เลิกพายเรือให้โจรนั่งเดือด! "บิ๊กตู่" บอก "ประชาธิปัตย์" อยากถอนตัวจากรัฐบาล "ก็ถอนไปสิ" ก่อนกลับลำขอโทษปากไว ขออย่านำสถานการณ์โยงการเมือง "อนุพงษ์" สอนมารยาท "ปชป." คิดปรับ ครม.ข้ามพรรค "จุรินทร์" เตือนลูกพรรคไม่ใช่รัฐอิสระ ขออย่าไปก้าวก่ายคนอื่น "นิพนธ์" ตบปากพวกประดิษฐ์คำบั่นทอนคนทำงาน "อันวาร์" ยัน "ปชป." ต้องทบทวนมติร่วม รบ. "พท." ยุส่งต้องออก "ศรีสุวรรณ" หนุนค่ายพระแม่ธรณีฯ หยุดพายเรือ แต่ต้องเคลียร์หน้ากากอนามัยขาดตลาดก่อน "พปชร." ซัดกันปมร้อน "ธรรมนัส" เจอ "ลุงป้อม" คำรามเดี๋ยวไปจัดการ
เป็นประเด็นร้อนแรงตลอดวันอังคารที่ 10 มี.ค.2563 ภายหลังจากไลน์พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีสมาชิกพรรค ปชป.บางส่วนเสนอให้พรรคถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ด้วยถ้อยคำ "เลิกพายเรือให้โจรนั่ง" จากกรณีคณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏภาพคู่กับผู้ที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมายกักตุนหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น
โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำลังเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีสมาชิกพรรค ปชป.บางส่วนเสนอให้พรรคถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ ว่า “ก็ถอนไปสิ”
เมื่อถามว่า แล้วจะทำอย่างไรต่อ ถ้าพรรค ปชป.ถอนตัวขึ้นมาจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ตอนนี้เขายังไม่ถอนนี่
ซักว่าพรรค ปชป.บอกจะทบทวนมติของพรรคที่โหวตไว้วางใจให้กับ ร.อ.ธรรมนัส ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ให้ไปถามพรรคประชาธิปัตย์ดูสิ
ผู้สื่อข่าวถามกรณีในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส จะมีการพูดคุยหรือไม่ เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะมาก จากกรณีเพจดังเผยแพร่คนในคณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัสไปพัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัยส่งขายออกนอก นายกฯ กล่าวว่า จากคณะทำงานที่ส่งลงไปตรวจทุกโรงงานยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และคนที่ถูกกล่าวอ้างก็มาสารภาพแล้วว่าทำอะไรอย่างไร
"ทุกอย่างก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน จะมีการสอบสวนต่อ เจ้าหน้าที่เขายังไม่จบหรอก ขอให้สื่อคิดถึงขั้นตอนกระบวนการบ้าง" นายกฯ กล่าว
มีรายงานว่า ในการประชุม ครม.ตั้งแต่ช่วงเช้า ใช้ระยะเวลายาวนานถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการหารือกันถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายกฯ ค่อนข้างเครียดกับเรื่องนี้ ได้ให้แต่ละกระทรวงเปิดใจในการเสนอแนะแนวทางที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงพาณิชย์ ก่อนจะมีการให้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์ระดับชาติอย่างแท้จริง โดยศูนย์นี้มีนายกฯ เป็นประธาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ ครม.รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน นายกฯ ได้กล่าวหยอกล้อกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ไปช่วยบริหารจัดการพรรคประชาธิปัตย์ให้หน่อย ทำให้ พล.อ.ประวิตร และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ที่นั่งอยู่ด้วยหัวเราะ นายจุรินทร์จึงหยอกกลับไปว่า ยินดีครับ มาช่วยหน่อยก็ดี อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ยังได้อธิบายเรื่องนี้ว่า ปกติของพรรคประชาธิปัตย์เวลาจะตัดสินใจในนามพรรค จะต้องขอมติจากที่ประชุมพรรค โดยบรรยากาศในวงสนทนาเป็นไปด้วยดี ไม่ได้เคร่งเครียดแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังการประชุม ครม.อีกครั้งว่า เมื่อเช้าตนอาจพูดเร็วไปนิด เมื่อสื่อถามเร็วก็ตอบเร็วไป แต่คำตอบตนคือทั้งหมดเป็นเรื่องของมติพรรค เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค และเป็นเรื่องของพรรค ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามให้เป็นมติของพรรค การที่ใครออกมาพูดจาอะไร ตนไม่ตอบโต้กับเขา
'บิ๊กตู่'ขอโทษปากไว
"ในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ให้เสรี และเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคไปบริหารจัดการให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งหัวหน้าพรรค ปชป.รับไปดำเนินการพิจารณาตามมติของพรรค เพราะเป็นเรื่องกลไกทางการเมือง นายกฯ ไม่เกี่ยวตรงนี้ ท่านถามกลับมาเมื่อเช้า ผมตอบเร็วไป ขอโทษด้วย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ถามว่า ต่อจากนี้รัฐบาลจะมีความเป็นเอกภาพในการทำงานหรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 นายกฯ ย้อนถามว่า อะไรคือความไม่เป็นเอกภาพ
"ผมไม่อยากให้มายึดโยงกับสถานการณ์ทางการเมือง การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่วันนี้เราต้องแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน การเมืองผมถึงไม่อยากจะตอบในวันนี้ ผมไม่อยากให้มีความแตกแยกในบรรดาของพรรคร่วมรัฐบาล อำนาจอะไรต่างๆ ของผมก็มีอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาก็ทำของผมเองนั่นแหละ วันนี้ขอให้แก้ปัญหาให้ผ่านพ้นทั้ง 3 อย่างไปก่อน คือ โควิด ภัยแล้ง และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาบางอย่างอาจจะช้าบ้าง เพราะเราทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่คนเพียง 5 หรือ 10 คน" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีจะมีการปรับ ร.อ.ธรรมนัสพ้นรัฐมนตรีหรือไม่ พอถามว่ามีการปลุกกระแสข่าวรัฐประหารอยู่เรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนโต้สื่อว่า ให้ถามข่าวที่มีสาระมากกว่านี้
ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเรื่องสมาชิกพรรค ปชป.ขอให้พรรคทบทวนการร่วมรัฐบาล ไม่อยากพายเรือให้โจรนั่ง ว่าคนที่รับผิดชอบรัฐบาลไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว จะอยู่ได้หรือไม่ได้ อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และการปรับ ครม. เป็นเรื่องของนายกฯ หากจะให้ตนวิพากษ์วิจารณ์ตนไม่อยากพูด อยากให้จบแค่นี้
"ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีการคุยกันในส่วนของพรรคร่วม แต่คิดหรือไม่ว่าพรรคร่วมควรปรับภายในพรรคตัวเองหรือข้ามพรรคไป ผมคิดว่ามันอยู่ที่มารยาท ถ้าอยากจะปรับในส่วนของพรรคตัวเองก็ให้ไปคุยกับนายกฯ ซึ่งน่าจะได้ ส่วนจะปรับหรือไม่เป็นเรื่องของนายกฯ แต่หากจะข้ามพรรคต้องไปดูว่าควรหรือไม่ ผมยังงงว่าที่แสดงความคิดเห็นนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นในนามพรรคหรือไม่ ขอให้มีหลักคิดกันให้ดี" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
ถามถึงมีกระแสเรียกร้องให้ปรับรัฐมนตรีบางคนออกจาก ครม. พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ จะเป็นผู้คิด ไม่ใช่สื่อ ไม่ใช่ตน สถานการณ์ขณะนี้ก็ทำงานไปตามปกติ ข่าวที่ออกมาก็รู้ว่าไม่ได้เรื่อง ตนติดตามมาตลอด เห็นไปยุ่งแต่หน้ากากของปลอมอะไรก็ไม่รู้ คนดีๆ มาพูดให้ฟังว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีการกักตุนหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ถามว่าจะเอาที่ไหนมากักตุน เพราะเราผลิตได้แค่นี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ฟังกัน
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงไลน์สมาชิกพรรคให้ถอนตัวจากรัฐบาลว่า ปชป.ยึดถือวิถีทางประชาธิปไตยภายในพรรคที่มีความชัดเจน รวมถึงระบบระเบียบ ในช่วงที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ความคิดเห็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นมติร่วมกันของ ปชป.ที่ต้องโหวตกัน ได้ 61:16
"ที่มีปรากฏเป็นข่าวแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลายนั้น ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้ แต่ในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมรับฟังทุกฝ่ายว่าเห็นอย่างไร และสิ่งใดต้องเป็นไปตามกติกาของพรรค จะดำเนินการตามนั้น" นายจุรินทร์กล่าว
ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการประชุมพรรคเพื่อหารือจะยังคงร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ในกรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องถึงกรรมการบริหารพรรค ปชป. โดยล่าสุดนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ได้ยื่นมาเพื่อให้พิจารณา ก็ต้องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณา เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตาม
'จุรินทร์'เตือนลูกพรรค
"ในการทำงานร่วมกันต้องมีการปรึกษาหารือและระมัดระวัง ที่ผ่านมาตนก็ระมัดระวัง อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่พูด เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกระทั่งกัน เราไม่ใช่รัฐอิสระ อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่เราแต่เป็นหน้าที่คนอื่น ไม่จำเป็นเราก็ไม่ไปก้าวล่วง เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ตนถือหลักนี้ในการทำงานร่วมกัน" หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว
ถามว่า ส.ส.ปชป.แสดงความคิดเห็นในลักษณะเช่นนี้หลายครั้งแล้ว จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ในที่ประชุมต้องพูดคุยกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันตามลำดับ
นายจุรินทร์กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นหนังสือให้นายกฯ ปรับออกจาก รมต.พาณิชย์ เนื่องจากบริหารงานบกพร่องว่า ไม่เป็นไร เราเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย การตรวจสอบสามารถทำได้ หากกลไกไหนต้องการให้ชี้แจงตนยินดี
"ในช่วงที่ผ่านมาผมตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัย ร่วมมือทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด เพื่อจัดสรรให้เกิดความเพียงพอ และทางกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดสรรให้กับโรงพยาบาล สถานพยาบาลทุกแห่ง ในส่วนกระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรไปยังร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงอื่นที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ถ้าในส่วนของสถานพยาบาลไม่เพียงพอต้องปรับสัดส่วน โดยได้มีการประชุมร่วมกันทุกวันอยู่แล้ว" นายจุรินทร์กล่าว
เช่นเดียวกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรค ปชป. กล่าวถึงเรื่องไลน์สมาชิกพรรค ปชป.ให้พรรคถอนตัวร่วมรัฐบาลเลิกพายเรือให้โจรนั่งว่า การที่ ปชป.มาร่วมรัฐบาลเรามาตามมติพรรค เพราะฉะนั้นการมาบอกพายเรือให้โจรนั่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ความจริงมีหนังสือให้ทบทวนมติเมื่อคืนวันที่ 17 ก.พ. และวันที่ 24 ก.พ. ประเด็นนี้ตนคิดว่าใน ปชป.ต้องพูดคุยกัน
"พวกผมที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ก็ทำหน้าที่กันเต็มความสามารถ ต้องการทำให้เห็นว่า ปชป.เวลามาร่วมรัฐบาลเราก็ทำงานได้ ทำงานเป็นเหมือนกัน ไม่ใช่ดีแต่พูด ดังนั้นที่บอกว่ามาพายเรือให้โจรนั่งนั้น ต้องทบทวนคำพูดให้ดี พูดแล้วมันบั่นทอนกำลังใจคนทำงานเหมือนกัน คิดว่าถ้ามีปัญหาอะไร ปชป.ควรมานั่งพูดคุยกันในพรรค มากกว่าจะพูดตามสื่อข้างนอก และประดิษฐ์ถ้อยคำตำหนิคนอื่น เพราะคนที่ทำงานเขาก็เสียกำลังใจเหมือนกัน" นายนิพนธ์กล่าว
ถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยที่ ปชป.จะถอนตัว รมช.มหาดไทยกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าถ้าพรรคมีมติอย่างไรต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะตอนที่ร่วมรัฐบาลตอนนั้นพรรคก็มีมติเสียงข้างมากที่ค่อนข้างจะเด็ดขาดด้วย แล้วจะมาบอกว่าคนที่มีเสียงข้างมากลงมติให้ไปพายเรือให้โจรนั่งนั้นต้องคิดรอบคอบ
ย้ำว่าคนที่ออกมาพูดจะเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ออกมาตำหนิรัฐบาล คิดว่าเขาต้องการอะไรหรือเป็นเพราะเขาไม่ได้ตำแหน่ง นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดขึ้นอะไร สำหรับตนพยายามที่จะไม่พูดถึงปัญหาเหล่านี้ในที่สาธารณะ ถ้าพูดในพรรคควรจะจบในพรรค แต่ถ้าพูดต่อหน้าสาธารณะทุกวัน เอาเรื่องภายในมาพูดข้างนอกทุกวัน มันก็สะท้อนให้เห็นว่าต้องมีอะไรที่ผิดพลาดบางอย่าง ต้องมานั่งพูดคุยกัน พรรคเป็นของทุกคน ปชป.อยู่มาได้ทุกวันนี้เพราะมติพรรค ไม่มีคำสั่งของใครคนใดคนหนึ่งที่จะมาสั่งคนทั้งพรรคได้นอกจากมติพรรค
“ไม่อยากคิดว่าคนที่ออกมาพูดเพราะอยากมีตำแหน่งอะไร ผมเคารพความเห็นต่าง ไม่เคยตำหนิว่าเสียงข้างน้อยจะเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ต้องดูว่าเสียงข้างมากเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นเราจะเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างไร ที่ผ่านมาเราเคยมีบทเรียนมาแล้ว หากไม่เคารพมติเสียงส่วนใหญ่ของพรรคจะเป็นอย่างไร จะเอาเสียงข้างน้อยมาเป็นมติพรรคไม่ได้ คนเราอยู่ด้วยกันต้องให้เกียรติกัน ดังนั้นปัญหาทุกอย่างต้องคุยกันด้วยเหตุผล อย่าเอาความรู้สึกของคนใดคนหนึ่งที่ไม่ชอบใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นมติพรรค ไม่เช่นนั้นพรรคจะอยู่ด้วยกันไม่ได้” นายนิพนธ์กล่าว
เด็กปชป.ยันต้องทบทวน
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแกนนำพรรค ปชป. ก็บอกถึงการเสนอถอนตัวร่วมรัฐบาลว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติของพรรค ต้องรอการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคอีกครั้งหนึ่ง ตนยืนยันขณะนี้ยังพร้อมทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ตอบโต้เรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรค ปชป.มีแนวคิดที่จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลระบุถอนก็ถอนไปสิ ว่าตนเห็นว่าการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีต่อกรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงอาการที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ของนายกฯ ท่านนายกฯ ควรมีวุฒิภาวะให้มากกว่านี้ เพราะจะทำให้นายกฯ มีบุคลิกที่ไม่ดี และที่สำคัญนายกฯ ควรจะหาเวลาไปนั่งสมาธิบ้าง จะทำให้มีสติปัญญาที่ดีกว่านี้ และสามารถบริหารแก้ปัญหาประเทศชาติได้ดี
"ขอเรียนให้นายกฯ ทราบว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งรองรับเพื่อใคร และสมาชิกพรรคทุกคนไม่ใช่ลูกน้องท่านนายกฯ ที่สั่งซ้ายหันขาวหันได้เหมือนพลทหาร" ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.รายนี้ระบุ
ด้านนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรค ปชป. กล่าวถึงการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่สองส่งถึงหัวหน้าพรรคและ กก.บห.พรรค เพื่อขอให้ทบทวนมติ 24 ต่อ 17 เสียง และกรณีการกักตุนหน้ากากอนามัยที่เพิ่งเป็นข่าวฉาวโฉ่ว่า เมื่อพรรคไม่ได้นัดประชุมตามที่รับปากว่าจะเปิดเวทีรับฟังสมาชิกพรรคในเรื่องต่างๆ จึงมีความจำเป็นต้องยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่สอง
"กรณีรัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติดในต่างประเทศ แล้วบอกว่ามันคือแป้ง อย่างนี้สังคมเขาเชื่อหรือไม่ ผลกระทบต่อความไว้วางใจของสังคมส่งผลกระทบถึงรัฐบาล จึงได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกไปเมื่อ 16.00 น. วันที่ 9 มี.ค.2563 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบใดจากผู้บริหารพรรค" นายอันวาร์กล่าว
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีสมาชิกพรรค ปชป.บางส่วนเรียกร้องให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลว่า ต้องถามหัวหน้าพรรค ประธานสภาฯ ไม่มีสิทธิไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค
ถามว่า สถานการณ์ของพรรค ปชป.ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งที่พรรคถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาลร่วมกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า คนละเรื่องกัน คนละเหตุการณ์ ขณะนี้ต้องไปถามหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค ไปตอบแทนเดี๋ยวหาว่าไปทำเกินขอบเขตและหน้าที่
เมื่อถามถึงเรื่องคนใกล้ชิดของรัฐมนตรีไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย กรรมการจริยธรรมสามารถเข้าไปตรวจสอบได้หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าเราต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วย อย่าดูเฉพาะข่าว เพราะถ้าไม่ได้กลั่นกรองว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรก็สับสนได้ ถ้าเกี่ยวข้องกับ ส.ส. ก็ต้องมีมาตรการและดำเนินการตามกฎหมายได้ ฝ่ายที่มีอำนาจหน้าที่คิดว่าคงไม่ปล่อยเอาไว้
"อย่าไปหูเบามากเกินไป ฟังนะครับฟัง แต่ฟังแล้วไตร่ตรองดูจากความเป็นจริงว่าจริงๆ มันคืออะไร ถ้าเรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องจริง ไม่เพียงแต่เรื่องจริยธรรมเท่านั้น แต่ควรจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้" ประธานสภาฯ กล่าว
