(เสื้อสูทที่ไม่ได้หนามาก และโทนสีน้ำเงิน เทา และสีกากี จะช่วยทำให้หนุ่มใหญ่ดูอ่อนกว่าวัยได้)

      ว่าด้วยเรื่องการแต่งกายของผู้สูงอายุให้กับงานสังคมและปาร์ตี้คนหลัก 6 ที่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้แฟชั่นที่เหมาะกับรูปร่าง และสภาพอากาศของบ้านเราที่ปัจจุบัน ทั้งร้อนและมีเรื่องฝุ่นควันพิษอยู่มาก ทำให้การจัดงานหลายครั้ง ต้องเปลี่ยนจากที่โล่งแจ้งเป็นอาคารหรือร้านอาหารแบบปิด แต่ทว่าการแต่งตัวให้ดูดีและสมวัยก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้สำหรับงานเลี้ยงรื่นเริงต่างๆ

(กรกนก ยงสกุล)

      ล่าสุด คุณเล็ก-กรกนก ยงสกุล “โค้ช” และ “ผู้ก่อตั้งสถาบัน RBL Training Academy เพื่อพัฒนาบุคลากรจากภายในสู่ภายนอก 360 องศา ได้ให้คำแนะนำในการแต่งกายให้สมวัยของคนหลัก 5 หลัก 6 ที่ต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์ไว้น่าสนใจ

        คุณเล็ก-กรกนก ให้ข้อมูลว่า “สำหรับการแต่งตัวของคนหลัก 5 หลัก 6 เพื่อไปงานเลี้ยงสังสรรค์นั้น สามารถใช้หลัก 5 คือ 1.ต้องดูรูปร่างของผู้สวมใส่ 2.ดูสถานที่ที่จะไป 3.ดูว่าบรรยากาศงานเป็นอย่างไร 4.ใส่เสื้อผ้าสไตล์ไหน 5.เนื้อผ้าที่เลือกใช้นั้นต้องเป็นอย่างไร ซึ่งหลักดังกล่าวนั้นจะทำให้เราสามารถตีโจทย์เรื่องการแต่งตัวได้ดี เช่น ถ้าผู้สูงวัยเป็นกังวลเรื่องรูปร่าง เป็นต้นว่า อาจจะมีปัญหาเซลลูไลต์ ฉะนั้นก็เลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดรูปและมีสีสันที่ฉูดฉาดมากเกินไป และอาจเลือกเสื้อผ้าโทนสีคาราเมลหรือน้ำตาล ซึ่งเป็นโทนสีสุภาพ เป็นต้น

      ส่วนผู้ชายนั้นไม่ว่าจะมีรูปร่างอย่างไรก็ตาม หลักสำคัญในการเลือกเสื้อผ้า ให้ดูที่ 1.ไหล่ 2.หลัง 3.หน้าอก ดังนั้นชุดสูทช่วยได้เสมอ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นฟูลสูทเพราะมันจะร้อน แนะนำว่าผู้ชายควรเลือกสูทแบบ Half Lined หรือผ้าซับในสูทแบบครึ่งตัว เย็บติดกับสูทแค่ช่วงด้านหน้า ซ้าย และขวา ส่วนด้านหลังจะมีผ้าซับในสูทเย็บติดอยู่เพียงครึ่งบนเท่านั้น เพราะจะใส่แล้วไม่ร้อน และต้องดูว่าสูทของเรามีที่เสริมไหล่หรือไม่เพื่อให้คุณหนุ่มดูสมาร์ทมากยิ่งขึ้น ส่วนโทนสีไม่จำเป็นต้องสีดำเสมอไป เพราะผู้ชายสามารถเลือกใส่สูทสีน้ำเงิน สีเทา หรือสีกากี ก็จะทำให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

(วัยเก๋าไปงานปาร์ตี้รุ่นใหญ่ เลือกเสื้อผ้าสีมงคลอย่าง โทนสีชมพู ฟ้า โอลด์โรส เป็นต้น)

      สำหรับผู้สูงวัยที่ต้องไป “งานปาร์ตี้” ที่จัดในอาคารหรือร้านอาหารแบบปิดนั้น สไตล์การแต่งตัวให้พิจารณาจากธีมของการจัดงาน เช่น หากเจ้าของงานต้องการให้ใส่ชุดสีแดง หากว่าผู้สูงวัยท่านนั้นมีรูปร่างค่อนข้างอวบใหญ่ ก็ควรเลี่ยงการสวมชุดเดรสสีแดง แต่ให้เลือกใส่แอคเซสเซอรีสีแดง เช่น ต่างหู รองเท้า การทาปากสีแดงแทน พูดง่ายๆ ว่าให้ใช้หลักการผสมสีสดใสกับสีพื้นเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงผู้ชายที่ต้องแต่งกายด้วยสีแดงเพื่อไปงานก็เช่นกัน แนะนำว่าให้เลือกเสื้อผ้ากลุ่มสีเบสิกหรือสีพื้น แต่เลือกใส่เนคไทสีแดงแทนก็จะเข้ากับทีมงานได้ดี

      หรือหากต้องไป “งานวันเกิดเพื่อน” ซึ่งหากเจ้าภาพไม่ได้กำหนดธีมสีการแต่งกาย แนะนำว่าให้เลือกสวมใส่ “เสื้อผ้ากลุ่มสีมงคล” เช่น สีชมพู สีฟ้า สีโอลด์โรส สีทอง หรือสีเงิน แม้ว่าทั้งเสื้อผ้าสีทองและสีเงินนั้น ผู้สูงอายุจะใส่ได้ค่อนข้างยาก แต่ก็สามารถเปลี่ยนมาเลือกเครื่องประดับสีทอง หรือสีเงินแทนก็ได้เช่นกัน กระทั่งเลือกเสื้อผ้าสีใส แต่ไม่ใช่โทนสีพาสเทล เพราะจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ และที่ลืมไม่ได้นั้นคือการเลือกเนื้อผ้าที่ถือว่าเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญ ของเสื้อผ้าที่ผู้สูงอายุเลือกสวมใส่ แนะว่าควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ผ้าลินิน และผ้าไหมแบบมันวาว หรือผ้าเครป และผ้ายืด เพราะจะทำให้เวลาที่สวมใส่แล้วร้อน แต่ควรเลือกเนื้อผ้าที่ใส่แล้วทำให้เย็นสบาย เช่น ผ้าฝ้าย (ผ้าคอตตอน) ผ้าโพลีเอสเตอร์ กระทั่งผ้าไหมมัดหมี่ที่ทอด้วยมือ เป็นต้น.