ความเป็น เผด็จการ นั้น...มันอาจเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว มิใช่น้อย โดยเฉพาะสำหรับโลกทั้งโลกที่ต่างหันมาเป็น ประชาธิปไตยเสรี กันไปเป็นแผงๆ หรือแทบจะหมดทั้งโลก แต่ครั้นเมื่อต้องมาเจอกับโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกๆ กันว่า อาจารย์โกวิท-19 หรือ Covid-19 ซึ่งออกจะน่าเกลียด น่ากลัว ไม่น้อยไปกว่ากัน หรืออาจหนักซะยิ่งกว่า ดูเหมือนว่าความเป็น เผด็จการ มันชักเป็นอะไรที่ ปฏิเสธไม่ได้ ในการนำมาใช้รับมือกับเชื้อโรคที่ว่านี้...
----------------------------------------------------
เรียกว่า...ขนาดฝรั่งอิตาลี ที่สุดแสนเสรีมาโดยตลอด สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องไปลอกแบบ เลียนแบบ เผด็จการรวมศูนย์ อย่างพรรคคอมมิวนิสต์จีน มาใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 กันในระดับทั่วทั้งประเทศ ไปแล้วในทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่การปิดแคว้น ปิดเมือง 14 เมือง ไปก่อนหน้านี้เท่านั้น เห็นว่ายังขยับขยายไปถึงขั้นคิดจะ ปิดประเทศ เอาเลยก็ไม่แน่ ห้ามคนเข้า-คนออก ควบคุม บังคับ ด้วยการขอความร่วมมือ ให้ผู้คนอุดอู้อยู่แต่ในบ้านกันเป็นหลัก อันเคยเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศต้นแบบ แม่แบบ อย่างประเทศจีน ถูกพวกฝรั่งทั้งหลายกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายในประเทศตัวเองเอาเลยถึงขั้นนั้น...
---------------------------------------------------
แต่ทำไงได้...ในเมื่อ สิทธิมนุษยชน หรือ สิทธิแห่งความเป็นมนุษย์ นั้น มันจะมีอยู่จริง ก็ต่อเมื่อมนุษย์นั้นๆ ไม่ได้ล้มตายลงไปซะก่อน มันถึงจะมีโอกาสใช้สิทธิ หรือไม่ใช้สิทธิดังกล่าว ได้อย่างเป็นจริง เป็นจัง แต่ถ้าดันต้อง เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ลงไปซะแล้ว สิทธิที่ว่านี้...คงต้องไปทวงถามกันบนสวรรค์ หรือไม่ก็ในนรก กันแทนที่ ด้วยเหตุนี้...เพื่อให้สิ่งที่ว่านี้ ยังคงมี ยังคงปรากฏ อยู่ภายใน โลกแห่งความเป็นจริง ก็คงต้องหาทางทำให้ มนุษย์ นั้นๆ ไม่ด่วนตายลงไปซะก่อน และ กรรมวิธี ที่จะทำให้มนุษย์ในแต่ละราย หรือในแต่ละสังคม ตายน้อย ตายช้า หรือไม่ต้องตายให้มากมายกว่าที่ควรจะเป็น ก็หนีไม่พ้นต้องหันมา เผด็จการ หันมาควบคุม บังคับ หันมาปิดบ้าน ปิดเมือง ไม่ให้ใครต่อใครออกไปไหน ต่อไหน ได้โดยเสรีเหมือนแต่ก่อน...
------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ความเป็น เผด็จการ นั้น ลดความน่าเกลียด น่ากลัว ลงไปได้มั่ง โดยเฉพาะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับความน่าเกลียด น่ากลัว ของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ อย่าง Covid-19 ที่มันออกจะมีเสรีภาพ มีประชาธิปไตย และมีสิทธิแห่งความเป็นเชื้อโรค ค่อนข้างสูงเอามากๆ จนสามารถแพร่ระบาดเข้าไปเล่นงานมวลมนุษย์รายใดก็ได้ เชื้อชาติใดก็ได้โดยไม่ว่าจะอยู่ในสังคมเผด็จการ สังคมประชาธิปไตย หรือสังคมใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าเป็น เผด็จการ ที่มุ่งจะช่วยเหลือให้มวลมนุษย์ในสังคมนั้นๆ มีโอกาสรอดชีวิต รอดตาย มีโอกาสมีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ซึ่งยังมีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย นอกเหนือไปจากเรื่องระบบเศรษฐกิจ ระบอบการเมือง การปกครอง เผด็จการที่ว่านั้น...ก็น่าจะเป็นอะไรที่ พอรับได้ จัดอยู่ในประเภท เผด็จการโดยธรรม ที่อาจเหนือไปกว่า ประชาธิป...ตาย ทั้งหลาย เอาเลยก็ไม่แน่!!!
---------------------------------------------------------
เพราะ ประชาธิปไตย ที่ออกไปทาง ประชาธิป...ตาย ทั้งหลาย...นับวันมันดูจะไม่ค่อยเห็นถึง คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ เหลือติดปลายนวมอยู่มากมายซักเท่าไหร่ แต่กลับหันไปให้ความสำคัญกับ คุณค่าแห่งความเป็นพ่อค้า นั่นแหละเป็นหลัก จนกลายเป็นประชาธิปไตยของพ่อค้า...โดยพ่อค้า...และเพื่อพ่อค้า จนบรรดาพ่อค้าที่มีจำนวนอยู่แค่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนในสังคม มีอำนาจ อิทธิพล มีทรัพย์สินเงินทอง มากกว่าบรรดามวลมนุษย์ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ร่วมในสังคมรวมกัน และถ้าหากดันเอา ประชาธิปไตยของพ่อค้า มาใช้รับมือกับการบุกรุก แพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่ต้องเห็นแก่เงิน แก่ทอง มากกว่าเห็นแก่ชีวิตของเพื่อนมนุษย์ภายในสังคมเดียวกัน ปล่อยให้ใครใคร่ค้า-ค้า ใครใคร่ขาย-ขาย ได้โดยเสรี โดยไม่คิดจะควบคุม บังคับใดๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่จะมีแต่ ตาย...กับ...ตาย ไปทั่วทั้งสังคม จึงย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
--------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ เผด็จการโดยธรรม อาจเป็นอะไรที่ดูดี ดูเก๋ กว่า ประชาธิป...ตาย ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า โดยเฉพาะภายใต้ฉากสถานการณ์ความเป็นไปของโลก ของ ธรรมชาติ ที่มันสามารถหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง ไปในลักษณะหนึ่ง ลักษณะใด ได้เสมอๆ แน่ล่ะว่า...ถ้าเป็นฉากสถานการณ์ที่บรรดามวลมนุษย์ในสังคมนั้นๆ เต็มไปด้วยมวลมนุษย์ที่มี ธรรม เป็นสรณะ เป็นสิ่งยึดมั่น ยึดถือ ความเป็น เผด็จการ ย่อมไม่ใช่เป็นสิ่งจำเป็นใดๆ อีกต่อไป กระทั่งกฎ ระเบียบ กฎหมายใดๆ ก็แล้วแต่ อาจไม่ได้ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกต่อไปเอาเลยก็ไม่แน่ เพราะด้วย กฎแห่งธรรมชาติ ที่อยู่เหนือขึ้นไปกว่ากฎหมายใดๆ ย่อมส่งผลให้สังคมนั้นๆ สามารถอยู่-เย็น-เป็น-สุข และอยู่กันอย่างเป็น ประชาธิปไตย ไปโดยธรรมชาติ เนื่องจาก ความเห็นแก่ตัว หรือเห็นแก่กลุ่มคน กลุ่มหนึ่ง กลุ่มใด มันย่อมสูญสลายหายไปเพราะ ธรรมะ ในหมู่ผู้คน โดยถ้วนทั่วทุกตัวคนนั่นแล...
--------------------------------------------------------
แต่ถ้าหากเป็นฉากสถานการณ์ที่ผู้คนแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละเหล่า ต่างเต็มไปด้วยความยึดถือ ยึดมั่น อยู่ในผลประโยชน์แห่ง ตัวกู-ของกู ไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือต่างเต็มไปด้วย ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ใคร-ประโยชน์มัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ ตำรวจ ทหาร สื่อมวลชน ฯลฯ ไปยันถึงปุถุชนคนธรรมดาในแต่ละตัว อันนี้...ความเป็นเผด็จการ อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในบางช่วง บางขณะ เช่น ช่วงการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังเห็นๆ กันอยู่ในทุกวันนี้ ประเทศประชาธิปไตยเสรีอย่าง อิตาลี เลยต้องหันมาลอกแบบ เลียนแบบ ประเทศเผด็จการอย่างคุณพี่จีน อย่างมิอาจปฏิเสธ ส่วนประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮานั้น จะออกลูกไหน แบบไหน อันนี้...คงต้องไปถาม เผด็จการละมุนภัณฑ์ กันเอาเองก็แล้วกัน...
---------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก พุทธทาสภิกขุ (อีกครั้ง...และอีกครั้ง)...“ประชาธิปไตย เพื่อลดหรือป้องกันความเห็นแก่ตัว ถ้าเห็นแก่ตัว ก็มีแต่ประชาธิป...ตาย โดยไม่รู้สึกตัว ความไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเป็นของมีได้ยากสำหรับปุถุชนสมัยนี้ ที่เอาแต่บูชาวัตถุ...”.
------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
