7 มี.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวขณะ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “เมื่อพรรคอนาคตใหม่เป็นอดีต:อะไรจะเกิดขึ้นกับฝ่ายค้านต่อไป”
โดยนายธนาธร กล่าวช่วงหนึ่ง ถึงการออกมาชุมนุมแฟลชม็อบของนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทยว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการกับเคลื่อนไหวดังกล่าว หกแต่สิ่งทีเกิดขึ้นเกิดจากจุดประกายทางความคิดและสร้างบันดาลใจกันและกัน และยอมรับว่า ตนประหลาดใจที่เห็นนักศึกษาเหล่านี้ออกมาเคลื่อนไหว
นายธนาธร กล่าวว่าในอนาคตข้างหน้า เราจะต้องนำพาทุกภาคส่วนให้ร่วมมือกัน ออกมาเพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราจะต้องทำมันให้สำเร็จ และต้องไม่เสียโอกาสนี้โดยเด็ดขาด สำหรับตนรูปแบบและวิธีการสามารถยืดหยุ่นได้ แต่ที่สำคัญคือ อุดมการณ์ต้องไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการชุมนุมของนักศึกษาจะไม่บานปลายเหมือนในฮ่องกง เพราะพวกเขารู้จักการชุมนุมอย่างสันติวิธี
"แต่คำถามที่สำคัญคือ อะไรจะเป็นข้อเรียกร้องร่วมกันทีฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลจะยอมรับร่วมกันได้ โดยข้อเรียกร้องทั่วไปมีอยู่ 2 ทางคือ 1.ให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ 2. คือยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่าทางออกเดียวที่นักศึกษาจะพอใจ คือ ต้องยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไม่อยู่ ก็ตาม ระบอบเผด็จการก็ยังคงดำเนินต่อไป"
อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง 35 ล้านเสียง 47% เลือกพรรคที่มีจุดยืนไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ 25% เลือกพรรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่อีก 27 % เลือกพรรคที่ไม่แสดงจุดยืนว่าเอาหรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ระยะห่างระหว่างคนที่เอาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นต่างกันมากแต่กลับกลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่สะท้อนผลการเลือกตั้งและไม่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่แท้จริง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |