นายกสมาคมอุรเวชช์ฯฉะกลไกรัฐตามหลังไวรัสระบาดปลุกนักรบเสื้อกาวน์ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ที่ขาดความเชี่ยวชาญ


เพิ่มเพื่อน    

 

13มี.ค.63-นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  ออกแถลงการณ์เรื่อง  "แด่นักรบในเสื้อกาวน์ ที่จะต้องรับมือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 อาการรุนแรง" มีเนื้อหาดังนี้

 

ตามที่ได้มีคนไทยป่วยจากการติดเชื้อ COVID19 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยบางรายที่น่าจะติดเชื้อจากการระบาดภายในประเทศเราเอง ซึ่งหมายถึงการเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ของโรคระยะที่ 3 สมาคมอุรเวชช์ ได้เล็งเห็นแนวโน้มนี้และได้มีการเตรียมความพร้อมในเชิงวิชาหารตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งตลอดสัปดาห์นี้ สมาคมฯ ได้พยายามผลักดันการเตรียมความพร้อมในเชิงการบริหารจัดการผ่านทางหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งแม้จะได้รับการตอบสนองที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีพอที่จะรับมือกับวิกฤตสุขภาพสำคัญของประเทศอีกครั้ง

ในสถานการณ์ของโรคระยะที่ 3 นั้น โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทุกแห่ง จะต้องคันหาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังบางชนิดอยู่เดิม ซึ่งเมื่อเริ่มติดเชื้อ COVID-19 แล้ว มีโอกาสโรครุนแรงสูง เพื่อรับตัวไว้ในโรงพยาบาล สำหรับการรักษาให้หายขาด ลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด และที่สำคัญคือช่วยตัดวงจรการระบาดต่อไป ซึ่งการที่จะถึงพร้อมในหน้าที่เหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้ จัดหาการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่รวดเร็วและแพร่หลาย จัดเตรียมยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่มีประสิทธิกาพ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอ

ในฐานะของสมาคมวิชาชีพแพทย์ ที่ต้องมีส่วนทำหน้ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยตรง เป็นความรับผิดชอบของสมาคมฯ ที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งจะต้องนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของแต่ละโรงพยาบาล พร้อมกันนี้จึงเป็นที่มาของการเผยแพร่ "แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ CoVD-19 ที่มีอาการรุนแรง" ในส่วนของการส่งผ่านข้อกังวลและข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการต่อหน่วยงานสูงสุดที่รับผิดชอบ สมาคมฯ ได้ทำหน้ที่อย่างดีที่สุดแล้ว

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า กลไกของรัฐที่จะตอบสนองต่อภาวะวิกฤตของประเทศมักจะตามหลังสถานการณ์จริงอย่างน้อยหนึ่งก้าวเสมอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณของพวกเราเหล่าวิชาชีพแพทย์และวิชาชีพอื่นที่เกี่ยวข้อง จะยอมจำนนให้กับศัตรูตัวจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าโดยง่าย และพวกเราก็จะไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้รับผิดชอบระดับสูง ที่ขาดความเชี่ยวชาญและเข้าใจบริบทการทำงานของพวกเราอย่างถ่องแท้ ได้เวลาแล้ว ที่พวกเราต้องเตรียมทำศึกแม้จะไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพและแม่ทัพที่เด็ดขาดเข้มแข็ง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยยึดเหนี่ยวอุดมการณ์ของพวกเราไว้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ก่อกำเนิดการแพทย์แผนใหม่ในประเทศสยาม "ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง"

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"