14 มี.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 09.30 น. ที่พรรคก้าวไกล ฝั่งธนบุรี ส.ส. อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ได้ทยอยลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลอย่างคึกคัก โดยอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำทีมมาลงสมัครอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ยังมีนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เดินทางมาสมัครด้วย หลังจากมีข่าวว่าอาจจะย้ายไปสังกัดอื่น
นายคารม ให้เหตุผลว่าตนได้ตัดสินใจจนถึงนาทีสุดท้ายด้วยหลังพูดคุยกับนายพิธา ยืนยันว่าการที่ออกจากกรุ๊ป ไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ตอนนั้นรู้สึกไม่สบายใจในส่วนของโครงสร้าง โดยเฉพาะในเรื่องของภาคอีสาน แต่ขณะนี้ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนจึงได้ตัดสินใจมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้
นายคารม ยืนยันว่าไม่ใช่งูเห่าฝากเลี้ยงอย่างแน่นอน แต่อยากเห็นสมาชิกทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน การออกมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำเพื่อต่อรองแต่ต้องการให้พรรคปรับโครงสร้างให้เดินต่อไปข้างหน้า การแสดงออกในเชิงโต้แย้งหรือเห็นต่างก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจกับนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. แล้วว่าพรรคเราไม่มีเงินการทำงานด้วยกันต้องอยู่กันด้วยจิตใจที่ผูกพันกัน ตนเป็นนักการเมืองมา 23 ปี ตั้งแต่อยู่พรรคพลังธรรม เป็นลูกชาวนา การได้เป็นส.ส.เป็นสิ่งที่ภูมิใจสูงสุด ที่ผ่านมายึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่มีใครสามารถมาใช้เงินซื้อได้"
"วันนี้ถ้าผมเป็นคนที่ไม่รู้จักบุญคุณคน ผมไม่กลับมาแน่นอน ถ้าหมดสิ้นบุญคุณกับบุคคลและพรรค ผมไปแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจครั้งสุดท้าย และขอบคุณทุกพรรคที่ชวนกัน คนที่ไปก็ไม่ใช่งูเห่า เพราะเป็นเรื่องของพรรคถูกยุบ ทุกคนจึงมีสิทธิที่จะทบทวนจุดยืนได้ ผมไม่เคยตำหนิใครผ่านสื่อสาธารณะ สิ่งที่เสียใจคือไม่เคยให้ข่าวเรื่องของการออกจากกลุ่มไลน์ส.ส. การที่ออกจากกลุ่มไลน์เพราะไม่สบายใจ แต่ข้อมูลกลับปรากฎในสื่อ" นายคารม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ติดหนี้บุญคุณใคร นายคารม ยอมรับว่าที่มาอยู่พรรคอนาคตใหม่เพราะนายปิยบุตร แสงกนกกุล แม้จะไม่สนิทกันมาก่อน แต่เมื่อลงพื้นที่หาเสียงด้วยกันพบว่านายปิยบุตร ทุ่มเทมาก รวมถึงบุญคุณของพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตนได้เป็นส.ส.เพราะพรรค นอกจากนี้พอได้พูดคุยกับนายพิธา ถึงเรื่องการวางนโยบายพรรคที่จะให้ความสำคัญกับภาคอีสาน จะต้องมีทั้งโครงสร้างบุคคล และเนื้อหาเปรียบเทียบกับค่ายทหาร อยากให้ใครทำอะไรต้องบอก ใครจะเป็นผบ.พัน ใครจะเป็นพลทหารต้องบอกกล่าวกันซึ่งเมื่อพูดคุยกันนายพิธา ก็เข้าใจ ถือว่านายพิธา ก็ทำให้ตนกลับมา
"ครั้งนี้ยอมรับว่าเกือบไป แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเปลี่ยนจุดยืน และไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะถ้าเป็นเรื่องเงินคงไปตั้งแต่ 10 คนแรกแล้ว แรงกระแทกก็คงไม่มาอยู่กับผม เท่าที่ทราบมี 2 คน คือ นายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ย้ายสังกัดไปไปอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสมัคร ป้องวงศ์ ส.ส.สมุทรสาคร พี่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น โดยไปก่อนผมโดยไม่เป็นข่าวด้วย ซึ่งผมเคารพในการตัดสินใจของพวกเขา"นายคารม กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |