14 มี.ค.63 - นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้

กับดักและหลุมพรางที่ระบอบเผด็จการวางไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี 60

เห็นตัวแทนนักเรียนนิสิต นักศึกษา เดินขบวนเรียกร้อง และแถลงจุดยืนเมื่อวาน

1. ให้รัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาโรคระบาด โควิด 19

2. ให้รัฐบาล แก้รัฐธรรมนูญเผด็จการคสช.ปี 60 ทั้งหมวดการแก้ไข หรือร่างใหม่ทั้งฉบับ

3.ให้รัฐบาลเคารพสิทธิ เสรีภาพ ไม่เพียงแต่ของนักศึกษา แต่ให้เคารพสิทธิ เสรีภาพของประชาชนด้วย

ต้องขอยกย่อง ชื่นชมว่าครอบคลุมรอบด้านหนักแน่น แหลมคม พวกเขาคือความหวัง คืออนาคต คือแสงสว่างด้วยปัญญา ส่องสว่างให้แก่ประเทศไทยที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด ภายใต้ระบอบเผด็จการโบราณที่ประกอบด้วยนายทุนผูกขาด ขุนศึกที่กระหายอำนาจ ศักดินา อำมาตย์ ชนชั้นปกครอง มายาวนานหลายปี

ในสถาวะสงคราม2 ระบอบ ประชาธิปไตยกับ เผด็จการ ที่ฝ่ายเผด็จการ กำลังเพลี่ยงพล้ำ พวกเขาเสมือนหนึ่งถอยร่น และทำทียอมรับข้อเสนอของเหล่านักศึกษา หากแต่เหล่าเผด็จการได้วางแผน วางกับดัก ขุดหลุมพรางไว้ทุกอย่าง อย่างรอบด้าน เพื่อยื้อเวลา ลดแรงกระแทก ผ่อนหนักเป็นเบาไว้แล้ว สุดท้ายพวกเขาจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเชิงโครงสร้าง ไม่คืนสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคภราดรภาพและประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้ประชาชน อย่างแน่นอน เช่น การให้ สว. แต่งตั้งมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี การให้ สว. แต่งตั้งเลือก องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรมบางองค์กร เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสังหาร ทำลายล้างฝ่ายประชาธิปไตย และสุดท้ายก็สามารถยื้อเวลาให้รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้อยู่ไปจนครบเทอม และเพิ่มอีก วาระตามอายุของ สว. 5 ปี บนความหายนะ ของประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง บนความอ่อนล้าของนักเรียนนักศึกษา และมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย

การไม่ตกหลุมพราง การข้ามกับดักที่ถูกวางไว้ในรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสชปี 60 จึงเป็นหน้าที่ที่ เหล่านักเรียน นิสิตนักศึกษา และมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยที่จะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันขับไล่ จนกว่าจะได้มาซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทมัสเจฟเฟอร์สัน กล่าวไว้

“เมื่อความอยุติธรรมกลายเป็นกฎหมาย การต่อต้านจึงเป็นหน้าที่”