สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ยังรุนแรงและกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นทั่วโลก หลังจากยอดผู้ติดเชื้อนอกจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 90,000 คน ครอบคลุมมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
จากผลกระทบดังกล่าวนั้น ทำให้ความต้องการใช้อุปกรณ์ป้องกัน ไม่ว่าจะหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ เริ่มขาดตลาด จนกระทั่งปัจจุบันเข้าสู่ภาวะหายไปจากตลาด ทำให้เกิดความสงสัยกันว่า แล้วมันหายไปไหนทั้งๆ ที่ภาครัฐออกมาประกาศกันป่าวๆ ว่ามีการเร่งรัดผลิตถึง 30 ล้านชิ้น แต่ ณ ปัจจุบันมีเงินก็ยังซื้อไม่ได้
แม้กระทั่งโรงพยาบาลหลายๆ แห่งออกมาประกาศกันอย่างชัดๆ ว่า ขณะนี้หน้ากากอนามัยอยู่ในภาวะวิกฤติ สต๊อกที่มีเริ่มน้อยลง และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับจัดสรรหน้ากากอนามัยไปถึงโรงพยาบาลเมื่อใด ทำให้ต้องมีการจำกัด บางโรงพยาบาลให้เจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล เบิกได้เพียงวันละ 1 แผ่น ซึ่งไม่พอต่อการใช้งาน
เดือดร้อนถึงรัฐบาลที่ต้องมาควบคุมและกำกับดูแล โดยเฉพาะกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ที่มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรง ถึงกับส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมการผลิต การเปิดบูธขายหน้ากากราคาถูกที่กระทรวงพาณิชย์สนามบินน้ำ คนก็แห่แหนไปซื้อกัน จนต้องเข้าแถวเรียกว่ายาวเหยียดไปถึงสุไหงโก-ลกเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
จนล่าสุด อธิบดีกรมการค้าภายในอย่าง วิชัย โภชนกิจ ประกาศชัดว่า ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.2563 เป็นต้นไป จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย (แบบสีเขียว) ที่ประชาชนใช้สำหรับป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 โดยในกรุงเทพฯ จะมีจำนวน 10 สาย และต่างจังหวัดจะดำเนินการร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด คือ ชิ้นละ 2.50 บาทหรือไม่ หากพบว่ามีการจำหน่ายเกินราคา จะดำเนินการจับกุมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับทันที
พร้อมกันนี้ยังฝากเตือนไปยังร้านค้าทั่วไป ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือผู้ที่จำหน่ายทางออนไลน์ ให้จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าไม่ทำตาม จะมีความผิด และถูกจับกุมดำเนินคดีไม่มียกเว้นทุกราย และเฉพาะทางออนไลน์ หากเป็นทางเฟซบุ๊กจะมีการประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้ามาช่วยตามตัว ส่วนที่ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ขายผ่านทางมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ไม่เพียงแต่เล่นงานคนขาย จะดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มและมาร์เก็ตเพลสที่ปล่อยให้มีการขายเกินราคาที่กำหนดด้วย มีโทษเท่ากัน
พร้อมทั้งระบุว่า การกระจายหน้ากากอนามัยที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยได้รับมาวันละ 1.2 ล้านชิ้นจาก 11 โรงงาน ยังคงแบ่งสัดส่วนการระบายเช่นเดิม คือ 7 แสนชิ้น ให้กระทรวงสาธารณสุขกระจายให้กับโรงพยาบาล สถานพยาบาลทุกสังกัด ทั้งรัฐและเอกชน ส่วนอีก 5 แสนชิ้น กรมการค้าภายในจะเป็นผู้ระบายให้กับประชากร 65 ล้านคน โดยส่วนหนึ่งจะกระจายให้กับการบินไทย เพื่อให้นำไปให้ผู้ที่ให้บริการทั้งในสนามบินและบนเครื่องบินใช้ กระจายให้กับร้านขายยา และร้านสะดวกซื้อ คือ เซเว่นอีเลฟเว่น, มินิ บิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส, แฟมิลี่มาร์ท และรถโมบาย 111 คัน กระจายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
และยังยืนยันอีกว่าขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้เร่งจัดส่งหน้ากากอนามัยไปให้โรงพยาบาล สถานพยาบาล ที่มีปัญหาขาดแคลนเป็นการเร่งด่วนแล้ว โดยจะส่งให้รายที่มีปัญหาก่อน จากนั้นจะทยอยส่งไปให้ทุกที่ ซึ่งปริมาณที่ส่ง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนการจำหน่ายให้กับประชาชน ก็จะกระจายผ่านช่องทางที่มีอยู่ และจะเน้นผ่านรถโมบายมากขึ้น เพราะวิ่งตรงเข้าถึงชุมชนเลย
ต้องยอมรับมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศป่าวๆว่าได้ดำเนินการแล้วได้เร่งแล้ว แต่ก็ยังทำให้เกิดความสงสัยว่า แล้วทำไม่หน้ากากอนามัยยังขาดแคลนและหายาก จนถึงขนาดว่า สมาคมร้านขายยาได้โพสต์ข้อความในเฟชบุ๊กอย่างชัดเจนว่า "สมาคมร้านขายยา ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าจนถึงขณะนี้ ทางสมาคมฯ ยังไม่เคยได้รับ หน้ากากอนามัยจากกรมการค้าภายในเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ขอเรียกร้องให้กรมการค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัย ให้แก่ทางสมาคมฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง"
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ได้แต่สร้างความฉงนงวยงง ว่าแล้วหน้ากากอนามัยล่องหนไปที่หนแห่งใดกันแน่ แล้วใครเป็นคนที่ตอบข้อเท็จจริงนี้ให้กับประชาชนได้?.
บุญช่วย ค้ายาดี
++++++++++++
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |