นายกฯลั่นสกัดโควิด-19ไปถึงระยะ3


เพิ่มเพื่อน    

  สธ.พบไทยป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 3 ราย เกี่ยวพันกลับจาก "อิตาลี" ชี้สถานการณ์เปลี่ยนไประบาดแถบยุโรป ยังไม่ยืนยัน ตม.สุวรรณภูมิติดเชื้อ รอผลตรวจ 11 มี.ค. นายกฯ ตรวจเยี่ยมสถาบันบำราศนราดูร-กรมควบคุมโรค ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ สั่งดูแลพิเศษให้ค่าเสี่ยงภัย ยันคุมโคโรนาไม่ให้ไปถึงระยะ 3 มั่นใจต้องแก้ได้สักวันไม่ยาวถึงปีหน้า "สาธิต" เผยผีน้อยรายงานตัวแล้ว 74 ราย ขอโทษบางจังหวัดสถานที่กักตัวไม่พร้อม แนะดูงานสัตหีบโมเดล

    ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่จำนวน 3 ราย โดยมีความเกี่ยวข้องกับการเดินทางกลับมาจากอิตาลี โดยรายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีความใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วยชายไทยรายที่ 45 ที่กลับมาจากอิตาลี โดยหญิงรายนี้เริ่มป่วยวันที่ 7 มี.ค. มีอาการไข้ ตรวจวินิจฉัยพบไวรัสโคโรนา 2019 แต่อาการไม่มาก รักษาอยู่โรงพยาบาล (รพ.) ราชวิถี 
    ส่วนรายที่ 2 และ 3 เป็นสามีภรรยากัน โดยภรรยาอายุ 46 ปี กลับมาจากอิตาลีถึงไทยวันที่ 28 ก.พ. แล้วมีอาการไม่สบาย จึงไปตรวจวินิจฉัย เมื่อไปตรวจก็พบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่รายนี้ไม่ได้สัมผัสใคร เพราะรู้ว่ากลับมาจาก 4 ประเทศที่ประกาศเป็นเขตติดโรคจึงระวังมาก ยกเว้นคนในครอบครัวคือสามี อายุ 47 ปี เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เริ่มมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกายวันที่ 7 มี.ค. จึงไป รพ.แล้วตรวจพบเชื้อ โดยทั้ง 2 รายอยู่ในการรักษาของ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม
         นพ.โสภณกล่าวว่า นับผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ถือเป็นผู้ป่วยนำเข้าและการสัมผัสใกล้ชิดในครัวเรือน ซึ่งเป็นผู้ที่เราเฝ้าระวังอยู่แล้ว ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรวมเป็น 53 ราย รักษาหาย 33 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาใน รพ. 19 ราย สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 4,682 ราย กลับบ้านแล้ว 2,844 ราย ยังรักษาตัว 1,838 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วย 108 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ ผู้ป่วยยืนยัน 111,817 ราย เสียชีวิต 3,893 ราย โดยสถานการณ์ในจีนมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ที่น่าห่วงคือ อิตาลี มีผู้ป่วยสะสมและผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้น ใครที่จองตั๋วจะจะไปยุโรปต้องระวังให้มาก ซึ่งไม่ใช่แค่อิตาลี ยังมีฝรั่งเศส สเปน เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ สวีเดน เบลเยียม ที่ขึ้นมาเป็นอันดับท็อป 10 เร็วมาก
         "สถานการณ์ของโรคเริ่มเปลี่ยนไปอยู่อีกภูมิภาคหนึ่งของโลกคือยุโรป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่มีการระบาดในยุโรป หากต้องไปให้ระวังอย่างเต็มที่ ศึกษาเมืองนั้นก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างอิตาลีคงไปไม่ได้ เพราะประกาศปิดล็อกดาวน์ทั้งประเทศ 60 ล้านคน ซึ่งมาตรการนี้ถือเป็นมาตรการตามอย่างของจีน ที่มีการปิดเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ เพื่อควบคุมโรคภายในประเทศที่มีการระบาดอย่างมาก ส่วนประเทศอื่นในยุโรปก็ขอให้เช็กสถานการณ์ ถ้าต้องเดินทางต้องระวังเต็มที่ แต่ดีสุดคือเลี่ยงการเดินทางไป" นพ.โสภณระบุ
