'แก้วสรร' ออกบทความด่วน ฝ่าวิกฤติไวรัส : COVID-19  VS  รัฐบาลส้นตีน?


เพิ่มเพื่อน    

นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "COVID -19  VS  รัฐบาลส้นตีน ?" ผ่าน www.thaipost.net เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2563 โดยมีเนื้อหาดังนี้
               
“ในเมื่อทุกคนไม่ได้มีแนวคิดว่า ขณะนี้เรามีวิกฤตของประเทศ ถ้าข้าราชการทุกหน่วยที่ต้องมีหน้าที่ตามกฎหมาย ต่างคนต่างตั้งคอกไม่คิดจับมือประสานงานไม่สามัคคี      ต่างหน่วยต่างเกี่ยงให้ สาธารณะสุขต้องรับผิดชอบ และเผอิญคนที่ สธ.ส่งมาไม่มีบุคลิกความเป็นผู้นำ เหตุการณ์เลยร้ายแรงกว่าที่ท่านทราบกัน... (ปัญหาทั้งหมดเกิดจาก...รัฐบาลส้นตีน) ”    โพสต์เฟสบุ๊กบุตรสาว ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ลาออกเนื่องจาก ปัญหาโครงสร้างการจัดการวิกฤต COVID-19   

ถาม    ปัญหา COVID-19 ในไทย จะบานปลายเป็นวิกฤตระยะที่ ๓ หรือไม่
ตอบ    ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยาเขาบอกว่างานนี้ไม่มีประเทศใดหนีพ้น   ปัญหาอยู่ที่ไทยเราจะสามารถยืดเวลาได้นานที่สุดเท่าใด เพื่อใช้เวลานี้เตรียมพร้อมรับมือระยะที่ ๓ นี้ให้ได้ดีที่สุดเท่านั้น

ถาม    ทุกวันนี้เราพร้อมแล้วหรือยัง ที่จะเผชิญ COVID ระยะ ๓
ตอบ    งานนี้เป็นวิกฤต ที่ต้องรับมือด้วยวิธีคิดวิธีทำแบบยุทธศาสตร์การรบ จะทำกันแบบราชการปรกติไม่ได้    การผลุนผลันลาออกของท่าน ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  คือตัวอย่างของความผิดพลาดนี้   ถ้ารัฐบาลไม่สำเหนียกในปัญหานี้แล้วเร่งปรับเปลี่ยน วางแผนการจัดการไว้ล่วงหน้าเสียก่อนที่จะเข้าสู่ระยะที่ ๓ ผมว่าบ้านเราชิบหายแน่ๆ  

ถาม    ขอคำอธิบายเรื่อง “การบริหารจัดการในเชิงยุทธศาสตร์” หน่อยครับ
ตอบ    ข้อแรกเราต้องมี “แผนปฏิบัติการ” ก่อนว่า   ในทุก “เขตควบคุมโรค” เราจะต้องมีปฏิบัติการใดบ้าง ทั้งการตรวจค้นหาผู้ป่วย,การส่งต่อผู้ป่วย,การค้นหาและควบคุมผู้ที่สัมผัสเกี่ยวข้องผู้ป่วย,การจำกัดกิจกรรมและการเดินทางของผู้คน,การประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลมวลชน,การรักษาความสงบ,การควบคุมสินค้าบริโภค,การจัดการชุมชนทั้งชุมชนทั่วไปเช่นคอนโดหรือหมู่บ้านต่างๆ รวมทั้งชุมชนพิเศษเช่นเรือนจำหรือค่ายทหารฯ   ทั้งหมดนี้ต้องมีแผนแม่บทจากส่วนกลางก่อน  แล้วจึงนำมาปรับเป็นแผนจริงในแต่ละเขตอีกชั้นหนึ่ง

ถาม    แล้วโรงพยาบาลต่างๆ ต้องมี “แผนดูแลผู้ป่วย”อย่างไร
ตอบ    แผนนี้เป็นแผนปฏิบัติการชนิดหนึ่งที่ต้องแยกออกมา ให้ฝ่ายสาธารณะสุขเขาดูแลจัดการโดยเฉพาะว่า   โรงพยาบาลไหนจะเป็นข่ายดูแลเบื้องต้น หรือเป็นข่ายรักษาพยาบาล    ในทั้งสองข่ายต้องมีปฏิบัติการใดบ้าง   ซึ่งก็ต้องมีแผนแม่บทจากส่วนกลางก่อน แล้วให้แต่ละโรงพยาบาลนำมาปรับเป็นแผนเฉพาะอีกชั้นหนึ่ง

ถาม    แล้วจะมีเงิน,บุคลากร,อำนาจและพ้สดุ มาใช้ตามแผนปฏิบัติการต่างๆได้อย่างไร
ตอบ    นี่เป็น “แผนบริหาร”   ที่ทุกแผนปฏิบัติการเฉพาะจะต้องกำหนดแผนออกมา    ตามกรอบของแผนแม่บทที่กำหนดไว้  จนปรากฏแผนเฉพาะที่สมบูรณ์ว่า จะใช้คน เงินทอง กฎหมาย และพัสดุ เท่าใด อย่างไร และเมื่อใด

