ยุทธการใหม่ 'นำไทยรอด' แน่


เพิ่มเพื่อน    

 

      เอาล่ะ.....

                มั่นใจได้ ๙๙.๙๙% นายกฯ ลุงตู่ของเรา "เอาอยู่"!

                ประเทศ "รอด" จาก "โควิด-๑๙" ระบาดภายในแน่นอน

                เพราะนายกฯ จัดรูป "กระบวนทัพ" และปรับแผนยุทธการใหม่หมด 

                จาก "แบรับ" สถานการณ์ตามเรื่อง-ตามราวมานาน

                เป็น "ตั้งรุก" เข้ม ๑๐๐% บ้างละ

                ต้องเตรียมการ เพราะจากผีน้อยเกาหลีเป็นอุทาหรณ์ ประเมินสถานการณ์โควิดระบาดในยุโรป-สหรัฐฯ แล้ว มีความเป็นไปได้สูงมาก

                จะมีการถอยร่นเอาตัวรอดจากยุโรป-สหรัฐฯ เข้ามาหลบในที่ปลอดภัย คือประเทศไทย "ค่อนข้างแน่" ในอีกไม่ช้า

                พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่ประธานเสนาธิการร่วม (ผมพูดเองนะ)

                ระดมกำลังทัพทุกหัวเมืองในส่วน "กรมการปกครอง" ติดอาวุธเป็น "ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน"

                เข้าเสริมทัพสาธารณสุข อันเป็นทัพหลักในศึกโควิด ของ "ขุนพลหนู"

                "ขุนพลศักดิ์สยาม" รับมอบหมาย ให้นำหน่วยยานพาหนะทางบกเข้าร่วมแผนปฏิบัติการ

                ทางด้านต่างประเทศ "ขุนพลดอน" มอบให้อัศวิน "ชาตรี อรรจนานันท์" อธิบดีกรมการกงสุล คุมหน้าด่านเข้า-ออกประเทศ

                ศูนย์ควบคุมเดิมที่กระจัดกระจาย "ปิดหมด"

                เข้าสู่แผนปฏิบัติการใหม่!

                ภายใต้กองบัญชาการใหญ่ "ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-๑๙" ทำเนียบรัฐบาล

                "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นั่งหัวโต๊ะ ในฐานะ

                "ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่ผู้เดียว"!

                คณะเสนาธิการทัพหลวงชุดใหม่นี้ นอกจากพลเอกอนุพงษ์แล้ว

                ประกอบด้วย พลเอกประวิตร นายอนุทิน นายดอน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และ ฯลฯ

                ส่วนรัฐมนตรีจุรินทร์......

                คุมทัพหลัง เป็นกำลังหลัก คอยลำเลียงยุทธปัจจัย หน้ากาก เจล ส่งทัพหน้า ก็อย่าให้ขาดตกบกพร่อง

                นี่.........

                การรับศึกโควิดล่าสุด ณ ๑๑ มี.ค.๖๓ ของรัฐบาล คร่าวๆ เป็นอย่างนี้

                ประเด็นหลัก ที่ต้องเข้าใจกันให้ชัด คือ

                ๑.ประเทศไทย ยังอยู่ในระยะ ๒ "โควิด arrival" คือ คนเดินทางมาจากนอกประเทศนำเข้ามาภายใน

                การที่รัฐบาลปรับเปลี่ยนจากหย่อนเป็นตึงเข้ม เพราะประเมินสถานการณ์การระบาดในต่างประเทศแล้ว

                โดยเฉพาะย่านยุโรป-สหรัฐฯ นับวันจะเลวร้าย

                ในฐานะที่ประเทศไทย "สาธารณสุข" ของเราเยี่ยมเป็นที่ระบือไกล บล็อกการระบาดภายใน พูดได้ว่า ๑๐๐% ก็ไม่ผิด

                ตรงนี้.....

                ทำให้ไทยเป็น "แหล่งหลบโรคระบาด" ที่ทั้งคนไทยในยุโรป-สหรัฐฯ และทั้งคนต่างชาติ เมื่อถึงจุดยุโรป-สหรัฐฯ "สุดต้าน" การระบาด

                ที่ไหนจะปลอดภัยที่สุด เท่าที่ประเทศไทยล่ะ!

                เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดเข้าสู่ระยะที่ ๓ "โควิด domestic" คือ ระบาด "ติดกันเอง" ภายใน

                รัฐบาลจึงใช้ "มาตรการเข้ม" เป็นการ "กันไว้ดีกว่าตามแก้" แต่ต้นมือ

                ๒.มาตรการเข้มจากวันนี้ไป ให้ทุกคนเข้าใจให้ตรงกันว่า

                -ไทยไม่ได้ปิดประเทศ

                -ไทยไม่ห้ามคนเข้าประเทศ

                แต่การ "เข้า-ออก" ประเทศ ต่อจากนี้ ต้องมีเงื่อนไขบางประการในการเข้าและออก

                นี่....

                ทั้ง ๒ ข้อนี้ "ต้องย้ำ" เพราะพวกเราเสพข่าวสารกันแบบฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียด

                ยิ่งประเภท "อ่านไม่ครบบรรทัด" จะตกเป็นเหยื่อเฟกนิวส์ จากพวก "เกลียดประเทศตัวเอง"

                ที่คอยบิดเบือนข่าวสารทิ่มแทง ใส่ร้ายบ้านเมืองตัวเองทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย  หวังให้ฉิบหาย ล่มจม

                แล้วก็โทษรัฐบาล ด่านายกฯ!

                ปฏิบัติการใหม่ที่ผมสรุป อาจมองไม่เห็นภาพ พอดีได้อ่านที่ "นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา" โพสต์เฟซ

                ท่านสรุปชัดเจนมาก ขออนุญาตนำเผยแพร่ ดังนี้

                ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha

                สรุปจากที่ มท.1 แถลงหลังการประชุมศูนย์โควิดรัฐบาล จาก ผู้สื่อข่าว thai PBS

                1.ยกเลิก visa on arrival 18 ประเทศ มีผล ณ สถานทูตไทย ทันที...วันนี้

                2.ยกเลิก free visa โดยเฉพาะ อิตาลี เกาหลี ฮ่องกง จนกว่าสถานการณ์จะปกติ มีผลทันที

                3.จากมาตรการข้างต้น แม้จะบินอ้อมไปในประเทศอื่น ก็ไม่ให้เข้าประเทศไทย

                4.หากเข้ามาไทยได้ ไม่ว่าวิธีใด จะกักตัวที่ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ถ้าไม่ยินยอมให้ส่งกลับประเทศ ไม่ให้เข้าเมือง

                5.คนไทยในต่างประเทศ รอประกาศ กต. ต่อไปหลังจากนี้

                6.ยกเลิกพื้นที่กักตัวของรัฐ รวมถึงศูนย์สัตหีบ เกรงจะเกิดการติดเชื้อขนาดใหญ่แบบเรือสำราญในญี่ปุ่น

                7.จากนี้ไป เมื่อทุกคนมาถึง สธ.ตรวจสุขภาพ หากมีไข้ไป รพ. // ไม่มีไข้ คมนาคมรับส่งกลับภูมิลำเนา // มท.รับผิดชอบกักตัวที่บ้าน 14 วัน ฝ่าฝืนลงโทษตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่เมื่อวาน

                8.ยกเลิกการกักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ทุกคนจะส่งกลับไปกักตัวที่ภูมิลำเนา แม้จะยังไม่ครบ 14 วัน

                9.คนไทยจากเกาหลีใต้ ที่เข้ามา 23 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน จะถูกตามตัวมากัก 14 วันให้ครบทุกคน

                10.สายการบิน ดำเนินมาตรการ Exit and Entry screening

                ครับ.....

