“อันตราย” ที่รออยู่เบื้องหน้า


เพิ่มเพื่อน    

      ลักษณะอาการของรัฐบาลช่วงนี้...น่าจะอยู่ในระดับ จำบ้านเลขที่ไม่ได้ หรือ หาทางกลับเข้ามุมไม่เจอ อะไรประมาณนั้น ด้วยเหตุเพราะอะไรต่อมิอะไรมันประเดประดัง สาดซัดเข้าใส่ ในแบบทุกทิศทุกทาง ทั้งไวรัส ผีน้อย หน้ากาก นั่นยังไม่นับไปถึงฝุ่นพิษ ภัยแล้ง ที่ยังแก้ไม่ได้ แก้ไม่แล้วเสร็จ ฯลฯ โอกาสจะรอดจากยกสอง ยกสาม ไปจน ครบยก หรือไม่??? เลยถูกหยิบมาพูดจา ในวงข้าว วงเหล้า ชนิดพูดกันสนั่นเมือง ไปพอสมควร...

                                   --------------------------------------------------

                ส่วนอะไรที่จะเป็นตัวหัก ตัวโค่น รัฐบาล...ให้ต้องพังพาบ นับสิบ นับร้อย ก็ยังไม่คิดจะลุก ว่าไปแล้วก็ยังมองไม่เห็นภาพถนัดชัดเจนมากมายซักเท่าไหร่นัก คือถ้าหากโดย กลไกตามปกติ รัฐบาลท่านคงพอประคองตัวรอดไปได้สบายๆ เนื่องจากฝ่ายค้าน หรือฝ่ายแค้นนั้น น่าจะยังอยู่ในห้อง ไอซียู ไม่ก็ถูกกักตัวเอาไว้ 14 วัน แถมโอกาสติดเชื้อ ก็น่าจะมีอยู่สูงเอามากๆ โอกาสที่จะสร้างแรงกดดัน สร้างปัญหาให้รัฐบาล ถึงขั้นต้องลาออก ยุบสภา เอาดื้อๆ มองยังไงก็ยังมองไม่เห็น เห็นแต่ประเภทอาจแยกย้าย สลายตัว วิวัฒนาการไปเป็น ลิง เป็น งู ร่วมรับประทาน กล้วย กับรัฐบาลซะมากกว่า...

                                    ------------------------------------------------

                แต่สิ่งที่น่าจะเป็นตัวสร้างแรงกดดัน หรือสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลได้มากกว่า น่าจะเป็นภายในรัฐบาลเอง หรือภายใน พรรคร่วมรัฐบาล นั่นแหละเป็นหลัก หรือโดยเฉพาะภายใน พรรคพลังประชารัฐ ที่ทุกวันนี้ เต็มไปด้วย มุ้ง ไม่รู้จะซักกี่มุ้ง และต่างพร้อมที่จะกางมุ้ง กางเต็นท์ รอจังหวะการ ปรับ ครม. ชนิดแทบไม่ต้องทำงาน ทำการ กันไปแล้ว อันนี้นี่แหละ...ที่น่าจะเหนื่อยกว่า ลำบากกว่า เพราะถ้าหาก จัดสรรปันส่วนผสม ไม่ลงตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเกิดการ ระเบิดจากภายใน ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...

                                   -------------------------------------------------

                อย่างไรก็ตาม...เท่าที่พอเห็นเป็นภาพรางๆ ก็น่าจะได้แก่ กลไกที่ไม่ปกติ ซึ่งกำลังเริ่ม แฟลชแดนซ์ หรือ แฟลชม็อบ อยู่ในทุกวันนี้ ชนิดใครก็ตามที่ไม่ชอบรัฐบาล ไม่ชอบขี้หน้า บิ๊กตู่ กำลังลุ้น กำลังเชียร์ กันชนิดตัวโก่งไป-โก่งมา แต่กระนั้น...คงต้องอาศัยช่วงจังหวะ เวลา อีกเป็นจำนวนไม่น้อย ถึงพอยกระดับให้กลายเป็นม็อบถาวร ได้แบบเบ็ดเสร็จ สมบูรณ์ ไม่ใช่แค่แฟลชไป แฟลชมา อย่างเท่าที่เห็นๆ กันอยู่ในช่วงนี้ ดังนั้น...ในระหว่างที่ต้องใช้ เวลา ก็เลยต้องขึ้นอยู่กับว่าเวลานั้นจะ เป็นใจ ให้กับใครกันแน่ ระหว่างรัฐบาล กับผู้ไม่ชอบขี้หน้ารัฐบาล...

                                   ------------------------------------------------

                คือถ้าหากรัฐบาล...สามารถใช้ เวลา ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด หรืออีกแค่ไม่กี่เดือน หลังจากที่ใช้มาแล้วประมาณ 5 ปี 6 ปี ทำอะไรบางอย่าง ที่มหัศจอรอหันการันยอ ชนิดพลิกสายตากรรมการ หรือเข้าตาบรรดาแฟนที่อยู่รายรอบเวที ระดับอ้าปากค้าง ตกตะลึงพรึงเพริดกันไปเป็นแถบๆ อันนั้นนั่นแหละ...ถึงจะนำไปสู่การ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โอกาสอยู่รอด อยู่ได้ ถึงจะพอเห็นๆ กันมั่ง ไม่ใช่อยู่แบบซังกะตาย หรืออยู่แบบตายไปแล้วครึ่งตัว ค่อนตัว ที่สุดท้าย...ยังไงๆ ก็คงต้องตายกันจนได้ เพราะการอยู่แบบอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรแปลก ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรที่เข้าตากรรมการไม่ว่าข้างเวที หรือรอบๆ เวที เอาเลยแม้แต่น้อย ด้วยสิ่งที่เรียกว่า เวลา นั่นเอง ที่จะหันไป เป็นใจ ให้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ให้มีฤทธิ์ มีเดช มีพละกำลังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                  -----------------------------------------------------

                ชนิดแม้จะเป็นแค่พวกเด็กๆ พวกนักเรียน นักศึกษา ที่แทบไม่รู้อีโหน่ อีเหน่ เรื่องการบ้าน การเมือง เอาเลยแม้แต่น้อย อาจกลายสภาพเป็น ยักษ์ ที่มีกระบองขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ และถ้าหากยักษ์ประเภทนี้ดันมีกระบองขึ้นมาซะแล้ว โอกาสที่จะดื่ม กิน วิกฤติ ต่างๆ เป็นภักษาหาร ยิ่งออกจะเป็นอะไรที่ อันตราย เอามากๆ ชนิดไม่ต้องไปนำภาพจำลอง เหตุการณ์จำลอง จากยุคอดีต เมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว อย่างภาพ เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ มาอ้างอิงให้เสียเวลา เพราะอาจต้องนำเอาภาพ เหตุการณ์ฮ่องกง มาใช้เป็นภาพจำลองสถานการณ์กันแทนที่ โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะเตลิดเปิดเปิงเกินไปกว่า จินตนาการ หรือเกินไปกว่า ซิเนริโอ ที่วาดๆ เอาไว้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...

                                  -----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้นี่เอง...จึงทำให้ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะบริหาร จัดการ เวลา เท่าที่เหลืออยู่ ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง หรือกับสังคม ประเทศชาติ ได้มาก-น้อยไปกว่ากัน โดยที่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลนั้น คงไม่ต้องประดิษฐ์ คิดค้น อะไรมากมายนัก แค่รอให้ทุกสิ่งทุกอย่างไหลมาเข้าทางเท้า เข้าทางตีน ไปได้เรื่อยๆ แต่ฝ่ายรัฐบาล หรือผู้ให้การสนับสนุนรัฐบาลนี่สิ!!! คงต้องคิดหน้า คิดหลัง นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด ประมาณ 8 ตลบ 10 ตลบ เป็นอย่างน้อย ถึงจะสามารถ ป้องกันอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้ หรือในอีกไม่ช้า-ไม่นานนับจากนี้...

                                  ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Austin Dobson... “Times goes, you say? Ah no! Alas, Times stays, we go. – ท่านพูดว่า...เวลาผ่านไปแล้ว ไม่จริงเลย! เวลานั้นยังอยู่ แต่ตัวเรานี่สิ ได้ผ่านไปแล้ว...”

                                 ------------------------------------------------------ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"