาติ ยืนบนขาความเสี่ยง กบฏกับผู้กอบกู้ และเหตุการณ์นี้ก็จะเป็นอีกบทพิสูจน์อันท้าทายสติ ปัญญา ภาวะผู้นำ ยามเกิดวิกฤติในบ้านเมือง.
ทีมข่าวการเมือง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |