11 มี.ค.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2563 ว่า กระทรวงคมนาคมได้นำบทเรียนการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่ผ่านมา มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา รวมถึงแผนการอำนวยความสะดวกในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยได้มอบนโยบายให้ปรับช่วงดำเนินการเข้มข้น จากเดิมช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. 2563 เป็นวันที่ 9-19 เม.ย. 2563 เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางได้อย่างครอบคลุม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม เตรียมสรุปกรอบการดำเนินการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในวันที่ 24 มี.ค. 2563 จากนั้นจะมีการประชุมหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในวันที่ 31 มี.ค. 2563 เพื่อมาปรับปรุงรายละเอียด ก่อนที่จะแปรแผนการดำเนินการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณายกเลิกค่าธรรมเนียมผ่านทางทางพิเศษ (ทางด่วน) บูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 00.01 น.-วันที่ 17 เม.ย. 2563 เวลา 24.00 น. โดยคาดการณ์ว่าจะมีรถที่ได้รับการยกเว้นค่าผ่านทาง 3.24 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 115.8 ล้านบาท รวมยกเว้นค่าผ่านทางทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา และสาย 9 บางปะอิน-บางพลี, พระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน ของกรมทางหลวง (ทล.) คาดการณ์ว่าจะมีรถที่ได้รับการยกเว้นค่าผ่านทาง 6.3 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 168.3 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะเพิ่มความเข้มข้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน และทางลักผ่าน รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเส้นทางรถไฟ นอกจากนี้ จะต้องประสานกับพื้นที่ เพื่อจัดหาบุคลากรเพิ่มเติม ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ในวันที่ 20 มี.ค. 2563 กระทรวงคมนาคมเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) กับกองทัพอากาศ (ทอ.) ในการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ประกอบการตัดสินใจในการเดินทางให้กับประชาชน
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ไปพิจารณาใช้แผ่นยางหุ้มแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier) หลังผ่านการทดสอบจากสถาบันที่ประเทศเกาหลีใต้แล้วเมื่อช่วงปลาย ก.พ. ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องกลับไปจัดทำแผนรายละเอียดต่างๆ อาทิ เส้นทางบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งว่า จะสามารถนำมาทดลองใช้ได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้หรือไม่ ก่อนกลับมาเสนออีกครั้งในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เพื่อเก็บข้อมูลทางสถิติต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนรองรับการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน เทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. 2563 นั้น กระทรวงคมนาคมได้ประมาณการณ์การให้บริการด้วยรถสาธารณะช่วงการเดินทางรวม 3.03 แสนเที่ยว รองรับผู้โดยสาร 13.43 ล้านคน โดยจะมีการเดินทางในกรุงเทพฯ เที่ยวปกติรวมทั้งหมด 130,656 เที่ยว และเที่ยวเสริม 23,542 เที่ยว รวมบริการ 154,198 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 7,817,793 คน แบ่งเป็น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถโดยสาร (รถเมล์) สาธารณะของเที่ยวปกติ 123,970 เที่ยว เที่ยวเสริม 23,514 เที่ยว รวมบริการ 147,484 เที่ยว จำนวนผู้โดยสารรวม 5,128,002 คน
ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดรถไฟฟ้า เที่ยวปกติ 3,942 เที่ยว ไม่มีเที่ยวเสริม รวมบริการ 3,942 เที่ยว จำนวนผู้โดยสาร 2,155,557 คน ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (รฟฟท.) ได้จัดรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เที่ยวปกติ 1,288 เที่ยว เสริม 28 เที่ยว รวมบริการ 1,316 เที่ยว ผู้โดยสาร 353,234 คน ด้านกรมเจ้าท่า (จท.) ส่วนกลาง ได้จัดเรือโดยสารให้บริการ เที่ยวปกติ 1,456 เที่ยว ไม่มีเที่ยวเสริม รวม 1,456 เที่ยว ผู้โดยสาร 181,000 คน
ทั้งนี้ การเดินทางระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ รวมเที่ยวปกติ 126,427 เที่ยว เที่ยวเสริม 22,675 เที่ยว รวมบริการ 149,102 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 5,618,993 คน แบ่งเป็น บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ได้จัดรถทัวร์ไว้บริการเที่ยวปกติ 73,334 เที่ยว เที่ยวเสริม 22,584 เที่ยว รวมบริการ 95,918 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 1,589,393 คน นอกจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดรถไฟให้บริการเที่ยวปกติ 1,708 เที่ยว เที่ยวเสริม 12 เที่ยว รวมบริการ 1,720 เที่ยว ผู้โดยสาร 818,360 คน
ในส่วนกรมท่าอากาศยาน (ทย.) คาดว่าจะมีเที่ยวบินที่ใช้บริการภายในท่าอากาศยาน 28 แห่งอยู่ในความดูแล คือ เที่ยวปกติ 1,653 เที่ยว ไม่มีเสริม รวมบริการ 1,653 เที่ยว ผู้โดยสาร 196,315 คน ขณะที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. คาดว่าจะมีเที่ยวบินที่ใช้บริการภายใน 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแล คือเที่ยวปกติ 12,954 เที่ยว เสริม 79 เที่ยว รวมบริการ 13,033 เที่ยว ผู้โดยสาร 1,896,637 คน และกรมเจ้าท่า (จท.) ส่วนภูมิภาค ได้จัดเรือโดยสารเที่ยวปกติ 36,778 เที่ยว ไม่มีเสริม รวมบริการ 36,778 เที่ยว ผู้โดยสาร 1,118,288 คน อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าภาพรวมการเดินทางในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 2.2% และระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ ลดลง 9.9% จากปี 2562
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า จากสถิติสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 พบว่า 3 อันดับแรก เกิดจาก 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด 886 ครั้ง หรือ 57.12% 2.คนหรือคนตัดหน้ากระชันชิด 207 ครั้ง หรือ 13.35% และ 3.เมาสุรา194 ครั้ง หรือ 12.51% ส่วนบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ 1.ทางตรง 978 ครั้ง หรือ 63.06% 2.ทางโค้ง 132 ครั้ง 8.51% 3.ทางแยก 126 ครั้ง หรือ 8.12% สำหรับอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 1,551 ครั้ง ลดลง 109 ครั้ง บาดเจ็บ 1,823 คน ลดลง 16 คน เสียชีวิต 258 คน ลดลง 1 คน ส่วนยานพาหนะ ที่เกิดอุบัติเหตุได้แก่ 1.รถจักรยานยนต์ 39.09% 2. รถปิคอัพ 4 ล้อ 26.22% 3.รถนั่งส่วนบุคคล และรถสาธารณะ 24.29%
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |