ธรรมนัส-รัฐมนตรีแป้งมัน จุดอ่อน รบ.ประยุทธ์ เสี่ยงคางเปราะ


เพิ่มเพื่อน    

    หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ประเด็นที่หลายคนอยากรู้ก็คือ ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อกรณี ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ตอนนี้กลายเป็น "จุดอ่อน" สำคัญของรัฐบาลประยุทธ์ไปแล้ว โดยเมื่อสื่อยิงคำถามถึงเรื่องจะมีการปรับ ครม.เพื่อทำให้ธรรมนัสพ้นจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

                สำหรับตัวธรรมนัสที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้กว้างขวาง และมีปัญหาเรื่องคดีความที่ประเทศออสเตรเลีย แต่มามีตำแหน่งในรัฐบาล ตามโควตารัฐมนตรีของพลังประชารัฐ ในฐานะธรรมนัสมีบทบาทสำคัญในพรรค เพราะเป็นแม่ทัพใหญ่ให้พลังประชารัฐในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยทำผลงานได้ระดับหนึ่ง กับการเจาะฐานสำคัญของเพื่อไทยในภาคเหนือตอนบนได้บางจังหวัด ผนวกกับสายสัมพันธ์กับแกนนำรัฐบาลพลังประชารัฐ อย่าง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ธรรมนัสเป็นมือทำงานการเมืองทั้งบนดิน-ใต้ดิน ให้กับบิ๊กป้อมมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่ธรรมนัสรับบทบาท "มือประสานสิบทิศ" กับบุคลิก คำไหน-คำนั้น ใจถึง-พึ่งได้

                จึงทำให้บทบาทการเป็นมือดีลตั้งรัฐบาลให้กับพลังประชารัฐและบิ๊กป้อม ในการประสานกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก 10 พรรคในช่วงตั้งรัฐบาลดำเนินไปอย่างราบรื่น รวมถึงแม้แต่กับการดีลกับคนในพรรคประชาธิปัตย์บางปีก ที่ก็จะเห็นได้จากตอนตั้งรัฐบาล ธรรมนัสก็ยังไปปรากฏตัวให้เห็นในร้านกาแฟที่พรรคประชาธิปัตย์ หลายครั้งในช่วงที่ดีลร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐของประชาธิปัตย์ยังอึมครึม จึงทำให้บทบาทการเป็นมือประสานตั้งรัฐบาล เจรจากับหลายกลุ่มของธรรมนัส ทำให้ บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ พอใจไม่น้อยกับการที่ธรรมนัสจัดการภารกิจที่ได้รับมอบหมายหลายเรื่องจนแล้วเสร็จ

                แม้บางช่วงของการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่มีเสียง ส.ส.รัฐบาลเกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 4-5 เสียง จนมีกลุ่มก๊วนพรรคเล็กออกมาพยศ เรียกค่าตัว-โควตาการเมือง ธรรมนัสก็ต้องไปเคลียร์ให้บิ๊กป้อม จนหลุดวาทะ "เบื่อที่ต้องไล่แจกกล้วย" มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่า "กล้วย" ดังกล่าวหมายถึงอะไร

                อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพลักษณ์ที่สังคมกังขากับตัวธรรมนัสตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่การเมือง จนกระทั่งมาเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐและถูกผลักดันให้เป็นรัฐมนตรี มันก็ทำให้ธรรมนัสถูกมองมาตลอดว่า เป็นรอยด่างของรัฐบาลประยุทธ์ 1/2 ทั้งที่เดิมตอนตั้งรัฐบาลมีข่าวว่าประยุทธ์ให้มีการสกรีนรายชื่อรัฐมนตรี คนไหนสังคมกังขาเรื่องประวัติส่วนตัวในทางไม่ดี ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลสกัดไว้ก่อน จนกระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง "ภูมิใจไทย" ก็ต้องเบรก "ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี แกนนำพรรค" ไม่ให้เป็นรัฐมนตรี จนชาดาต้องดันน้องสาวตัวเอง "มนัญญา" มาเป็น รมช.เกษตรฯ แทน ซึ่งตอนนั้นก็มีข่าวว่าธรรมนัสก็จะดันน้องชาย อัครา พรหมเผ่า มารับโควตา รมต.แทน แต่สุดท้ายแกนนำพลังประชารัฐก็ตัดสินใจดันธรรมนัสเป็น รมต.จนได้

                และพอรับตำแหน่งรัฐมนตรีได้ไม่กี่วัน ธรรมนัสก็โดนสื่อต่างประเทศขุดคุ้ยตีแผ่ ประวัติการรับโทษในคดียาเสพติดที่ออสเตรเลียอย่างละเอียดยิบ จนธรรมนัสตั้งรับแทบไม่ไหว และทำให้ภาพลักษณ์ของธรรมนัสที่สังคมกังขายิ่งทรุดหนักลงไปอีก จนกลายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด

                ยิ่งกับศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ที่ธรรมนัสกลายเป็นรัฐมนตรีซึ่งได้รับเสียงไว้วางใจน้อยที่สุด และที่สำคัญ หลายประเด็นที่ ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ อภิปรายซักฟอกธรรมนัสกลางสภาฯ ก็เห็นได้ชัดว่า แม้ธรรมนัสจะพยายามโต้แบบหมัดต่อหมัด โดยอ้างว่ามีเอกสารคำพิพากษาของศาลประเทศออสเตรเลียแบบเดียวกับของฝ่ายค้าน แต่ธรรมนัสได้โต้แย้งแบบ "บรรทัดต่อบรรทัด-คำต่อคำ" เพื่อยืนยันว่า เขาไม่ได้ "รับสารภาพ" ว่ามีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดเรื่องคดีนำเข้ายาเสพติด อย่างที่ ส.ส.อนาคตใหม่ กล่าวอ้างว่าธรรมนัสรับสารภาพ จนบางช่วงธรรมนัสถึงกับหลุดคำพูดที่ว่าไม่ใช่เฮโรอีน แต่เป็น "แป้งมัน" จนกลายเป็นวาทะที่ถูกพูดถึงกันมาถึงทุกวันนี้ จนธรรมนัสได้รับฉายาจากสังคมโซเชียลว่าเป็น "รัฐมนตรีแป้งมัน" ไปเรียบร้อยแล้ว