ถาม    บุคลากรจะมาจากไหน   
ตอบ    ตรงนี้จะยึดติดกับกรอบราชการไม่ได้   ทุกแผนปฏิบัติการต้องเปิดกว้างข้ามหน่วยงาน และรวมถึงอาสาสมัครต่างๆด้วย    ได้มาแล้วก็เอาเขามาประกอบเป็นทีมอยู่ภายใต้สายงานสั่งการใหม่ของโครงสร้างบริหารที่กำหนดขึ้นใหม่ ในแต่ละพื้นที่รบ   โครงสร้างนี้ต้องเป็นโครงสร้างที่มีอิสระจัดการปัญหาตามแผนเฉพาะต่างๆได้ด้วยตนเอง   กระทรวง กรม กอง และศาลากลาง  ถือเป็นส่วนวางแผนและกำกับและสนับสนุนทุกอย่างต่อการรบในแต่ละแผนเฉพาะเท่านั้น

ตัวอย่างความสับสนพ่ายแพ้ศึก  ไม่มีแผนปฏิบัติการ ไม่มีการประกอบกำลัง ไม่มีสายงานสั่งการที่เป็นเอกภาพที่เกิดเช่นที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ไม่ใช่เรื่อง “รัฐบาลส้นตีน”  แต่เป็นเรื่องโครงสร้างการทำงานแบบส้นตีนมากกว่า

ถาม    แผนเหล่านี้ทุกวันนี้ต้องมีแล้วใช่หรือไม่
ตอบ    ถูกต้องครับ  ๒๐ ปีที่แล้ว ตอนพวกผมไปจัดการแข่งขันที่ศูนย์กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ธรรมศาสตร์รังสิต  เราจ้างผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาที่จัดโอลิมปิกแอตแลนต้า มาวาง “แผนพัฒนาแผน” ตั้งแต่เริ่มออกแบบก่อสร้างยิมเนเซี่ยมและสนามแข่งขันต่างๆเลย  ว่าในแต่ละอาคารต้องมีปฏิบัติการใดบ้าง แล้วต้องมีพื้นที่ในแบบแปลนรองรับอย่างไรบ้าง  แล้วจึงเริ่มให้รับเหมาออกแบบ-ก่อสร้าง

จากนั้นเราก็ลงมือพัฒนาแผนจัดการแข่งขันทั้งหมด เป็นแผนแม่บทก่อน ทั้งเทคนิคกีฬา,วัสดุอุปกรณ์,วิศวะกรรม,ความปลอดภัย,การแพทย์,ผู้ชมและการต้อนรับ,พิธีการ,ความสะอาด,การถ่ายทอดฯ แล้วปรับมาเป็นแผนเฉพาะพร้อมขั้นตอนการพัฒนาในแต่ละสนาม   จนเราพร้อมขึ้นเรื่อยๆและสมบูรณ์ต่อวันจริงในที่สุด  พอถึงวันนั้นเราก็จัดการแข่งขันได้สบายมาก ทุกสนามเขาจัดการตามแผนได้เองหมด   ทุกบุคลากร ทั้งตำรวจ เทศบาล ช่างจากผู้รับเหมา ขนส่ง ตัวแทนฝ่ายเทคนิค อาสาสมัครทั้งอาจารย์และนักศึกษา   ต่างก็ประกอบกำลังกันเป็นการบริหารอิสระ  รบชนะได้ในทุกสนามแข่งขัน และทั้งศูนย์กีฬาเลย    

สำหรับการรับมือ วิกฤต COVID ระยะที่สามนี้   มาถึงวันนี้ผมหวังว่าเราต้องใช้เวลา ๒ เดือนเศษที่ผ่านมาพัฒนาแผนจนพร้อมต่อการรบแล้วในทุกเขตควบคุม และทุกโรงพยาบาล   ตามแผนผังนี้


ถาม    ผมเป็นห่วงเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน
ตอบ    ตัวอย่างเรื่องหน้ากากขาดแคลนนั้นชัดเจนและน่าอายมาก ว่าเราไม่มีแผนปฏิบัติการและแผนบริหารเลย    ส่วนปัญหาสินค้าขาดแคลนเมื่อเข้าสู่ระยะที่สามนั้น  ป่านนี้ก็ควรมีแผนปฏิบัติการและแผนบริหารพร้อมแล้วว่า จะควบคุมปริมาณและการกระจายสินค้าจำเป็นใดบ้าง และคุมอย่างไร  ซึ่งผมเห็นว่าโครงข่าย 7-11,       TESCO, และ MACRO นี่จะต้องเอามาใช้เป็นหลักเลยทีเดียว 

ถาม    งานอย่างนี้ต้องมีอำนาจที่เพียงพอด้วยนะครับ
ตอบ    “แผนกฎหมาย” เป็นแผนบริหารประเภทหนึ่ง ป่านนี้ต้องร่างเตรียมไว้หมดแล้ว ทั้งพระราชกำหนด กฎเกณฑ์รายละเอียดต่างๆ  ทั้งหมดนี้ร่างไม่ยากเลย เพราะเรารู้หมดแล้วว่ามีแผนปฏิบัติการและแผนบริหารใดบ้าง และแต่ละแผนต้องการอำนาจอย่างใด

ถาม    อาจารย์เชื่อมั่นหรือไม่ว่า ทุกวันนี้เราพร้อมเผชิญวิกฤตแล้ว
ตอบ    ผมไม่รู้ข้อมูลภายในอะไรเลยจึงตอบคุณไม่ได้     ผมได้แต่เชื่อเท่านั้นว่าถ้าไม่มีแผนรับมือที่คิดและทำเป็นยุทธศาสตร์เช่นที่กล่าวมา เราจะเอามันไม่อยู่แน่ๆ และที่ไม่สำคัญเท่าใดนักสำหรับผม ก็คือ..ส้นตีนจะเต็มหน้ารัฐบาลแน่นอน.   
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"