ยุโรปดิ้นสกัดแพร่โควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

  หลายชาติยุโรปดิ้นรนสกัดไวรัสโคโรนา สั่งปิดสถานศึกษา ระงับกิจกรรมกีฬา-วัฒนธรรม ขณะอิตาลียังหนัก ติดเชื้อทะลุหมื่นรายแล้ว ยอดดับเกิน 630 ศพ จีนห่วงเชื้อนำเข้าสั่งกักกันทุกคนที่มาถึงปักกิ่ง สหรัฐเพิ่งตรวจเจอโควิด-19 ติดเชื้อเกิน 1,000 ราย นิวยอร์กเรียกกำลังพลเนชั่นแนลการ์ดสนับสนุน

    สำนักข่าวต่างประเทศเผยสถานการณ์คืบหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 ว่าในขณะที่ประเทศในซีกโลกตะวันออกทั้งจีนและเกาหลีใต้มีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ในฝั่งตะวันตกทั้งยุโรปและสหรัฐยังคงมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ที่อิตาลีซึ่งสถานการณ์หนักที่สุด และทำให้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ทั้งประเทศเมื่อวันอังคาร จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 10,149 คนแล้วนับข้อมูลถึงวันอังคาร ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ใน 3 เป็น 631 คน 
    ผลกระทบจากการจำกัดการเดินทางของประชากร 60 ล้านคน ทำให้บรรยากาศตามท้องถนนและเมืองใหญ่ต่างๆ ไม่ต่างจากเมืองร้าง ขณะที่รัฐบาลประกาศจะทุ่มงบประมาณ 25,000 ล้านยูโร (ราว 889,625 ล้านบาท) ต่อสู้กับไวรัส
    กระทรวงสาธารณสุขสเปนประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อในประเทศเกิน 2,000 คนแล้ว เสียชีวิต 47 คน นับเป็นสถานการณ์หนักสุดอันดับ 2 ของยุโรป
    หลายประเทศในยุโรปที่แม้จะยังไม่พบการระบาดใหญ่ในประเทศ แต่ก็ประกาศใช้มาตรการควบคุมเข้มงวด ล่าสุดโปแลนด์และยูเครนสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ออสเตรียซึ่งควบคุมจุดผ่านแดนติดกับอิตาลีแล้วก่อนหน้านี้ ได้สั่งปิดพิพิธภัณฑ์และหยุดการเดินรถไฟไปอิตาลี
     ด้านภาพรวมทั่วโลกจากการรวบรวมของเอเอฟพีและองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ถึงวันพุธพบการติดเชื้อแล้วใน 114 ประเทศและดินแดน ยอดรวมอยู่ที่มากกว่า 118,000 ราย เสียชีวิตอย่างน้อย 4,290 ราย เกือบทั้งหมดอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ รองจากจีนและอิตาลีคืออิหร่าน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 958 คนในวันพุธ ยอดรวมพุ่งเกิน 9,000 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 63 คน ดับรวมเป็น 354 ศพแล้ว เกาหลีใต้มีคนติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน ที่ 242 รายนับข้อมูลเมื่อวันอังคาร ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 7,775 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 6 คน ยอดรวมเป็น 60 ศพ 
     บรูไน, ตุรกี และจาเมกา ยืนยันพบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นครั้งแรก ส่วนปานามามีผู้เสียชีวิตรายแรกของอเมริกากลาง ขณะที่อินโดนีเซียและเบลเยียมมีคนเสียชีวิตรายแรกในประเทศ
     จีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 80,778 ราย เสียชีวิต 3,158 ราย ผู้ติดเชื้อที่หายแล้วมี 61,475 ราย ช่วงหลายวันที่ผ่านมาจีนพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างแดนมากยิ่งขึ้น และทำให้รัฐบาลปักกิ่งประกาศใช้มาตรการกักกันโรคนาน 2 สัปดาห์กับผู้คนทุกสัญชาติที่เดินทางมายังกรุงปักกิ่ง
     สถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับทำให้บริษัทห้างร้านบางแห่งในมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเมืองเอกอู่ฮั่นเป็นศูนย์กลางการระบาดตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินการได้แล้ว รัฐบาลจีนเคยสั่งปิดมณฑลภาคกลางแห่งนี้กักกันโรคประชากรหลายสิบล้านคน
     ที่สหรัฐอเมริกา ข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มเกือบเท่าตัวจาก 550 คนในวันจันทร์ เป็น 1,025 คนเมื่อวันอังคาร ในจำนวนนี้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกันว่า ความสับสนเรื่องชุดตรวจไวรัสและความกังขาถึงความเป็นผู้นำของรัฐบาลทำให้สหรัฐตรวจเจอผู้ติดเชื้อได้ล่าช้า
     ขณะนี้ไวรัสโคโรนาแพร่เชื้อไปถึงแล้วในรัฐทั้งสองฝั่งมหาสมุทรของสหรัฐ วอชิงตันโพสต์รายงานว่ามี 19 มลรัฐที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนที่นิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐ มีคำสั่งเรียกใช้บริการกองกำลังเนชั่นแนลการ์ดมาสนับสนุนการขนส่งอาหารและบังคับใช้มาตรการกำหนดควบคุมพื้นที่รอบเมืองนิวโรเชลล์ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งทำให้รัฐบาลต่างๆ และทางการท้องถิ่นใช้มาตรการจำกัดการชุมนุมหรือการรวมตัวของคนจำนวนมาก ส่งผลให้กิจกรรมกีฬา, การแสดงและวัฒนธรรมหลายงานถูกระงับหรือเลื่อนเพิ่มอีก เช่น การแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษระหว่างอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ซิตีในวันพุธต้องยกเลิกเป็นคู่แรกของพรีเมียร์ลีก เนื่องจากต้องกักกันผู้เล่นที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัส ส่วนฝั่งเอเชีย รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้สั่งยกเลิกงานตรึงกางเขนในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"