10 มี.ค.63-  นายชำนาญ จันทร์เรือง อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) อดีตกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ทางออกของรัฐบาล 3 ป.ตอนนี้มีอยู่เพียง 3 ทาง คือ ลาออก ยุบสภา หรือดื้ออยู่ต่อไป

นายชำนาญ อธิบายเพิ่มว่า ถ้าลาออก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 159 ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ ส.ส. และ ส.ว. โหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมาจากพรรคการเมืองที่มีส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน ขณะนี้เหลือตัวเลือกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จะให้ทั้ง 2 สภาร่วมโหวตตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคหนึ่งมีเพียง 6 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และจากพรรคเพื่อไทย 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ โดยตัวเลือกไม่ว่าจะจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย เป็นไปได้ยากหรือเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสองได้กำหนดว่า หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากรายชื่อที่พรรคแจ้งไว้ ให้ ส.ส. ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งขอให้รัฐสภายกเว้น โดยโหวตร่วมกับ ส.ว. ด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 เพื่อเปิดให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเสนอชื่อของพรรคการเมืองแล้วโหวตเลือกผู้ถูกเสนอชื่อด้วยเสียง 1 ใน 2 ของทั้งสองสภารวมกัน เรียกง่ายๆ ว่านายกฯ คนนอก

"ทั้งนี้พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังเป็นนายกฯ ไม่ได้ ต้องรอให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ว. อย่างน้อย 2 ปี เสียก่อน เว้นเสียแต่ว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญ" 

อดีตรองหัวหน้าอนค. กล่าวว่า ถ้ายุบสภา ก็ไม่แน่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถรวมเสียงได้มากจนกลับมาตั้งรัฐบาลได้อีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญก็คือพรรคที่ร่วมรัฐบาลเองแต่ละพรรคจะแตกเป็นกี่เสี่ยงก็ไม่รู้ สุดท้ายถ้าไม่ลาออกหรือไม่ยุบสภา คือ ดื้ออยู่ต่อไป ทางที่จะไปก็มีอยู่เพียงทางเดียว คือการฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปได้อยู่ 2 วิธีเท่านั้น คือ ฉีกโดยทหาร และฉีกโดยนักศึกษาและประชาชน นอกจากนี้แล้วยังมองไม่เห็นทางออกอื่นใด.