'พปชร.'ซัดกันเดือด
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ในฐานะพรรคการเมืองด้วยกัน แนะนำให้พรรคปชป.ควรพิจารณา 2 เรื่อง 1.เคารพตัวเอง การที่ผู้นำรัฐบาลกล่าวเช่นนั้น หากกล่าวจริงตามข่าว มองว่าพรรค ปชป.ควรพิจารณาโดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของพรรคตน มีอายุยืนยาวถึง 70 ปี เมื่อเขาไล่ถึงขนาดนี้จะทนอยู่ไปมันน่าอับอายหรือไม่ คนเราจะมีค่า เมื่ออยู่ในที่ที่เขาตระหนักถึงคุณค่าของเรา 2.เคารพเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของตน ซึ่งได้แก่ 1) นโยบายการประกันรายได้เกษตรกร 2) การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3) การบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เห็นด้วยที่พรรค ปชป. หากจะมีอุดมการณ์หลงเหลืออยู่บ้าง จะได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนการเข้าร่วมรัฐบาล แต่จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคนประชาธิปัตย์เอง เพราะพรรค ปชป. ซึ่งหัวหน้าพรรคนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ และมี ส.ส.อีกหลายคนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอยู่ด้วยนั้นจะเอาด้วยหรือไม่ หรือเป็นเพียงพวกอิจฉาตาร้อน เพราะตนเองไม่มีตำแหน่ง เลยฟาดงวงฟาดงาเล่นๆ ในกลุ่มไลน์ไปวันๆ เท่านั้น แต่หากพรรคประชาธิปัตย์กล้าถอนตัวออกมาจริง ก็จะเป็นนิมิตหมายที่ดีของพรรคในอนาคตที่จะปิดโอกาสเสี่ยงการสูญพันธุ์แน่นอน
"หากจะถอนตัวจริง ขอให้หัวหน้าพรรคและ รมว.พาณิชย์เคลียร์ปัญหาข่าวการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น และการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ล้มเหลวในปัจจุบันให้ได้เสียก่อน เพราะประชาชนเขาตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะกรมการค้าภายในกันทุกวัน" นายศรีสุวรรณกล่าว
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีคณะทำงานถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นว่า ตอนนี้ความจริงปรากฏออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวจะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร รอติดตามพิสูจน์ความจริงตรงนี้ดีกว่า อีกไม่นาน ตอนนี้ตนรู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะกระจ่าง ไม่เกินวันที่ 13 มี.ค.นี้
"ผมเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมาจากเรื่องการเมือง ส่วนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนายพิตตินันท์ รักเอียด จะทราบผลสรุปวันนี้ (10 มี.ค.) แต่เบื้องต้นผมได้ปลดออกจากคณะทำงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ถามถึงกระแสการปรับ ครม. ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า กระแสจากใคร ไม่ได้ออกมาจากปากตน ตนยังมาทำงานตามปกติ ยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีหรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรค พปชร. ออกมาเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัสออกจากตำแหน่ง ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มไลน์ของพรรคพลังประชารัฐที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ทันทีในช่วงค่ำวันที่ 9 มี.ค. โดยนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ซึ่งเป็น ส.ส.ในกลุ่มที่สนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส ได้ส่งลิงก์ข่าวของนายสิระ ที่กดดัน ร.อ.ธรรมนัสให้ออกจากตำแหน่ง พร้อมส่งข้อความว่า "ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย แต่ถ้าจริง การเหยียบกันแบบนี้มันจะดีเหรอครับ" โดยนายสิระเข้ามาตอบทันทีว่า "จริงครับ ไม่ได้เหยียบครับ" จากนั้นทั้งสองคนก็มีการตอบโต้กันไปมาอย่างรุนแรง ถึงขั้นท้าทายให้ลาออกแล้วไปเลือกตั้งกันใหม่
ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เดี๋ยวจะไปจัดการให้ตามคำสั่ง
ถามว่า ในพรรค พปชร.ตอนนี้มีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่มีๆ เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นความคิดเห็นของบุคคล เราก็ไม่ได้ห้ามอะไร และไม่ใช่มติพรรค.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |