ขอเสือกอะไรหน่อยนะครับ!

                "ธรรมนัส พรหมเผ่า" เซ็นใบลาออกเสียวันนี้เลย แล้วรีบนำไปยื่นให้ "ลุงตู่"

                เขาเรียกว่า "ความรับผิดชอบทางการเมือง"

                ก่อนมันจะลามไปถึง "ลุง" แล้วรัฐบาลจะล้มลง เพราะ "หน้ากากอนามัย"

                เตือนนะ....อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของประชาชน!

                ในขณะที่ประชาชนต้องการหน้ากากอนามัย ไปเข้าแถวรอตั้งแต่ตี ๓ ตี ๔ ซื้อมาแปะ จมูก ปาก ได้คนละไม่กี่ชิ้น

                เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดมาวันสองวันนี้ ดำเนินมาเป็นเดือนแล้ว ประชาชนวิ่งตามหากันตีนขวิด

                แต่คนชั่วที่พัวพันกับคนในรัฐบาลกลับกักตุนไปขายล็อตใหญ่ให้นายทุนเป็นล้านชิ้น

                ต้องเลวแค่ไหนถึงจะทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้ได้

                หรือมันเป็นสันดานโจรที่แก้ไม่หาย

                "ธรรมนัส" จะรู้เห็นด้วยหรือไม่ เลิกพูด! เพราะมันเลยจุดนั้นมาแล้ว

                ตอนนี้ประชาชนอยู่ในอารมณ์โกรธ

                และต้องการ "ผู้รับผิดชอบ"

                "ลุงตู่" ต้องตัดสินใจ!

                หากติดตรงที่ต้องบริหารจัดการพรรครัฐบาล ก็ขอให้ตระหนักว่า การบริหารจัดการความเดือดร้อน และความไม่พอใจของประชาชนนั้นสำคัญกว่าหลายเท่าตัว

                รู้ว่ารัฐบาลมีงานเยอะ "ลุงตู่" ก็มีงานให้ตัดสินใจไม่น้อยกว่าใคร แต่ประชาชนทุกคนก็ล้วนมีงานต้องทำ และต้องตัดสินใจเช่นกัน

                ขณะนี้สถานการณ์หน้ากากอนามัยยังพออยู่ในข่ายที่สามารถกอบกู้ได้

                บุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับอย่างเพียงพอเป็นอันดับแรกและโดยเร็ว ถ้ายังมีหมอ นางพยาบาล โรงพยาบาลไหนออกมาบอกกับสังคมว่า ยังขาดหน้ากากอนามัย รัฐมนตรีสาธารณสุข รัฐมนตรีพาณิชย์ สมควรลาออกทันที

                ส่วนประชาชนต้องสามารถหาซื้อได้ตามที่จำเป็น

                และการกักตุนจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

                นี่คือการบริหารจัดการในเรื่องที่ไม่ใหญ่ เมื่อเทียบกับศักยภาพของความเป็นรัฐบาล แต่วันนี้กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก

                และอาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ประชาชนจะไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจให้รัฐบาลอยู่ต่อ

                เมื่อวันที่ประชาชนสิ้นศรัทธามาถึง จะแก้ไขอะไรมันก็สายไปแล้ว

                แต่....เท่าที่ฟังการแถลงข่าวของ "สาธิต ปิตุเตชะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าถึงกับสะอึก! เพราะยังมีประโยค "หากหน้ากากอนามัยขาดแคลนจริง" โผล่มาให้ได้ยินอีก

                เมื่อไหร่จะยอมรับความจริงว่า หน้ากากอนามัยขาดแคลน และมันขาดตลาดทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในไทย

                เมื่อรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขยังไม่เชื่อสนิทใจว่าขาดแคลนจริง มันก็สะท้อนถึงวิธีการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ว่าไม่มีประสิทธิภาพ จนชาวบ้านพากันด่าขรมในเวลานี้

                เขื่อนแตกเมื่อไหร่ก็จบ!.