ผ่านฉลุยไร้แรงต้าน สภาดูมาของรัสเซียลงมติท่วมท้นเห็นชอบการแก้รัฐธรรมนูญกรุยทางให้วลาดิมีร์ ปูติน ลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกหลังครบวาระในปี 2567 มีโอกาสได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อไปยาวๆ ยันอายุ 83 ปี

ผู้ประท้วงชูป้ายคำว่า "ไม่" ในภาษารัสเซียใกล้กำแพงทำเนียบเครมลินเมื่อคืนวันอังคาร เพื่อคัดค้านการทำให้ข้อจำกัดสมัยการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีปัจจุบันเป็นโมฆะ

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 กล่าวว่า สภาดูมาหรือผู้แทนราษฎรของรัสเซีย ซึ่งมีสมาชิก 450 ที่นั่ง เปิดการพิจารณาวาระที่ 3 ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 383 เสียง โดยไม่มี ส.ส.คนใดคัดค้าน แต่มี ส.ส.งดออกเสียง 43 คน และขาดประชุม 24 คน

    ผู้นำรัสเซียวัย 67 ปี เสนอแผนปฏิรูปการเมืองและยกเครื่องรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนมกราคม แต่เขายืนกรานปฏิเสธว่าไม่ใช่แผนขยายการครองอำนาจต่อไปภายหลังสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 4 ของเขาในปี 2567

    ช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากการนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีแล้ว ปูตินเคยสลับไปเป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไว้ที่ 2 สมัย สมัยละ 6 ปี

    เมื่อวันอังคาร ปูตินสร้างความประหลาดใจด้วยการแถลงต่อที่ประชุมสภาดูมา สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ซึ่งจะเซตซีโรวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ และจะทำให้เขาสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก หากศาลรัฐธรรมนูญลงความเห็นว่าร่างแก้ไขฉบับนี้ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

    หากศาลรัฐธรรมนูญไม่คัดค้านตามที่ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ก็ยังเชื่อเช่นนั้น ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งให้ประชาคมลงคะแนนทั่วประเทศในวันที่ 22 เมษายน เปิดทางให้ปูตินลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก 2 สมัย สมัยละ 6 ปี ถ้าเขาชนะการเลือกตั้งและสุขภาพอำนวย ปูตินจะครองตำแหน่งต่อไปจนถึงปี 2579 เวลานั้นเขาจะอายุ 83 ปี

    อเล็กเซย์ นาวัลนี นักการเมืองฝ่ายค้านและนักวิจารณ์รัฐบาลรัสเซียตัวยง เคยกล่าวไว้ว่า เขาเชื่อว่าปูตินจะพยายามเป็นประธานาธิบดีไปจนตาย

    ปูตินไม่เคยเปิดเผยถึงแผนการในอนาคตของเขาภายหลังครบวาระปัจจุบันในปี 2567 แต่เขาเคยบอกว่าเขาไม่ชอบวิธีปฏิบัติในยุคสหภาพโซเวียตที่ผู้นำครองตำแหน่งไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

    ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านสภาล่างเมื่อวันพุธ จะต้องถูกส่งให้สภาสูงพิจารณาเพื่อลงมติต่อไป ซึ่งคาดว่าคงผ่านฉลุย

    นอกจากการทำให้ข้อจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปัจจุบันเป็นโมฆะแล้วเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่แล้ว ร่างกฎหมายนี้ยังรวมถึงการบัญญัติกฎหมายรับประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและเงินเดือนขั้นต่ำ และการให้สภาดูมามีอำนาจเพิ่มขึ้นในการเสนอชื่อผู้นำรัฐบาล

    ร่างกฎหมายนี้ยังให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีในการปลดผู้พิพากษาศาลสูง และคัดค้านร่างกฎหมายที่ผ่านสภาได้ด้วย.