วันนี้ผมอยากคุยกับพวกคุณโดยตรง เพื่ออธิบายว่าเราอยู่ในจุดไหน เรากำลังจะเจอกับอะไร

      เวลานี้ประชาชนทั่วโลกต้องเผชิญหน้าสถานการณ์ไวรัส COVID-19 พวกเราทุกฝ่ายรู้ดีว่าสถานการณ์ดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่พวกเราต้องตระหนัก แต่ต้องไม่ตระหนก และเราทุกฝ่ายต้องเรียนรู้ว่าเราจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ประชาชนทั้งโลก รวมทั้งประเทศไทยเคยผ่านโรคซาร์สมาแล้ว ดังนั้นเราต้องเชื่อว่า เราจะผ่าน COVID-19 ไปด้วยกัน หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อเตือนประชาชนให้เข้าใจความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปิดบัง ในขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ควรจะนำเสนอเรื่องราวที่เป็นจริงเท่านั้น ไม่ควรกุข่าวร้ายที่เกินจริงมาทำให้ประชาชนเกิดความตระหนกและเกลียดชังรัฐบาล ด้วยความหวังว่าจะทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล จนทำให้รัฐบาลไม่อาจจะอยู่ได้ต่อไป ในสถานการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง แต่หากเราติดตามข่าวใหม่ๆ ที่มีการรายงานอย่างต่อเนื่อง เราก็จะพบว่าสถานการณ์ในประเทศจีนที่เป็นต้นตอของโรคนั้นกำลังดีขึ้น ความรุนแรงลดลง และหากติดตามสถานการณ์ของประเทศไทย แม้ว่าจะมีจำนวนคนที่ติดเพิ่มขึ้น แต่คนที่หายแล้ว และกลับบ้านได้แล้วมีจำนวนมาก มีเสียชีวิต 1 ราย และที่ยังต้องรับการรักษาก็มีอาการหนักที่น่าเป็นห่วงเพียงรายเดียวเท่านั้น

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ในประเทศจีนมีความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อต่อสู้กับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับประเทศไทยเรา องค์การอนามัยโลก สหรัฐอเมริกา และนักท่องเที่ยวหลายสัญชาติต่างก็ออกปากชมกันว่าประเทศไทยมีการจัดการที่ดีอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก เราจึงมีคนที่หายเป็นจำนวนมาก และมีคนตายเพียง 1 คนเท่านั้น แสดงว่าประเทศไทยตอบโต้การระบาดของโรค COVID-19 ได้อย่างเหมาะสมและทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ 2 ของสถานการณ์ หมายความว่าเรายังรู้ได้ว่าผู้ป่วยแต่ละรายติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้จากที่ใด ซึ่งแต่ละรายไม่ได้ติดมาจากต้นตอของการแพร่ระบาดภายในประเทศ แต่เป็นการติดมาจากต่างประเทศ หรือการสัมผัสกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นแดนเสี่ยง แม้ว่าการแจ้งเตือนของเราจะมีการยกระดับการเตือนเป็นระดับ 3 คือ การแจ้งเตือนไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศต่างๆ ที่เป็นแดนเสี่ยง มีการกวดขันชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย และมีการขอร้องให้คนไทยที่กลับมาจากต่างแดนให้กักตัวเองอยู่ในบ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้รับเชื้อไวรัส COVID-19 มาจากต่างประเทศ แต่ต้องยืนยันว่าสถานการณ์ของโรคไวรัส COVID-19 ของประเทศไทยนั้นยังอยู่ระดับ 2

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในเวลานี้คือ (1) ท่าทีของฝ่ายค้านที่พยายามนำเสนอเรื่องราวที่ทำให้ประชาชนมองว่ารัฐบาลจัดการเรื่องการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ได้ไม่ดีพอ พยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าสถานการณ์เวลานี้อยู่ในสภาพที่แย่มาก ทำให้ประชาชนตระหนกและตำหนิรัฐบาลว่าจัดการได้แย่มาก ซึ่งแย้งกับความคิดเห็นของประชาคมโลก (2) ยังมีพวกเกรียนคีย์บอร์ดที่สร้าง Fake news เกี่ยวกับคนเจ็บ คนตาย การติดเชื้อที่ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลจนไม่มีความสุข (3) การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่ดูเหมือนต่างคนต่างทำ ยังขาดการบูรณาการ ทำให้มีความขัดแย้ง (4) การประชาสัมพันธ์ของรัฐในการจะเล่าสถานการณ์ให้ประชาชนเข้าใจ และมั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นสถานการณ์ครั้งนี้ไปได้ ยังไม่ดีพอ และ (5) ยังมีประชาชนบางคนที่กลับมาจากต่างประเทศขาดความรับผิดชอบ ไม่กักตัวเอง 14 วันตามคำแนะนำของรัฐบาล ยังตระเวนไปที่นั่นที่นี่ สร้างปัญหาให้กับเจ้าของสถานที่ ต้องปิดทำการ ต้องมีการทำความสะอาดสถานที่ พนักงานต้องหยุดทำงาน ต้องไปรับการตรวจร่างกายเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 (6) เรายังจัดการกับเรื่องหน้ากากอนามัยได้ไม่ดีพอ ทำให้ประชาชนวิตกกังวลมาก และฝ่ายค้านก็ฉวยโอกาสที่จะใช้เรื่องการจัดการหน้ากากอนามัยที่ไม่มีประสิทธิภาพล้มรัฐบาล หากแม้นเราสามารถแก้ไขสิ่งที่บกพร่องดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ เราก็จะสามารถผ่านเหตุการณ์โรคระบาดครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างงดงาม