         เมื่อถามถึงกรณีแกร็บจากสิงคโปร์มาประชุมที่ประเทศไทย และกลับไปมีอาการป่วย ซึ่งพบว่าเป็นโควิด-19 นพ.โสภณกล่าวว่า ตรงนี้ต้องดูข้อมูลให้ชัดเจน เพราะมาเมืองไทยเวลาสั้นๆ และไม่ได้มีการไปสัมผัสผู้ป่วย เมื่อย้อนดูข้อมูลเริ่มป่วยจะเห็นว่ามีโอกาสสูงที่จะรับเชื้อจากนอกประเทศไทย แต่ยังไม่ด่วนสรุป ขอตรวจทานกับอีกประเทศหนึ่งก่อนว่าน่าจะรับเชื้อที่ไหน ส่วนหญิงออสเตรียป่วยติดเชื้อโควิดมีประวัติมาไทยนั้น ยังอยู่ในระหว่างการประสานขอข้อมูล 
ยังไม่ยืนยันจนท.ตม.ติดเชื้อ
    สำหรับกรณีพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิป่วย และรักษาตัวในสังกัด รพ.กทม.นั้น ขณะนี้ยังเร็วเกินไปจะให้คำตอบ เพราะต้องรอการตรวจยืนยันห้องปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ และประวัติในทางระบาดวิทยา คาดว่าจะสามารถสรุปได้วันที่ 11 มี.ค.นี้ 
    พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รายที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.กลางนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่ เพราะต้องรอผลตรวจเลือดยืนยัน และรอผลอย่างชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง และถ้าหากผลตรวจของรายที่ รพ.กลาง เป็นผลบวกคือติดเชื้อนั้น ทาง รพ.กลางจะมีห้องแยกไม่ให้เกี่ยวพันกับคนไข้รายอื่น ซึ่งเตรียมไว้พร้อม 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจมุ่งมั่นในการแก้ปัญหานี้ให้ได้ การดำเนินการเป็นไปตามลำดับสถานการณ์ หากเปรียบเทียบกับหลายประเทศ ประเทศเราไม่ขึ้นมาก ยังไม่มีตายมาก ต้องชื่นชมการทำงานของบุคลากรทุกส่วน     โดยทำงานภายใต้กฎหมาย 3 ตัว ประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.บรรเทาสาธารณภัย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการเชิงนโยบาย ดังนั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตนบัญชาการจะทำหน้าที่กลั่นกรองมาตรการต่างๆ ที่ฝ่ายแพทย์เสนอขึ้นมา โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับศูนย์ ที่ผ่านมากล่าวหาว่านายกฯ ไม่ให้ความสนใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วถูกใจทุกคน ถ้าสื่อไม่เข้าใจประชาชนก็ไม่เข้าใจทั้งหมด
    นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินการในวันนี้ อาจจะช้าไปบ้าง เพราะเราทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของทั้งประเทศ จะต้องสอดประสานกันตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง จะทำอย่างไรถึงจะบริหารคนเป็นแสนที่จะเข้ามา จึงต้องมีมาตรการคัดกรองติดตามตัว และระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วย สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันเตือนแบบปากต่อปากแล้วแจ้งมา ขอชมเชยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ จนได้สั่งการไปแล้วให้ดูแลเป็นพิเศษ ให้มีค่าเสี่ยงภัย เพราะทำงานเสี่ยงทุกวัน
    ส่วนเรื่องรับบริจาคนั้น ไม่ใช่เงินไม่พอ แต่มีการเสนอมาในครม.ว่า ครม.ควรจะบริจาคดีหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าดี และเพิ่งเริ่มบริจาคกันในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้นำมาใช้อย่างอื่นเลย เก็บไว้เป็นก๊อกสองในการดูแลแพทย์พยาบาล รวมถึงวิกฤตการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน 
    เมื่อถามว่า กรณีผีน้อยที่ถูกกักตัวมีการตั้งวงดื่มสุรานั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สั่งให้ติดตามแล้ว พวกก๋ากั่น ทราบว่าเป็นที่ชลบุรี นี่คือสิ่งที่เราต้องบอกและขอร้องกัน มาตรการชุมชนรู้กันอยู่แล้ว ต้องปฏิเสธเรื่องเหล่านี้ ส่วนคนที่หลบหนีไม่ยอมกักตัวที่บ้าน ขอให้แจ้งมา เรามีมาตรการลงโทษอยู่แล้ว 
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประกาศเพิ่มเติมประเทศที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย นอกจากจีน เกาหลี อิตาลี และอิหร่านว่าขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ 
    นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้หารือถึงการกักตัวผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งการกักตัวในพื้นที่ของรัฐที่ทำอยู่ไม่สามารถยกเลิกได้ง่าย เพราะใช้เวลาถึง 14 วันในการกักตัว แต่หลังจากนี้จะสนับสนุนแนวทางการกักตัวที่บ้านให้มากขึ้น วิธีการนี้สามารถกับคนจำนวนมากกว่าการกักตัวในสถานที่ของรัฐ เรื่องนี้แม้ไม่ได้เป็นมติ ครม. แต่เป็นที่รับทราบว่ารัฐสนับสนุน
ผีน้อยรายงานตัว 74 คน
    รมช.สาธารณสุขยังกล่าวถึงรายงานการกักตัวผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศว่า ที่สัตหีบมี 188 คน ยังสามารถรองรับได้อีก 200 คน ส่วนบุรีรัมย์มี 200 คน ซึ่งสถานที่อาจจะยังไม่พร้อม ต้องขออภัยและกำลังจะปรับปรุงให้ดีขึ้น อาจจะเห็นมีคนโพสต์ที่ไปกักตัวว่าเป็นห้องน้ำรวม ไม่สะดวกสบาย จะมีการปรับปรุง ก็ขอโทษด้วย สถานที่หายากมาก ส่วนที่สัตหีบถือว่ามีความพร้อม เรากำลังจะให้ไปเรียนรู้สิ่งที่ทหารเรือทำที่สัตหีบ ทำทุกอย่างเป็นระบบ การจัดการขยะติดเชื้อ ปลอดภัย คนมั่นใจ ซึ่งวันที่ 10 มี.ค.จะมีไปที่สัตหีบอีก 3-4 เที่ยวบิน ส่วนคนที่หนีการรายงานตัว ขณะนี้มารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว 74 คน จาก 80 คน 3 คน อยู่ใน กทม.กำลังจะเดินทางกลับ ส่วนอีก 3 คนอยู่ระหว่างการเดินทาง 
    นอกจากนี้ มีการเตรียมการสถานที่รองรับอีก 2 จุด คือที่กำแพงแสนและค่ายอดิศร ส่วนการกักตัวตามภูมิลำเนา ผู้ว่าราชการจังหวัดยังตอบมาไม่ครบ และกำลังพิจารณาอยู่ว่า 74 คน ถ้าใครไม่ให้ความร่วมมือจะเอาไปที่สถานที่กักตัวตามภูมิลำเนาที่มีสถานที่ที่ผู้ว่าฯ เตรียมไว้ ถ้าใครให้ความร่วมมือให้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ 
    นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการของประเทศไทยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก คนที่จะเดินทางมาจาก 4 ประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องมั่นใจว่าปลอดภัยถึงให้ขึ้นเครื่องมาได้ เมื่อมาแล้วต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน การกักกันตัวที่บ้านนั้น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และฝ่ายปกครองจะเป็นผู้ดูแล หากใครเจ็บป่วยต้องส่งตัวไปให้โรงพยาบาลเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับทางการจีนในเรื่องของยาที่ใช้รักษา และมีการพัฒนาวัคซีนร่วมกันเพื่อรักษาประชาชนให้ดีที่สุด 
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการในภาพรวมได้พยายามลดการแพร่กระจายเชื้อจากนักเดินทางต่างประเทศ และการแพร่กระจายเชื้อในประเทศ โดยต้องเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อในสถานที่รัฐบาลกำหนด หากพบผู้ป่วยจะรับมาไว้ดูแลรักษาโดยเร็วเพื่อนำไปสู่ห้องแยกทันที ประกอบกับขณะนี้มียาต้านไวรัสจำนวนหนึ่งที่ได้จากทางการจีนเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อให้หายแล้วเป็นจำนวนมาก ยืนยันเรามียาเพียงพอ พร้อมทั้งมีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในประเทศ
    ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เวลา 16.15 น. นายกฯ พร้อมด้วย นายอนุทิน ปลัด สธ. และคณะผู้บริหาร สธ. เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ แพทย์และพยาบาลในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตั้งแต่การตรวจคัดกรองจนถึงขั้นตอนการดูแลรักษา โดยมีนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศราดูร ให้การต้อนรับ
    โดย พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมห้องปฏิบัติการ ARI Clinic หรือคลินิกคัดกรองผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงาน พร้อมให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล รวมทั้งให้กำลังใจผู้ป่วยรายหนึ่งที่รักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อความดันลบ ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และได้มอบกระเช้าอาหารเพื่อสุขภาพให้ผู้ป่วยทุกคน และมอบให้บุคลากรทางการแพทย์
    ต่อมานายกฯ เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์สารสนเทศ กรมควบคุมโรค ซึ่งบริษัทหัวเหว่ยได้มอบเครื่องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 7 เครื่อง เพื่อติดตั้งที่กระทรวงสาธารณสุข 2 เครื่อง, สถาบันบำราศนราดูร 3 เครื่อง, สนามบินสุวรรณภูมิ 1 เครื่อง และโรงพยาบาลบางพลี 1 เครื่อง ซึ่งนายกฯ ได้ทดลองพูดคุยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิและสถาบันบําราศนราดูร โดยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และระบุว่าหาโอกาสมาเยี่ยมอีกครั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ 
คุมโควิดไม่ให้ไประยะ 3
    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอฝากอย่ากังวลเรื่องอื่น ขอความร่วมมือให้ช่วยกันทุ่มเทให้เต็มที่ ส่วนเรื่องคนเข้า-ออกหรือผีน้อย ฝากทุกเขตดูแลประสานต่อเรื่องข้อมูลและให้ช่วยกันเฝ้าระวังดูแลให้ครบ 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดโรค โดยรัฐบาลพยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 หรือให้เข้าสู่ระยะที่ 3 ช้าที่สุด ซึ่งต้องมั่นใจในระบบสาธารณสุขและขีดความสามารถของเรา 
    จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมการทำงานในศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 76 จังหวัด
    ภายหลังตรวจเยี่ยม นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีทุกกรม และผู้ปฏิบัติการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) โดยมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าปัญหาโควิด-19 จะแก้ได้สักวัน จะต้องจบไม่ยาวนานไปจนถึงปีหน้าและปีต่อไป ยืนยันว่าสถานการณ์เราสามารถควบคุมได้ เป็นที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศ ฉะนั้นอยู่ที่ความหนักแน่นของพวกเรา ความเชื่อมั่น และความสำเร็จของทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับการชื่นชมอยู่แล้ว วันนี้ให้กำลังใจแพทย์และพยาบาลไปเยอะแล้ว ให้ไปหมดทั้งหัวใจแล้ว 
     เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะอยู่กับไทยไปถึงเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่สามารถประเมินได้ อยู่กับสถานการณ์ภายนอก แต่ที่สำคัญคือโรคโควิด-19 กลัวความร้อน ขณะที่ไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อน หวังว่าสถานการณ์จะบรรเทาลงได้บ้าง 
    ที่ จ.บุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล  ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ได้ชี้แจงกรณีที่มีผู้นำภาพสถานกักตัวเพื่อสังเกตอาการตามมาตรฐานควบคุมโรค สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ภายในสนามกีฬาเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล พร้อมระบุข้อความว่าไม่มีความพร้อมเรื่องการกักตัวผีน้อย คุณภาพโดยรวมแย่มาก ว่า ภาพดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยถูกส่งตัวมาที่จังหวัดบุรีรัมย์รวมจำนวน 186 คน ในช่วงค่ำ ขณะที่เตรียมสถานที่ไว้รองรับเพียง 60 คน ในส่วน 120 คนนั้น จึงแก้ปัญหาด้วยการจัดหาเต็นท์และพื้นที่รองรับเพิ่มเติม แต่มีคณะกรรมการฯ ไปตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยตามมาตรฐานแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งคัดแยกกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว เพื่อส่งตัวกลับไปกักตัวยังจังหวัดภูมิลำเนาต่อไป โดยจะมีการจัดรถส่งกลับถึงภูมิลำเนา  ซึ่งมีผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 20 คนเท่านั้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"