                ผลจากการซักฟอกดังกล่าว แม้ธรรมนัสจะร่ายยาวแจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านแบบไม่ลดราวาศอก แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อย แม้แต่กับ ส.ส.รัฐบาลค่าย "ประชาธิปัตย์" มองว่าธรรมนัสเคลียร์ไม่ชัดหลายประเด็น และคำโต้แย้งบางเรื่องที่บอกว่ามีเอกสาร ก็ไม่สามารถนำมาชี้แจงกลางสภาฯ ได้ จน ส.ส.ประชาธิปัตย์ร่วม 17 คนบอกว่าต้องกล้ำกลืน ฝืนทน กดลงมติไว้วางใจให้กับธรรมนัส ตามมติที่ประชุม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่มีมติ 24 ต่อ 17 ไว้วางใจธรรมนัส แต่ก็มีเงื่อนไขขอให้นายกฯ ปรับ ครม. โดยนำคนที่สังคมกังขาถึงความสง่างามในการจะเป็นรัฐมนตรีต่อไปออกจากรัฐบาล ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า ไม่ใช่ใครอื่น ก็อดีตผู้กองคนดัง ธรรมนัส-รมช.เกษตรฯ นั่นเอง

                จากสภาพการณ์ข้างต้น ทำให้ธรรมนัสจึงเป็นจุดอ่อน-ตัวฉุดคะแนนนิยม ที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลประยุทธ์มาตลอด

                ยิ่งล่าสุดกับกรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย ที่เป็นเรื่องที่สังคมยากต่อการยอมรับได้ ของ ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือบอย ที่มีอาชีพเป็นนายหน้า อยู่ที่ชลบุรี ที่ตามข่าวที่โยงไปถึง พิตตินันท์ รักเอียด อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 จ.สุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในคณะทำงานของธรรมนัส รมช.เกษตรฯ

                ที่แม้ทั้ง ธรรมนัส-พิตตินันท์-ศรสุวีร์ จะออกมายืนกรานปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ความเชื่อมโยงถึงกัน โดยเฉพาะตัวศรสุวีร์ที่ยืนกรานไม่ได้มีการกักตุนขายหน้ากากอนามัย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 อยู่ กระนั้นสังคมก็ยังไม่เลิกตั้งข้อกังขาในเรื่องนี้

                และสิ่งที่เกิดขึ้นกับข่าวดังกล่าว เรื่องกักตุนหน้ากากอนามัย โดยมีคนในคณะทำงานการเมืองของธรรมนัสเกี่ยวข้อง มันยิ่งทำให้ภาพลักษณ์-ความน่าเชื่อถือของธรรมนัสที่แย่หนักอยู่แล้ว ยิ่งทรุดหนักลงดิ่งไปเรื่อยๆ จนก่อให้เกิดปฏิกิริยาจาก ส.ส.ประชาธิปัตย์ตามมาแบบไม่ทันข้ามวัน กับเสียงกระตุก ”ไม่พายเรือให้โจรนั่ง”

                แม้ปฏิกิริยาของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐมนตรีในเวลานี้จะมีท่าทีไม่ตอบรับต่อเสียงเรียกร้องของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่ให้พรรคทบทวนการอยู่ร่วมรัฐบาล ที่เห็นชัดว่า เป็นข้อเรียกร้องหลัง ส.ส.ประชาธิปัตย์บางส่วนจับกระแสประชาชนได้ว่าเริ่มหมดความอดทนต่อรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะกับตัวธรรมนัส ที่กองเชียร์รัฐบาลประยุทธ์หลายคนก็ยังเอือมระอา แต่แกนนำ ปชป.ที่เป็นรัฐมนตรีก็คงมองว่า ไทม์มิ่งยังไม่ได้ ตอนนี้ต้องให้เรื่องวิกฤติโควิด-19 คลี่คลายไปก่อน จะไปขย่มข้ามพรรคกับพลังประชารัฐคงไม่เหมาะในเวลานี้ กระนั้นประเมินแล้ว ท่าทีของ ส.ส.ปชป.ที่จะกดดันให้ปรับธรรมนัสออกจากรัฐบาลคงไม่หยุดแค่นี้

                โดยแม้จะมีการมองกันว่าเป็นการเล่นการเมืองแบบตีสองหน้า ของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ บางส่วน โดยมีผู้ใหญ่ในพรรค ปชป.คอยไฟเขียว ทว่าก็ต้องยอมรับว่า เป็นการตีสองหน้าที่อย่างน้อยก็ถูกใจคนจำนวนไม่น้อย ที่ ส.ส.รัฐบาลยังเอือมระอาในตัวธรรมนัส

                เห็นแบบนี้แล้ว หากปรับ ครม.เกิดขึ้นเมื่อใด แล้วธรรมนัสยังเก้าอี้เหนียวแน่น เพราะแกนนำรัฐบาลพลังประชารัฐไม่กล้าปรับออก ก็น่าเชื่อได้ว่าอายุรัฐบาลประยุทธ์ก็น่าจะยิ่งสั้นลงเรื่อยๆ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"