รัฐบาลได้ยกระดับการจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ มีการทบทวนวิธีการใหม่ในการจัดการกับผีน้อยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลี จัดการกับคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศ รวมทั้งคนต่างชาติที่เดินทางมาจากแดนเสี่ยง การจัดการของไทยเวลานี้เป็นการจัดการเชิงรุกมากขึ้น เรื่องหน้ากากก็กำลังหาทางแก้ไข ทั้งการห้ามส่งออก ประกาศให้เป็นสินค้าควบคุม จัดการกับพวกที่กักตุนหน้ากาก และคนที่ประกาศขายออนไลน์เกินราคา มีความพยายามอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าสำหรับคนที่ไม่มีอาการ แต่ต้องการป้องกันตนเองนั้น พวกเขาสามารถใช้หน้ากากผ้าที่ทำขึ้นมาเองและซักได้แทนการใช้หน้ากากอนามัย และมีหน่วยอาสาสมัครจำนวนมากที่มาช่วยกันผลิตหน้ากากผ้าสำหรับประชาชนที่ไม่มีอาการป่วย แต่ต้องการป้องกันตัวเอง ถ้าหากประชาชนทุกคน ทั้งที่ป่วยและไม่ป่วย ต่างก็ต้องการใช้หน้ากากอนามัยที่ต้องใช้แล้วทิ้ง เราคงไม่มีทางที่จะผลิตหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนได้

ตอนนี้แทนที่เราจะต้องหาสถานที่สำหรับกักกันผู้ที่ต้องกักกันตัวเองเพื่อการเฝ้าระวัง 14 วัน เราใช้เทคโนโลยีสำหรับการติดตามตัวเข้ามาเป็นตัวช่วย และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปเยี่ยมพวกเขาที่บ้านทุกวัน จนกว่าจะพ้นระยะเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีชาวบ้านบางกลุ่มที่อาจจะต่อต้านการใช้พื้นที่ในชุมชนของตนเป็นที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากแดนเสียง วิธีดังกล่าวนี้ก็น่าจะลดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับเจ้าของพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องทำความเข้าใจ ให้ประชาชนเข้าใจว่าคนที่เดินทางกลับมาจากแดนเสี่ยงและต้องกักตัว 14 วันนั้น ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพียงแต่พวกเขาต้องเก็บตัว ไม่คิดต่อกับใครเป็นเวลา 14 วัน ที่เป็นระยะฟักตัวของไวรัส ดังนั้นเจ้าของพื้นที่ไม่ควรแสดงอาการรังเกียจพวกเขา และให้ทุกคนตระหนักว่าหมอและพนักงานสาธารณสุขได้มีความพยายามอย่างยิ่งในการจะรักษาผู้ที่ติดเชื้อจนเกิดความมั่นใจว่าพวกเขาหายแล้ว จึงให้พวกเขากลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปรกติต่อไป

 พวกเรากำลังเดินทางมาด้วยกันด้วยดี เรากำลังจะผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราไม่ควรมีความขัดแย้งกัน ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลไม่ควรขัดแย้งกัน ข้าราชการที่ต้องทำงานร่วมกันอย่ามีความขัดแย้งกัน รัฐบาลจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ มีความตระหนักที่ไม่ตระหนก และไม่มีความชิงชังรัฐบาล ประชาชนก็ต้องเสพข่าวอย่างคนที่รู้เท่าทันจุดยืนของผู้เสนอข่าวในระบบนิเวศทางการเมืองของประเทศไทย อีกไม่นานสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส COVID-19 คงสงบลง พวกเราคนไทยต้องช่วยกันประคับประคองความร่วมมือกันทุกฝ่าย ให้กำลังใจกัน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตของกันและกัน อย่าปลุกเร้าความกลัวและความกังวล แม้ว่าความวิตกกังวลในยามที่มีโรคระบาดจะเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ แต่ความหวาดกลัวที่เกิดจาก Fake news เป็นสิ่งที่อันตรายกว่าไวรัส COVID-19 มากนัก มาเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสม แล้วมาผ่านพ้นสถานการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยความรักและสามัคคีของเราที่เป็นคนไทยด้วยกันดีกว่านะคะ.