กลายเป็นประเด็นฮ็อตที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ หลังจากที่ "เพจแหม่มโพธิ์ดำ" โพสต์แฉพฤติกรรม "ศรีสุวีร์" หรือ "บอย ไนท์มาร์เก็ต" ซึ่งเป็นคนรู้จักของ "พิตตินันท์ รักเอียด" ที่ปรึกษา "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่ามีพฤติกรรมกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น เพื่อนำส่งขายที่จีนและอีกหลายประเทศ
          แถมเพจดังยังเผยคลิปที่ทำให้ 2 ดาราดัง "เล็ก ไอศูรย์" และ "พีท ทองเจือ" เข้าข่ายต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับศรีสุวีร์ ทำเอาสองดารางานงอกเลยทีเดียว ล่าสุด พีท ทองเจือได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่กำลังร้อนแรงผ่านทาง รายการโหนกระแส
          "งานเข้านิดหน่อยครับ ไม่รู้จักศรสุวีร์เลย เมื่อเช้าเห็นคลิปเหมือนกัน เหตุการณ์เกิดตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์และวันนั้นผมถ่าย ทะเลเดือด ของโคลิเซียมฟิล์ม ช่อง 7 ที่พัทยา ตอนโมเมนต์ของคลิปนั้นผมกำลังรอเข้าฉาก รอหน้าเซ็ต ผู้ชายคนนี้เขาก็ไลฟ์ ผมเพิ่งเห็นเขาเดี๋ยวนั้นเลย เขาก็ไลฟ์และบอกว่าให้ทักทายชาวพัทยา เราก็ไม่อยากเสียมารยาทก็เลยทักทายชาวพัทยา แค่นั้น ถ้าสังเกตดีๆ กล้องเดินไปหาผม ผมไม่ได้เดินไปในกลุ่ม พอเขาได้ภาพ เขาก็เดินไปตรงอื่น ผมก็ถือว่าผมเป็นผู้เสียหาย 1 คน จริงๆผมไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ คือถ้าคนบริสุทธิ์ใจแล้วไม่ได้เกี่ยวข้อง  มันเป็นแค่คลื่นกระทบเฉยๆ แต่ในแง่คลื่นที่โดนกระทบ ก็เดี๋ยวออกจากรายการต้องไปแจ้งความ

          หน้ากากอนามัยที่บ้านยังต้องหาซื้ออยู่เลยครับ เราก็อยากได้รุ่นที่ดีๆ แต่ก็ไม่ได้ ได้ตามที่ตลาดเขามีขาย ตอนเจอไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนกักตุน ถ้าให้เจออีกครั้งก็จำหน้าเขาไม่ได้ เพราะแค่แว้บเดียวที่เขาเดินมาหาเรา ปกติเราเจอแฟนๆ พี่น้องเยอะก็จำหน้าไม่ได้ คนไปกองถ่ายเยอะ ไม่แน่ใจว่าไปหาพี่เล็กหรือใคร
          อยากบอกคนที่กักตุนหน้ากากว่าสิ่งที่เขาทำไม่เหมาะสมกับสังคมไทย เลวเลย เรื่องบาปบุญมีจริง ตอนนี้ยังไม่เห็น แต่มันกลับไปหาคุณแน่ๆ แล้วถ้าเข้ากระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะโดนดำเนินคดี หรืออะไร ผมเชื่อว่าต้องถูกดำเนินการอย่างสูงสุด ส่วนตัวผมหวังว่าภาครัฐจะดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหาบทลงโทษให้พี่น้องทุกคนสบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ อีกนิดนึงคือผมจริงๆเป็นแค่ประชาชนธรรมดาที่เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ ไม่ว่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่บอกเลยว่าวินาทีนี้ไม่มีความปลอดภัยเหลือแล้ว แค่เราขยับตัวออกจากห้องนอน เชื้อโรคเข้ามาในตัวเราได้เลยโดยเราไม่รู้ตัว"

          นอกจากนี้ทางรายการยังต่อสายถึงดารารุ่นเก๋า "เล็ก ไอศูรย์" โดยเจ้าตัวยืนยันว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของ "บอย ศรสุวีร์"
          "พี่ไม่ได้ขายหน้ากากครับ ข่าวที่ออกเป็นข่าวที่ผิดครับ รู้จักคุณบอย ศรสุวีร์ ทำร้านอาหารที่พัทยา คบกันมา 4-5 ปีแล้ว มาเยี่ยมกองถ่ายของเรา เหมือนน้องๆทำธุรกิจใหม่ๆก็ให้ช่วยโปรโมตให้หน่อย ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้คิดว่าเป็นอะไรที่ใหญ่โต และเข้าใจผิดขนาดนี้
          ที่ศรสุวีร์บอกในคลิปว่าเขากับพี่เล็กและทีมงานจะส่งหน้ากากไปต่างประเทศ คือเวลาน้องๆเขาทำธุรกิจ เขาชอบใช้ชื่อพวกเราโปรโมต พี่ก็ไม่รู้ด้วยว่ามันผิดกฎหมายหรือเป็นอะไรที่ใหญ่โต พี่ไม่รู้รื่องอะไร ในเมื่อเราไม่ได้ทำอาชีพนี้ ไม่ได้ค้าขายอาชีพนี้ ไม่ได้ขายสักชิ้นเลย ไม่รู้ว่าถูกด่าเยอะขนาดนี้ได้ยังไง แค่ช่วยโปรโมตธุรกิจ
          จะแจ้งความไหมเหรอ พี่ยังไม่รู้เลยว่าค่าเสียหายมันเกิดขึ้นเยอะขนาดไหน คนด่าพี่เยอะมาก ว่าพี่ไปมีส่วนในการส่ง เราไม่ได้ทำอาชีพนี้ เราบริสุทธิ์ ประชาชนย่อมให้อภัย ถูกต้องไหม เรื่องนี้พี่ไม่รู้เรื่อง ตอนแรกยังไม่รู้ข่าว เพิ่งรู้ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว รับสายนักข่าวทุกเล่ม อธิบายให้ทุกคนฟังว่าไม่ต้องห่วง ไม่เคยขายหน้ากากเลย เข้าใจผิดทั้งหมด
          เราไม่รู้เรื่องการตุนหน้ากากของเขาเลยครับ เราไม่เคยไปยุ่งธุรกิจคนอื่นเขา เราแค่พรรคพวกกัน เขาทำอะไร เหมือนเพื่อนเปิดร้านอาหาร ก็ช่วยบอก ช่วยโปรโมต เราอยู่วงการบันเทิงก็มีพวกเยอะ เราก็เชิญชวน ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็ช่วยโปรโมตให้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย"