ผู้จะทำให้บอย 'รู้เท่าถึงการณ์'


เพิ่มเพื่อน    

            ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง "ปิดจ๊อบ" โควิด-๑๙ ที่อู่ฮั่นเรียบร้อยไปแล้ว

                "รัฐมนตรีจุรินทร์" น่าจะถอนหายใจโล่ง

                เพราะนั่นเป็นสัญญาณการใช้หน้ากากของคนจีนจะน้อยลง

                เมื่อน้อยลง ราคาก็จะถูกลง

                การกว้านซื้อและการลักลอบขนหน้ากากในไทยออกไปขายในจีนผ่านเส้นทางน้ำโขง ก็น่าจะลดจำนวนและอัตราเร่งลักลอบลง

                ในไทย ก็น่าจะ "เลิกขาดแคลน" ซะที!

                แต่คงอีกซักระยะจึงจะเห็นผล เพื่อเห็นแก่โจรที่พายเรือให้ "นายกฯ หัวเดียวกระเทียมลีบ" นั่ง

                ก็อยากเสนอวิธีแก้หน้ากากล่องหนให้รัฐมนตรีจุรินทร์นำไปพิจารณา

                ท่านบอกวันก่อน หน้ากากต้นทุนแต่ละวันมี ๑.๒ ล้านชิ้น

                ๗ แสนชิ้น กระจายให้ รพ.ทุกสังกัด ทั้งเอกชนและคลินิกทั่วประเทศ

                ๕ แสนชิ้น ให้กรมการค้าภายในจัดการ ให้ประชาชน ให้ร้านขายยาทั่วประเทศ ให้การบินไทย และกลุ่มเสี่ยง

                เอาล่ะ........

                ตัดจำนวน ๗ แสนชิ้นออกไป สมมุติซะว่า กระจายครบถึงโรงพยาบาลดีอยู่แล้ว

                แต่ตรง ๕ แสนชิ้น/วัน นี่แหละ เป็นช่องให้ "หน้ากากล่องหน" โผล่ไปขายแพงทางออนไลน์ ลักลอบไปขายจีน

                งั้น...เอาอย่างนี้ดีไหม?

                กรมการค้าภายใน ไม่ต้องนำ ๕ แสนชิ้นกระจายตามร้านขายยาผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว

                ในช่วงนี้ ขอความร่วมมือทางเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ นำหน้ากากอนามัย ช่วยไปกระจายตามร้าน  7-11 นับหมื่นแห่งทั่วประเทศให้หน่อย

                ขาย "แผ่นละ ๒.๕๐ บาท" โดยไม่มีเปอร์เซ็นต์หรือค่าอะไรให้ทั้งสิ้น!

                ระบบเซเว่น จะแก้ปัญหา "หาซื้อยาก-โก่งราคา" ให้หายไปทันที

                อีกช่องทางที่จะครอบคลุมทั่วประเทศ เข้าถึงและหาซื้อง่าย-ซื้อสะดวก เช่นกัน

                ท่านรัฐมนตรีจุรินทร์ ไปบอกรัฐมนตรีพลังงาน "คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์"

                ขออาศัยพื้นที่ Cafe Amazon ในทุกปั๊ม ปตท.โออาร์ เป็นจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัย ราคา ๒.๕๐ บาท ไม่บวกอะไรให้ทั้งสิ้นเช่นกัน

                ส่วนจะให้ซื้อได้คนละกี่แผ่น ป้องกันเวียนเทียนไปขายต่อยังไง ก็กำหนดมาตรการให้เซเว่นกับคาเฟ่ อเมซอน เขาปฏิบัติ

                เนี่ย....

                ๒ แห่งนี้ เซเว่น กับ ปตท.โออาร์ "ครบ" จบรอบจักรวาลเลย!

                ใครอยากได้แมสก์เมื่อไหร่ เวลาไหน ที่ไหน ก็แวะไปได้เลย ทั่วประเทศ-ทั่วไทย ๒๔ ชั่วโมง

                ถ้าชาวบ้านยังโวย หาซื้อไม่มี เฉ่งปี๋เจ้าสัวและรัฐมนตรีสนธิรัตน์ได้ทันที!

                ก็อย่าไปมองว่า "เศรษฐีกินรวบ" เพราะนี่เป็นช่องทางตรงตัดตอน "หน้ากากล่องหน" ได้ดีที่สุด

                อีกอย่าง เรื่องหน้ากากนี้ "เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์" มีความมุ่งมั่นช่วยสังคมอยู่แล้ว

                ท่านกำลังเร่งสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยชนิดหามรุ่ง-หามค่ำ เดือนหน้าก็คงสู่ตลาด

                ไม่ได้ผลิตขาย......

                แต่ผลิตแจกจ่ายให้โรงพยาบาล แพทย์-พยาบาล และประชาชนทั้งหมด-ทุกคน ที่จำเป็นต้องใช้ในยามนี้

                ดังนั้น ไหนๆ ก็ไหนๆ

                ให้ 7-11 ขายแมสก์ช่วงนี้เป็นการบริการนำร่อง น่าจะตอบโจทย์ "แมสก์ขาดแคลน-หาซื้อยาก" ในภาวะเร่งด่วนเฉพาะหน้าได้

                นี่ผมหมายถึงแมสก์ผลิตในไทยจาก ๑๑ โรงงานที่กรมการค้าภายในควบคุมในส่วน ๕ แสนชิ้นต่อวัน

                ร้านขายยาทั่วไป ไม่จำเป็นต้องค้อน......

                เพราะมีแมสก์จากส่วนอื่นและส่วนนำเข้าซึ่งนอกเหนือราคาควบคุม นำมาจำหน่ายได้ตามปกติอยู่แล้ว

                ที่ผ่านมา หน้ากากมันหายไปไหน?

                อยากบอกว่า "เจ้าที่ประเทศ" ท่านแรง.....

                น้ำยังไม่ทันลด จึงดลบันดาลให้ตอโผล่จนเกรียวกราวกันอยู่ตอนนี้ไง!

                ไอ้บอย มันไม่ดื่ม แต่คุณบอย ๒๐๐ ล้านชิ้น มันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงทำ "โป๊ะแตก"

                เป็นเบาะแสให้เห็นหลังไวๆ ว่าใคร-พวกไหน "วัดครึ่ง-กรรมการครึ่ง"

                ประเภทเรี่ยไรอ้างไปบริจาคช่วยจีน บังหน้า

                ส่งไปขายจีนบ้าง ออนไลน์ขายบ้าง บังหลัง!

                รัฐมนตรีธรรมนัสใจเย็นๆ อย่าเพิ่งลาออกตอนนี้ ถ้าออกตอนนี้ "หน้ากากบอย" จะเป็นชนักปักหลังไปจนตาย

                ธรรมนัสก็หนึ่งในยุทธจักรบู๊ลิ้ม การสืบสาวราวเรื่องจนถึงต้นตอ เชื่อมือ "พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข" รอง ผบ.ตร.ได้เลย

                คร่อกชนิดลิงตกต้นมะพร้าวอย่างบอย ๒๐๐ ล้านชิ้น เจอมือสอบสวนอย่างท่านรองฯ สุวัฒน์

                เดี๋ยวลิงก็ตกต้นมะพร้าวหงายท้อง!

                ที่ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นน่ะ แค่ไล่จี้ไปแต่ละตัวละคร แต่ละสถานที่ ตามที่ปรากฏในฉากแต่ละคลิป

              Thaihealth, Thai mask, พิตตินันท์, ชัย พันธ์ยศ, พรรคภราดรภาพ, สถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน,

                เบอร์โทรศัพท์ รูปถ่าย บุคคลตามคลิป, มิสเตอร์ลี, ลังหน้ากากอนามัยยี่ห้อ Thaihealth Mask

                และข้อความติดต่อซื้อขาย โฆษณา บริจาคในขาย-ขายในบริจาค ต่างๆ เหล่านั้น

                ถูกต้อนหน้า-ต้อนหลังตามเทคนิคสอบสวน แป๊บเดียวแหละ

                ถ้าเป็นธนาธร จะตอบว่า "ผมจำไม่ได้"

                แต่บอย ๒๐๐ ล้านชิ้น ที่ตอบ "ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์" จะจนตรอก จำต้องรู้เลยการณ์เป็นฉากๆ

                เพราะหลักฐานมันยัน ตามสำนวนโจรเรียกว่า "จำนนด้วยหลักฐาน"!

                บอย ๒๐๐ ล้านชิ้น ยังไม่มีใครเผยถึงหัวนอนปลายตีน แค่สร้างโรงรถให้โรงพักหนองปรือ ชลบุรี  คงไม่ถึงให้ได้เป็น "กต.ตร." แน่

                แสดงว่าในยุทธจักรมังกร-มังกือ บอยก็ไม่เบา!

                ฉะนั้น ในอีกทางหนึ่ง

                เพื่อเคลียร์ตัวเองให้ชัดว่าไม่เกี่ยว ธรรมนัสต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางยุทธจักร

                กระชากหน้า "ตัวการ" ที่อยู่หลังฉากเรื่องนี้ออกมาแฉให้ได้ ว่าใครเป็นใครบ้าง

                ในขบวนการ "ขนหน้ากากไปขายนอก"?

                คำว่า ๒๐๐ ล้านชิ้น เหมือน "โม้ปี้ม้า" ก็จริง แต่โม้แค่ตัวเลข ส่วนตัวเรื่อง "ค้าหน้ากาก" มันจริง

                จะมีทั้ง คนการเมือง การตำรวจ การทหาร การเจ้าหน้าที่ ร่วมเป็นขบวนการหรือไม่ ขนาดไหนนั้น

              รอท่านรองฯ สุวัฒน์สอบสวน ให้ ปปง.ตรวจสอบบัญชี ดูเส้นทางเข้า/ออกของเงิน

                ตรวจสอบหน้ากากบริจาคไปจีน ว่าบริจาคไปจริงแค่ไหน

                ที่สำคัญ ส่งทางไหน เมื่อไหร่ จำนวนเท่าใด ทางเครื่องบิน ทางเรือ ทางด่านไหน จะได้ตรวจสอบเอกสารสำแดงแจ้งรายการจากศุลกากรให้ประจักษ์

                อ้อ....

                เรียนรัฐมนตรีจุรินทร์อีกนิด ๑๑ โรงงานผลิตนั้น ไม่ต้องให้ทหารไปคุมผลิตหรอก

                คุมก็แค่เห็นตรงหน้า ว่าผลิตได้ ๑๐๐% ส่งกรมการค้าภายใน ๑๐๐%

                แล้วมันหายล่องหนไปไหน เห็นมั้ย...ก็ไม่เห็น!

                ต้องอย่างนี้จึงจะเห็น ท่านรัฐมนตรีจุรินทร์ ต้องให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบบัญชีและเอกสารต่างๆ ของโรงงานผลิตหน้ากาก

                ผลิตเท่าไหร่ ส่งผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรือส่งตรงขายใคร ราคาเท่าไหร่

                ตรวจย้อนหลังไป ๑ ปี!

                แล้วไปตรวจยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เป็นทอดๆ ไปจนถึงร้านขายปลีก

                ไม่ใช่ตรวจสอบเจตนาจ้องจับเขา แต่สอบเพื่อเอาเป็นข้อมูลจริงๆ ให้รู้ชัด เพื่อใช้บริหาร-จัดการ แบบรู้ข้อมูล

                ต่อไปมีปัญหาหลีกเลี่ยง-หลบซ่อนปุ๊บตรงไหน ก็จะตรวจสอบ จี้ถึงจุดตรงนั้นได้ปั๊บ

                บุคลากรที่ชำนาญด้านนี้ของกระทรวงพาณิชย์มีพร้อมอยู่แล้ว

                ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปดูบัญชีจำหน่าย ดูรายรับการขาย บัญชีสต๊อกสินค้า

                ให้กรมการค้าต่างประเทศ ไปตรวจดูสต๊อกสินค้า

                เนี่ย...สั่งการไปเลยครับ เจ้านาย

                ทำแบบนี้ สมมุติโรงงานตะมุตะมิมีนอก-มีใน ตรวจสอบไม่ได้ ก็ให้มันรู้ไป จะได้ยุบกระทรวงพาณิชย์ไปเลย

                และรู้ไว้ด้วย กรณี "บอยรู้เท่าไม่ถึงการณ์" เจ้าหน้าที่จัดการตามกฎหมาย ไม่ใช่ตำรวจ

                หากแต่เป็น "กรมการค้าภายใน" ส่วนตำรวจเป็นเพียง "ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่" เท่านั้น

                ฉะนั้น คดี "บอย ๒๐๐ ล้านชิ้น" หลุดหรือไม่หลุด อยู่ที่กรมการค้าภายในของท่านรัฐมนตรีจุรินทร์นั่นแหละ ว่ามีข้อมูล หลักฐาน ที่ตรวจสอบได้ขนาดไหน

                อีกซักอ้อ.....

                ในจำนวน ๑๑ โรงงาน เขาโพสต์นินทา ว่างี้....

                กรมมาลงไม่หนำใจ

                ทหารมาอีก

                เราต้องช่วยกันทำเพื่อชาติ และที่เอาไป ท่านคะ เงินยังไม่จ่ายเลย ของไปเงินก็ต้องมา ท่านว่ามั้ยคะ?? 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"