                สำหรับ ๑๘ ประเทศ ๑ เขตเศรษฐกิจ ที่ยกเลิกวีซ่าหน้าด่าน (visa on arrival) ก็มี

                ๑.บัลแกเรีย ๒.ภูฏาน ๓.จีน ๔.ไซปรัส ๕.เอธิโอเปีย

                ๖.ฟิจิ ๗.จอร์เจีย ๘.อินเดีย ๙.คาซัคสถาน ๑๐.มอลตา

                ๑๑.เม็กซิโก ๑๒.นาอูรู ๑๓.ปาปัวนิวกินี ๑๔.โรมาเนีย

                ๑๕.รัสเซีย ๑๖.ซาอุดีอาระเบีย ๑๗.ไต้หวัน ๑๘.อุซเบกิสถาน ๑๙.วานูอาตู

                เนี่ย...ไม่ได้หมายความว่า ห้ามคนประเทศเหล่านั้นเดินทางมาไทย แต่หมายถึงว่า ถ้าจะมา

                ต้องไปขอวีซ่า โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใหม่ เช่นต้องมีใบตรวจโรค กักตัวก่อน ๑๔ วัน เป็นต้น

                ทีนี้มาถึงประเด็นคนไทยด้วยกัน แม้รู้ต่อจากนี้ ไม่ต้องเข้าศูนย์กักตัว ๑๔ วัน ส่งไปกักตัว "บ้านใคร-บ้านมัน" เลย

                ชาวบ้านผวา.....

                หน้าไหนมันจะกักตัวเอง ไม่ออกไปกินหมูกระทะ ไม่ไปร้องโอเกะถ่ายรูปลงเฟซล่ะ เดี๋ยวก็ได้แพร่เชื้อเป็นไฟลามทุ่งหรอก?

                ไม่ต้องผวาหรอก ทุกหมู่บ้าน-ตำบล ที่มีคนต้องกักตัว ๑๔ วัน ตามแผนยุทธการใหม่ จะมี "ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน" คอยติดตาม-เฝ้าดูตลอด

                ใครล่ะ "ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน"?         

                ก็คนกรมการปกครอง ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ, กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน, อบต., อสม, สาธารณสุขจังหวัด ในแต่ละพื้นที่

                แอบออกไปก่อนครบ ๑๔ วัน ใครจะรู้?

                ไม่ต้องห่วง ยุคนี้ เป็นยุค ไอทีนะจ๊ะ กองบัญชาการใหญ่ วางแผนไว้หมดแล้ว

                นายกฯ "ผู้บัญชาการใหญ่" สั่งนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เจ้ากระทรวงดิจิทัล           

                ทำแอปพลิเคชัน ติดตามตัว เหมือนนักโทษติดกำไล EM หนีเมื่อไหร่ รู้หมด และรู้ทันที

                ยุคนี้ ทุกคนมีมือถือ ลงจากเครื่องบินปุ๊บ สนามบินจะทำแอปให้เลย เหมือนแอปเป๋าตังนั่นแหละ

                พอถึงด่าน ตม. ทาง ตม.จะใส่ข้อมูลเข้าไปอีก ทีนี้แหละ แอปจะเป็นตาวิเศษ ขยับออกนอกเขตกักตัวปุ๊บ

                มันจะส่งสัญญาณไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รู้ปั๊บ!

                "คุก" ละนะ ทีนี้.......

                จะอ้างสิทธิมนุษยชนให้อองตวนบูดมาช่วย ก็ช่วยไม่ได้ ก็หย่อนยาน หยวนๆ กันจนเป็นนิสัย เจอมาตรการเข้ม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค กันซะบ้างละทีนี้

                กฎหมายจะได้เป็นกฎหมาย บ้านเมืองจะได้เป็นบ้านเมืองซะที!

                แผนปฏิบัติการใหม่ ขอชมเชยครับ!

                การระดมเจ้าหน้าที่รัฐแต่ละภาคส่วนมาร่วมรับรู้ปัญหา ด้านหนึ่ง กระตุ้นให้รู้ด้าน "อำนาจและหน้าที่"

                อีกด้าน เป็นการฝึกเพื่อส่งสัญญาณว่า นับจากนี้ไป มนุษยชาติจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติโลกหลากรูปแบบ

                ฉะนั้น ต้องตื่น ต้องตระหนัก ต้องรับรู้ร่วมกัน ในความเป็น "ประเทศชาติของเรา"

                ต้องไม่มี "เขา" จะมีแต่ "เราทุกคน" เท่านั้น ถ้าต่างคนต่างถือว่าธุระไม่ใช่

                ไทยจะไม่รอด! 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"